สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ Thaihometown จะมานำเสนอเรื่องราวดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ได้อ่านกัน
โดยเมื่อวันที่ 28 เมษายน ดร.สมเกียรติ โอสถสภา นักวิชาการด้านเศรษฐกิจการเมืองได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Somkiat Osotsapa แนะนำ วิธีการลดดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน
โดยเจ้าตัวได้ย้ำว่า ได้เสนอวิธีการนี้มาหลายครั้งแล้ว ร่วมสี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งตามวิธีดังกล่าวจะสามารถลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงได้สูงถึง 4.5 % ซึ่งจะทำให้ผู้กู้สามารถปลดหนี้เงินกู้ดังกล่าวลงได้เร็วกว่ากำหนดมาก เป็นการลดภาระและสร้างสุขให้กับประชาชนหลายล้านคน พร้อมกันนี้ ยังได้ยกข้อความ ของผู้ที่ติดตาม และได้นำวิธีการลดดอกเบี้ยไปใช้ซึ่งได้ผลหลายรายมานำเสนอเป็นตัวอย่างด้วย
วิธีขอลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร A
ถ้าคุณไปกู้เงินซื้อบ้านไว้แล้ว เมื่อครบสามปี ต้องไปติดต่อขอลดดอกเบี้ยครับ จะได้ดอกเบี้ยต่ำลง 1.5-1.75% บอกไว้เมื่อหลายวันก่อน อย่าลืมนะครับ สามปีไปครั้ง บ้านที่คุณผ่อนชำระ จะหมดภาระก่อนกำหนดเร็วมาก ดอกเบี้ยซื้อบ้านลดทั้งต้นและดอก ต่างจากการกู้ซื้อรถยนต์ คุณจะประหยัดได้เป็นล้านบาท มีคนบอกว่าลดลงได้ถึงหนื่งในสาม
เรื่องของดอกเบี้ย MLR
ถ้าคุณไปขอกู้เงินผ่อนบ้าน ตรวจสอบว่าคุณได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยขั้นต่ำ MLR หนื่งเปอร์เซนต์ ถ้าให้เท่า MLR อย่าเอาครับ
หลายปีมานี้ ดอกเบี้ย MLR ลดจาก 8.5ลงมาเหลือ 6.23 ธนาคารประกาศดอกเบี้ย MLR บ่อยครับ ติดตามว่าธนาคารลดดอกเบี้ยให้คุณตามMLR ที่ลดลง
จากที่ดอกเบี้ยขั้นต่ำลดลงสองเปอร์เซนต์ คุณหาแหล่งเงินกู้ได้ต่ำกว่า MLR หนื่งเปอร์เซนต์ และขอลดดอกได้อีก 1.5-1.75% ดอกลดลงตั้ง 4.5% เงินเยอะนะครับ
สมมติว่าคุณกำลังจ่ายดอกที่ MLR ลบหนื่ง ตอนนี้ MLR อยู่ที่6.23 คุณจ่ายที่ 5.23 คุณไปขอลดดอกเบี้ยได้อีก 1.5 คุณจะจ่ายอยู่ที่เกือบสี่เปอร์เซนต์เท่าสมาชิกสหกรณ์จุฬา
ไม่ต้องห่วงธนาคารครับ ดอกเบี้ยเงินฝากตอนนี้ต่ำมาก ยิ่งเอาเงินนอกมา ดอกถึงหนื่งเปอร์เซนต์หรือเปล่า คุยกับธนาคารเรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องปกติครับ
นอกจากนี้ ยังได้ยกข้อความของผู้ติดตาม และได้นำวิธีการลดดอกเบี้ยไปใช้ซึ่งได้ผลหลายรายมานำเสนอเป็นตัวอย่างด้วย ดังนี้
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Jeerapat Ruengronghiranya ได้แสดงความคิดเห็นว่า "ใช้บริการ UOB กับดอกเบี้ย 4.37% ณ ปัจจุบันครับ อีก 6-7 เดือนจะครบ 3 ปีก็เตรียมจะไปขอลดดอกครับ เงื่อนไขแรกที่จะได้ลดก่อนแรกก็คือต้องมียอดเงินต้นคงเหลือไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท หุหุยังเข้าเงื่อนไขกับทางแบงค์ครับแต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรตามมาอีกหรือเปล่า"
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Tharawit Sirichan ได้แสดงความคิดเห็นว่า "ผมใช้ของ ธอส. ตอนทำเรื่องกู้ สัญญาเขียนหากประวัติชำระดี ครบสองปีสามารถทำเรื่องขอลดดอกเบี้ยได้ พอขึ้นปีที่สามดอกฯ เลยลดจาก 5.75 เหลือ 4.5 ค่อยยังชั่วหน่อย มีบทเรียนคือควรรีบไปทำเรื่องไว้ก่อน เพราะของผมใช้เวลาทำเรื่องนาน 3 เดือน (มีสามเดือนที่ต้องจ่ายดอกฯ 5.75)"
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Supakit Tippayanate ได้แสดงความคิดเห็นว่า "ตอนนี้ดอกเบี้ยกู้บ้านผม 3.5% ต่อปี เพราะก่อนรีไฟแนนซ์ผมไปธนาคารทุกที่ มีโปรพิเศษอะไรบ้างเอามาให้หมด จนรวบรวมได้เกือบทุกธนาคารครับ สุดท้ายไปลงที่ ธอส. ที่มีดอกเบี้ย refinance ดีสุดมีสวัสดิการลดเพิ่มให้พนักงานบริษัทด้วยครับ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดดอกประมาณ 4% ลดสวัสดิการพนักงานอีกเป็น 3.75% ผมก็ไปขอเอกสารกับที่เก่าครับคือ KTB เค้าก็บอกว่าเอา ref. มาครับคือเอกสาร refinance ของ ธอส. หลังจากนั้นเค้าก็ทำเรื่องปรับดอกให้ผมเลยครับ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มซักบาท ดอกเบี้ยประหยัดได้หลายหมื่นครับ"
สรุปสั้นๆ หาดอกเบี้ยที่ถูกสุด ไปคุยกับธนาคารเดิมว่าเราลูกค้าชั้นดีนะ มีการจ่ายทุกงวด มีตัดต้นด้วย ยังไงธนาคารเดิมเค้าอยากรักษาลูกค้าไว้อยู่แล้วครับ
ปล. ที่เหลือ 3.5 เพราะธนาคารประกาศลดดอกเบี้ยอีก 0.25 ครับเมื่อต้นปี
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Pongsit Chanapai ได้แสดงความคิดเห็นว่า "ไปคุยกับธนาคารอื่นเรื่องขอrefinance ก่อนครับ ดอกมันจะถูกกว่าขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม แต่จะโดนธนาคารเดิมคิดค่าปรับเมื่อขอย้ายเจ้าหนี้ กรณีนี้ เอาดอกเบี้ยใหม่ที่เราไปคุยไว้หลายๆธนาคาร มาโชว์เจ้าหนี้เดิม ถ้าดอกเบี้ยที่ใหม่ต่ำกว่าที่เก่ามากจนคุ้มกับค่าปรับ บอกเลยว่า ถ้ามึงไม่ลดให้กูต่ำๆแบบนี้ กูไปแน่ 5555 ธนาคารอยู่ได้ด้วยดอกเรา เราเป็นนายมันครับ อัดมันหนัก ลูกหนี้ชั้นดีเป็นพ่อทุกธนาคารครับ"
"หากใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ จะลดรายจ่ายคนที่กู้เงินซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ราวสองล้านล้านบาท ทั่วประเทศ สร้างความสุขให้ประชาชนได้มาก ถ้าแบงค์ชาติจะช่วยเผยแพร่ข้อมูล จะเป็นที่รักของประชาชน โพสท์นี้ลงหลายครั้ง มาร่วมสี่ปี อยากให้รู้ สนใจกันทั้งประเทศ แชร์กันมากมาย คนได้ประโยชน์มากมาย ดีใจจัง" นักวิชาการคนดังกล่าว