สินเชื่อที่อยู่อาศัย

การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งอาจจะมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าธนาคารจะไม่ปล่อนสินเชื่อให้เลย ในทางกลับกัน ธนาคารนั้นมีอัตราการแข่งขันสูงขึ้น เพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ธนาคารมองกว่า มีเครดิตที่ดีพร้อมตามเกณฑ์ที่ธนาคารตั้งไว้ ซึ่งคนส่วนมากยังจำเป็นต้องใช้แหล่งเงินจากธนาคารในการซื้อบ้าน การขอสินเชื่อหรือกู้เงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น คุณต้องทำความเข้าใจและศึกษาในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินมากเกินความจำเป็นได้

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

เคล็ดลับการกู้ซื้อบ้านแบบสบายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือน

 การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งอาจจะมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าธนาคารจะไม่ปล่อนสินเชื่อให้เลย ในทางกลับกัน ธนาคารนั้นมีอัตราการแข่งขันสูงขึ้น เพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ธนาคารมองกว่า มีเครดิตที่ดีพร้อมตามเกณฑ์ที่ธนาคารตั้งไว้ ซึ่งคนส่วนมากยังจำเป็นต้องใช้แหล่งเงินจากธนาคารในการซื้อบ้าน การขอสินเชื่อหรือกู้เงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น คุณต้องทำความเข้าใจและศึกษาในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินมากเกินความจำเป็นได้

 

 เครดิตของคุณต้องดี

     ก่อนที่คุณจะขอกู้ซื้อบ้าน คุณต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าติดเครดิตอะไรบ้าง ทำเครดิตเสียหรือไม่ และติดบัญชีดำของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติหรือไม่ เนื่องจากไม่ว่าคุณจะสร้างหนี้ด้วยบัตรเครดิต การขอสินเชื่อส่วนบุคคล หรืออื่น ๆ ที่คุณไม่สามารถชำระและปิดยอดได้ทั้งหมด คุณอาจจะมีรายชื่อติดในเครดิตบูโรก็ได้ การพิจารณาให้กู้ขึ้นอยู่กับรายงานเครดิตบูโรของคุณเป็นหลัก หากคุณไม่ติดเครดิตบูโร หรือสร้างเครดิตที่ดีมาโดยตลอด เชื่อเถอะค่ะว่า คุณก็มีโอกาสได้รับการอนุมัติวงเงินกู้จากธนาคารสูงมากเลยทีเดียว

 การซื้อบ้านต้องมีเงินออม

     เรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องนั่นก็คือ การซื้อบ้านคุณจะต้องมีเงินออม เพราะทางธนาคารส่วนมากจะไม่ปล่อยกู้เต็มจำนวนของราคาซื้อขาย ปกติจะให้สินเชื่ออยู่ที่ 70 – 90% ส่วนต่างที่เหลือ คุณต้องมีเงินออมไว้ เพื่อจ่ายในการซื้อบ้านและเป็นข้อมูลที่ธนาคารจะพิจารณาเครดิตของคนขอสินเชื่อบ้านด้วย ก่อนที่จะซื้อบ้าน และกู้เงินคุณต้องประเมินกำลังซื้อของตัวเอง จากรายได้ที่มีอยู่ทั้งของตัวเองและของครอบครัวด้วยว่า สามารถซื้อบ้านได้ในราคาเท่าไร การประเมินกำลังซื้อบ้าน และการขอสินเชื่อสามารถขอคำปรึกษากับธนาคารได้ หรือคุณอาจจะใช้เครื่องมือคำนวณอัตโนมัติที่มีให้บริการอยู่หลายเว็บไซต์ก็สามารถประเมินค่าเงินได้ในเบื้องต้นค่ะ

 

 กำหนดระยะเวลาผ่อนชำระให้เหมาะสม

     สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย แนะนำให้ผ่อนชำระ 20 – 30 ปี เพื่อให้เงินงวดที่จะผ่อนชำระมีจำนวนลดลง โดยปกติแล้วทางธนาคารจะให้วงเงินกู้ประมาณ 15 – 30 เท่าของรายได้ และอาจจะลดหลั่นมากน้อยตามแต่กลุ่มอาชีพ ธนาคารมักจะกำหนดให้เงินงวดต่อเดือนประมาณ 25 – 30% ของรายได้รวมของผู้กู้ อย่างเช่น รายได้ 20,000 บาทต่อเดือน ทางธนาคารจะให้ผ่อนอยู่ประมาณ 5,000 – 6,000 บาทต่องวด อย่างนี้ก็ถือว่าภาระหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือนมีความพอเหมาะ และสามารถเตรียมเงินไว้ชำระอย่างสบาย ๆ ไม่เดือดร้อน

 

 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร

     การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง อาจใช้เวลาเร็วช้าที่ต่างกัน โดยทั่วไปแล้วการยื่นกู้จนถึงอนุมัติให้กู้ของสถาบันการเงินในปัจจุบันจะใช้เวลาประมาณ 10 – 20 วันทำการ ซึ่งมีขั้นตอนการพิจารณาที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือผู้กู้จะต้องติดต่อขอแบบฟอร์มและยื่นความจำนงขอกู้พร้อมทั้งนำหลักฐานประกอบการขอกู้ให้ครบตามที่ธนาคารกำหนด จากนั้นในการยื่นกู้สถาบันการเงินจะเก็บค่าธรรมเนียมประเมินราคา

 หลักประกันที่ต้องใช้ในการกู้

     สถาบันการเงินจะทำการสำรวจ และประเมินราคาบ้านพร้อมที่ดิน ที่จะนำมาเป็นหลักประกัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 – 5 วันทำการ จากนั้นจะเริ่มพิจารณาคำขอกู้โดยทางธนาคารจะวิเคราะห์รายได้ และหลักประกันของผู้กู้ รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ และจะแจ้งผลการขอกู้ทรัพย์ที่ผู้กู้นำมาเป็นหลักประกัน ในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางธนาคารก็สามารถบังคับเอาจากหลักประกันเหล่านั้นได้นั่นเอง

 

 วงเงินกู้ และระยะเวลาที่ขอกู้

     เมื่อคุณซื้อบ้าน คิดจะขอกู้เงินควรตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า จะกู้ในระยะเวลานานแค่ไหน ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้ตั้งแต่ 5 – 30 ปี การตัดสินใจตรงนี้จะขึ้นอยู่กับวงเงินกู้ และความสามารถในการผ่อนชำระเงินกู้ของผู้กู้ เพราะหากผู้กู้ต้องการวงเงินกู้สูงแต่ความสามารถในการผ่อนชำระค่อนข้างต่ำ จึงจำเป็นต้องขยายเวลาออกไปให้นานที่สุดเป็น 25 – 30 ปี เพื่อที่จะให้เงินงวดลดลง จนถึงจุดที่คุณสามารถผ่อนชำระได้ เนื่องจากวงเงินกู้เท่ากันและอัตราดอกเบี้ยเท่ากัน ก็ยิ่งจะทำให้คุณผ่อนนานมากขึ้นไปอีก

 

 คำนวณเงินงวดให้เหมาะสมกับความสามารถ

     ปกติแล้ว ทางสถาบันการเงินที่อนุมัติให้คุณกู้ จะอยู่ที่ประมาณ 70 – 80% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย แต่ในปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันที่สูง สถาบันการเงินได้ทำข้อตกลงกับโครงการจัดสรร หรือโครงการที่ธนาคารให้การสนับสนุนทางด้านการเงินอาจจะให้วงเงินกู้สูงถึง 90 – 100% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย ส่วนระยะเวลากู้ธนาคารมักกำหนดระยะเวลากู้นานสูงสุดประมาณ 15 – 30 ปี (ขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน) แต่ธนาคารส่วนมากจะกำหนดให้ระยะเวลากู้เมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 – 70 ปี อย่างเช่น อายุ 40 ปี จะสามารถกู้ได้สูงสุด 30 ปี อย่างนี้เป็นต้น สำหรับผู้กู้ที่มีกำลังผ่อนในปัจจุบันในระยะเวลา 15 ปี หรือ 20 ปี คาดการณ์ว่าในอีก 2 – 3 ปี ข้างหน้าภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวจะสูงขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการผ่อนชำระได้ จึงขอขยายระยะเวลากู้เป็น 25 – 30 ปี ก็สามารถทำได้ เพื่อให้เงินงวดที่ผ่อนต่อเดือนน้อยที่สุด เพราะในอนาคต เมื่อครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้นก็สามารถชำระเงินงวดเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ได้ อย่างเช่น เดิมผ่อนเดือนละ 8,000 บาท ก็อาจจะเพิ่มเป็นเดือนละ 10,000 บาท หรือมากกว่าก็ได้ ซึ่งจะทำให้หนี้เงินกู้หมดเร็วขึ้น

     ดังนั้นเงินกู้ตามสัญญาเดิม 25 ปี ก็อาจจะผ่อนหมดในเวลาสั้นลงเหลือเพียง 10 ปี แต่จะกู้ได้นานสูงสุดกี่ปีนั้นจะขึ้นอยู่กับอายุของคุณด้วย โดยธนาคารส่วนมากจะกำหนดว่าเมื่อรวมอายุของผู้กู้บวกกับระยะเวลากู้แล้วต้องไม่เกิน 60 – 65 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนดค่ะ

 


ขอบคุณข้อมูลจาก Moneyhub
  • สินเชื่อบ้านกรุงไทย สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงไทย
  • สินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ ข้อมูลสินเชื่อบ้านธนาคารไทยพาณิชย์
  • เคล็ดลับสำคัญ การขอกู้เงินซื้อบ้าน เพื่อให้ตรงตามที่สถาบันการเงินต้องการ
  • สินเชื่อบ้าน (เทศกาลส่งเสริมสินเชื่อบ้าน) กู้ผ่านง่าย ได้วงเงินเต็มๆ รู้ผลอนุมัติใน 3 วัน
  • สินเชื่อบ้านทวีทรัพย์กสิกรไทย (K-Home Equity)
  • ใช้บ้านแลกเป็นเงินก้อน กับ สินเชื่อบ้านคือเงิน "My Home My Cash"
  • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ (Refinance Super Save) กู้ผ่านง่าย ผ่อนน้อยลง ได้วงเงินเพิ่ม
  • บ้าน ธอส.เพื่อสานสุข ปี 65 ให้วงเงิน 3 ล้าน สานฝันคุณให้เป็นจริง
  • ใครมีหนี้ "กู้บ้าน-รถ-บัตรเครดิต" ต้องรู้ แบงก์ชาติ ชี้เป้าพักหนี้ ทุกธนาคาร
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • เคล็ดลับการกู้ซื้อบ้านแบบสบายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือน

    การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งอาจจะมีเงื่อนไขที่เข้มงวดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าธนาคารจะไม่ปล่อนสินเชื่อให้เลย ในทางกลับกัน ธนาคารนั้นมีอัตราการแข่งขันสูงขึ้น เพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ธนาคารมองกว่า มีเครดิตที่ดีพร้อมตามเกณฑ์ที่ธนาคารตั้งไว้ ซึ่งคนส่วนมากยังจำเป็นต้องใช้แหล่งเงินจากธนาคารในการซื้อบ้าน การขอสินเชื่อหรือกู้เงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น คุณต้องทำความเข้าใจและศึกษาในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินมากเกินความจำเป็นได้

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll