สินเชื่อที่อยู่อาศัย

เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคนไทย โดยเฉพาะคนที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเริ่มหมดกำลังผ่อนในสินทรัพย์ต่างๆ ของตัวเองที่ได้ก่อนหนี้ไว้ ในอัตราดอกเบี้ยที่เกินจะรับไหว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือหนี้ประเภทอื่นๆ เพราะล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM เปิดตัวโครงการ "คลินิกแก้หนี้" เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนทั่วไปอย่างเป็นระบบ

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

ลดภาระหนี้แบบสบายใจและยิ้มได้ กับโครงการ "คลินิกแก้หนี้"

     เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคนไทย โดยเฉพาะคนที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเริ่มหมดกำลังผ่อนในสินทรัพย์ต่างๆ ของตัวเองที่ได้ก่อนหนี้ไว้ ในอัตราดอกเบี้ยที่เกินจะรับไหว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือหนี้ประเภทอื่นๆ เพราะล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM เปิดตัวโครงการ "คลินิกแก้หนี้" เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนทั่วไปอย่างเป็นระบบ

     ดูเหมือนว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับหนี้ส่วนบุคคล ไม่ได้มีความเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด แต่จริงๆ แล้วมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่กำลังเป็นหนี้ค่าผ่อนบ้านอยู่ เพราะในปัจจุบันดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นจนกำลังผ่อนของตัวเองเริ่มไม่ไหว หรือแม้แต่คนที่นำรายได้ของตัวเองไปผ่อนบ้านจนหมด แล้วใช้บัตรเครดิตกดเงินมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว จนก่อหนี้มากมาย ดังนั้นคลินิกแก้หนี้ จึงเป็นทางออกที่จะเข้ามาช่วยได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าจึงสามารถชำระผ่อนได้สบายกว่านั่นเอง จากเดิมที่ต้องจ่าย 20 - 25% จะลดลงเหลือ 4 - 7% เท่านั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงรายได้ของคุณด้วย

 

คลินิกแก้หนี้คืออะไร

     คลินิกแก้หนี้ หรือ "โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน" เป็นนโยบายของภาครัฐที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนรายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งให้มีโอกาสปลดหนี้ โดยมีบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM เป็นตัวกลางในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เหมือนกับ One Stop Service ที่ลูกหนี้แค่มาเจรจาที่คลินิกแก้หนี้ที่เดียวก็เหมือนกับได้ติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เรียกได้ว่า "หนี้บัตรทบ จบที่เดียว"

 

ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ

 มีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ 17 ธนาคาร ได้แก่

  • ธนาคารกรุงเทพ
  • ธนาคารไทยพาณิชย์
  • ธนาคารกสิกรไทย
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารทหารไทย
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
  • ธนาคารไอซีบีซี
  • ธนาคารเกียรตินาคิน
  • ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
  • ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
  • ธนาคารธนชาต
  • ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย
  • ธนาคารทิสโก้
  • ธนาคารยูโอบี
  • ซิตี้แบงก์
  • แบงค์ออฟไชน่า
     

คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ

  • ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี (ต้องไม่เกินตลอดอายุที่อยู่ในโครงการ)
  • มีหนี้รวมห้ามเกิน 2,000,000 บาท
  • มีหนี้กับธนาคารมากกว่า 2 แห่งใน 17 ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ
  • จะต้องเสียดอกเบี้ยตั้งแต่ 4% – 7% ต่อปีเท่านั้น

อัตราดอกเบี้ย

  • รายได้ต่อเดือน 100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยที่ 7% ต่อปี
  • รายได้ต่อเดือน 50,000 – 100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยที่ 6% ต่อปี
  • รายได้ต่อเดือน 30,000 – 50,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยที่ 5% ต่อปี
  • รายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยที่ 4% ต่อปี
  • รายได้ต่อเดือน  ไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไปเสียดอกเบี้ยที่ 4% ต่อปี

 

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ

  • ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ 
  • กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร และยืนยันข้อมูลผ่านเว็บไซต์
  • รอเจ้าหน้าที่โครงการติดต่อกลับ เพื่อนัดหมาย วัน เวลา เข้าพบที่สำนักงาน 
  • จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับประกอบการพิจารณา
  • พบเจ้าหน้าที่โครงการที่สำนักงานโครงการ เพื่อพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้
  • เจ้าหน้าที่โครงการจะนัดหมาย เพื่อลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อได้รับการยืนยันจากธนาคารเจ้าหนี้ให้เข้าร่วมโครงการ

 

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการพิจารณา

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี)
  • เอกสารการตรวจสอบข้อมูลภาระหนี้จากเครดิตบูโร
  • สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
  • เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
  • บัตรเงินบำนาญ (กรณีเป็นข้าราชการ)
  • ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย (กรณีเป็นข้าราชการ)
  • หลักฐานการแสดงรายได้อื่น เช่น สัญญาให้เช่า สัญญาว่าจ้าง ฯลฯ
  • ใบแจ้งหนี้/เอกสารแสดงความเป็นหนี้
  • หนังสือยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตบูโร

 

ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากโครงการคลินิกแก้หนี้

  • ไม่ถูกทวงถามหนี้จากเจ้าหนี้หลายราย
  • ลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน เพราะชำระเฉพาะเงินต้นค้างชำระ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราผ่อนปรนไม่เกิน 7% ตามช่วงรายได้ ระยะเวลาผ่อนชำระได้ไม่เกิน 10 ปี
  • เป็นการรวมหนี้ และผ่อนชำระในที่เดียว
  • รู้จักวางแผนทางการเงินที่ดี

 

หากสนใจเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของคลินิกแก้หนี้โดยตรงหรือ คลิกที่นี่

  • "โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน" ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้าน* 2 ปีแรกดอกเบี้ยคงที่ 1.99% ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียม ...
  • ผ่อนบ้านไม่ไหวเอายังไงดี! แนะนำ 9 วิธี ช่วยแก้ปัญหาได้
  • กู้ซื้อบ้าน กู้ให้ผ่าน ต้องทำยังไงบ้าง?
  • สินเชื่อซื้อบ้าน ไม่ผ่าน!! สาเหตุใดบ้างที่มักจะเป็นคำตอบจากธนาคาร
  • 8 ข้อควรรู้เกี่ยวกับราคาบ้านและที่ดิน
  • 10 เหตุผลที่หมายถึงตัวคุณไม่พร้อมซื้อบ้าน ทำสินเชื่อโอกาศอนุมัติยาก
  • สินเชื่อบ้านทีเอ็มบีรีไฟแนนซ์ ผ่อนบ้านเรื่องเบาๆ ไม่ต้องรีบผ่อนทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย 2 งวดแรก
  • ธอส.ปล่อยเงินกู้ รายได้ไม่ถึง 15,000/ด. กู้ซื้อบ้านได้ 1.5 ล้าน กับโครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก ปี 2558
  • ปลดหนี้บ้านก่อนกำหนด ต้องคำนึงถึงผลที่ได้ และผลเสียที่อาจจะไม่คุ้มสำหรับใครบางคน
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • ออมสินปรับลดเงินงวด สินเชื่อ "ผ่อนบ้านดี มีเฮ" สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะปัจจุบัน ถึง 30 ก.ย. นี้
  • ลดภาระหนี้แบบสบายใจและยิ้มได้ กับโครงการ คลินิกแก้หนี้

    เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคนไทย โดยเฉพาะคนที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเริ่มหมดกำลังผ่อนในสินทรัพย์ต่างๆ ของตัวเองที่ได้ก่อนหนี้ไว้ ในอัตราดอกเบี้ยที่เกินจะรับไหว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือหนี้ประเภทอื่นๆ เพราะล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM เปิดตัวโครงการ "คลินิกแก้หนี้" เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนทั่วไปอย่างเป็นระบบ

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll