สินเชื่อที่อยู่อาศัย

ถึงแม้ตอนนั้นเงินเดือนของเธอจะน้อย แต่เธอก็ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ในการซื้อบ้านมาได้ และยังมีเทคนิคในการผ่อนที่ทำให้หมดหนี้ได้ไว มาแชร์ให้คนที่อยากมีบ้านเอาไว้เป็นไอเดียในการดำเนินการซื้อบ้านกันค่ะ

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

แชร์ประสบการณ์ "ซื้อบ้าน" แม้เงินเดือนน้อยก็ซื้อได้ พร้อมแนะเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดเร็ว

        ถึงแม้ตอนนั้นเงินเดือนของเธอจะน้อย แต่เธอก็ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ในการซื้อบ้านมาได้ และยังมีเทคนิคในการผ่อนที่ทำให้หมดหนี้ได้ไว มาแชร์ให้คนที่อยากมีบ้านเอาไว้เป็นไอเดียในการดำเนินการซื้อบ้านกันค่ะ

        เมื่อถึงคราวจำเป็นที่หญิงสาวคนนี้และคุณแม่ต้องหาที่อยู่ใหม่ ในขณะที่ตอนนั้นอายุงานและเงินเดือนน้อยจนการซื้อบ้านกลายเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยความที่เธอและแม่กัดฟันทำงานเก็บเงิน จ่ายหนี้ค่าบ้านจนตอนนี้ก็ใกล้จะหมดแล้ว คุณ สมาชิกหมายเลข 1573275 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เลยยินดีที่จะนำประสบการณ์การซื้อบ้านมาแชร์ให้กับคนที่กำลังจะซื้อบ้านมาบอกเล่าสู่กันฟัง ไว้เป็นแนวทางให้กับคนที่อยากจะมีบ้านและผ่อนบ้านให้หมดได้ไว แม้ฐานเงินเดือนไม่มากก็สามารถทำได้

เมื่อคิดจะซื้อบ้าน โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 1573275 

        จากหลาย ๆ กระทู้ที่ตั้งขึ้นมา อย่างเช่น การถามว่าเงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านราคาหลักล้าน-3 ล้านจะได้ไหม วิธีการคำนวณดอกเบี้ย การคำนวณยอดการผ่อน การแนะนำว่าเงินเดือนเท่านี้ผ่อนได้หรือไม่ หรือการทำอย่างไรให้ผ่อนบ้านหมดได้เร็ว อยากจะแชร์ความรู้สำหรับคนที่คิดจะซื้อบ้านใหม่หรือกำลังจะซื้อค่ะ เลยสรุปมาเป็นกระทู้นี้สำหรับคนที่คิดจะซื้อบ้านจากคนที่มีประสบการณ์ซื้อบ้านใหม่ ผ่อน รีไฟแนนซ์ และโปะกำลังจะหมดมาเล่าให้ฟังค่ะ  

        ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วตัวดิฉันอยู่กับแม่และพ่อค่ะ เมื่อแม่แยกทางกับพ่อแม่ก็ต้องการหาบ้านใหม่ มันเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคนคนหนึ่งที่ต้องเริ่มเก็บเงินเพื่อมีบ้านเป็นของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ปีเดียวและยังไม่มีเงินเก็บมาก เงินเดือนแค่ 12,000 บาทเองค่ะ แต่มีรายได้จากการค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ้าง เรากับแม่ก็จัดการหาบ้านที่ไม่ห่างจากทางที่รถประจำทางผ่านมาก บ้านเล็ก ๆ พอที่เราอยู่และผ่อนมันได้ 

        ส่วนแม่ก็มีเงินไม่มาก เพราะรับจ้างรายวัน ก็ได้บ้านเดี่ยวชั้นเดียวเนื้อที่ 39 ตารางวา ราคาอยู่ที่ 900,000 กว่าบาท 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีบริเวณบ้านกว้าง 77 ตารางเมตร ไว้ให้จอดรถกับทำสวน เราถูกใจก็เลยวางมัดจำ ต่อรอง และขอรายละเอียดเพื่อไปยื่นธนาคาร (ทางโครงการก็ช่วยหาธนาคารให้ค่ะ) เหมือนจะง่าย แต่ไม่ใช่เลย เรื่องราวต่อจากนี้มันเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนค่ะ ณ ปัจจุบันคงไม่มี เพราะการแข่งขันด้านการเงินธนาคารต่าง ๆ สูงขึ้น

1. ธนาคาร "รายได้แค่นี้จะพอผ่อนเหรอ ?"

        เป็นคำถามที่นายธนาคารถามเรากับแม่ "มีรถเหรอ ผ่อนอยู่หรือเปล่า ถึงไม่ได้ผ่อนมันก็มีค่าเสื่อมสภาพนะ หักไปเดือนละ 4 พันบาท (รถอะไรจะซ่อมทุกเดือน) แล้วค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินล่ะ (รวมเงินรายได้ทั้งหมดทั้งของเราและแม่เราอยู่ที่ประมาณ 28,000 บาท และเรามีเงินเก็บไม่ถึง 2 หมื่นบาท แม่มีเงินเก็บอยู่ 3 หมื่นบาท) ผ่อนไม่พอหรอกไปดูหลังที่มันถูกกว่านี้ เรากับแม่หน้าเสีย ผู้การธนาคารสีน้ำเงินพูดแบบนี้ทำให้หมดหวัง แต่มีน้องที่เคาน์เตอร์แนะนำให้ไปอีกสาขาหนึ่งและให้เบอร์โทรศัพท์พร้อมชื่อติดต่อมา เราก็เลยย้ายไปคุยอีกสาขา เจอผู้การใจดีคุยง่ายขึ้นเขารับเรื่องไปพิจารณา แต่มีเรื่องที่เราต้องมาจัดการหลายเรื่อง

        - ไปปิดบัญชีเครดิตทุกบัญชีให้หนี้เป็นศูนย์ ผ่อนอะไรไว้ไปปิดให้หมด (ช่วงนั้นพอดีผ่อนมือถืองวดสุดท้าย)

        - แต่งบัญชี เมื่อไม่มีรายได้สูง ไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มั่นคง ตอนนั้นเราทำอยู่บริษัทคนไทย เป็นแบบบริษัทห้างร้านเล็ก ๆ ไม่มีชื่อเสียงไม่น่าเชื่อถือ ฉะนั้นธนาคารจะพิจารณาเชื่อถือจากเงินเดือนของเราเป็นไปได้ยาก (ประมาณที่ทำงานไม่มั่นคง จะเจ๊งเมื่อไรก็ไม่รู้) เขาบอกต้องหาเงินมาใส่บัญชีหมุนเข้า-หมุนออก ให้มีรายรับ-รายจ่ายค้างไว้ เราก็ใช้เงินจากการขายของ ขายได้รีบฝาก ซึ่งแต่ก่อนขายได้ก็หักทุนไปซื้อของ เลยไม่เอาไปฝาก ส่วนแม่ก็ยืมเงินญาติ ๆ มาปั่นบัญชี ให้มีเข้า-ออกจำนวนหลายหมื่น

        - รวบรวมเอกสารที่จะทำการกู้ ใบรับรองเงินเดือน สเตทเม้นท์ทุกธนาคารที่มี ถ่ายรูปร้านที่เป็นธุรกิจส่วนตัว ใบสำคัญการซื้อบ้าน ใบสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ ใบหย่า และทุกคนที่กู้ร่วม (ทางโครงการก็หาให้ค่ะ แต่กู้ได้น้อยกว่าธนาคารที่เราหา)


2. วันทำสัญญา

        พอธนาคารประเมินและพิจารณาผ่อนเสร็จ ธนาคารก็จะทำการนัดเซ็นสัญญา บางธนาคารให้ไปธนาคารก่อน บางธนาคารนัดที่ที่ดินเลยค่ะ (อยากจะฝากคนที่จะตกลงทำสัญญาซื้อกับโครงการบ้านจัดสรรหรือซื้อบ้านมือสองต่อเจ้าของบ้านเก่า ให้ตกลงเรื่องค่าโอน ค่าภาษีการโอน หรือค่าใช้จ่ายในการโอนที่กรมที่ดินให้พร้อมก่อนมาที่ดินนะคะ เพราะถ้ามาตกลงที่ที่ดินเลย คนซื้อบ้านอย่างเราอาจเสียเปรียบและเสียเวลาได้ค่ะ เพราะบางโครงการฟรีค่าโอน ค่าจำนอง บางเจ้าไม่จ่าย บางเจ้าหารครึ่ง ต้องให้เครียดกันไปก่อนค่ะ แล้วค่อยตกลงทำสัญญาซื้อขายกันค่ะ) 

        วันนั้นไปกรมที่ดินแต่เช้า รอกรมที่ดินเปิดเลยค่ะ รอคิวทำจนบ่าย ๆ พอเสร็จก็กลับมาเซ็นสัญญาต่อที่ธนาคาร แล้วต้องทำความเข้าใจกับรายละเอียดของดอกเบี้ยและค่าประกันบ้านที่ทางธนาคารจะให้เราจ่ายด้วยนะคะ สมัยนี้ดีมากมี MLR-3-4 หรือบางธนาคารดอกปีแรกอยู่ที่ 2-3% ซึ่งถูกมาก ถ้าธนาคารมีแบบ 3 ปีแรก ผ่อนเยอะและดอกถูกให้รีบคว้าเลยค่ะ (แต่เอาที่ยอดผ่อนได้นะ) 

        อยากแนะนำให้แบบส่งหักบัญชีผูกกับธนาคารดีกว่าค่ะ อย่าเลือกแบบจ่ายรายเดือนเอง เพราะถ้าเราฝากเงินเข้าบัญชีไปเยอะ ๆ ธนาคารจะตัดเองอัตโนมัติ เผื่อเดือนไหนช็อตหรือลืมขึ้นมาก็จะได้ไม่กังวลว่าค้างหนี้ชำระ ส่วนเรื่องประกันอัคคีภัยต้องถามธนาคารด้วยนะคะว่า แบบจ่ายคุ้มครองกี่ปี เพราะบางธนาคารจ่ายแล้วคุ้มครองตลอดอายุสัญญาผ่อน บางธนาคาร 2-3 ปีต้องกลับมาจ่ายอีก จะประมาณนี้ค่ะ

3. ผ่อนไป-ผ่อนไป 

        อย่างที่บอกค่ะ ธนาคารส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยถูก 3 ปีแรก แล้วปีต่อไปจะลอยตัว ถ้ามีเงินอย่าลืมโปะนะคะ ปีแรกเราต้องผ่อนเดือนละ 9,800 บาท แถมกู้ได้ระยะเวลาแค่ 10 ปีเอง เงินเดือนบวกรายได้เสริมแล้ว ได้เดือนละประมาณไม่เกิน 15,000 บาท เหลือใช้แค่ไม่กี่พัน แต่ต้องกัดฟันทำงานหาเงินผ่อนไปค่ะ (เงินแม่ไว้ใช้จ่ายในบ้านค่ะ) พอเงินเดือนขึ้นหรือได้โบนัสก็เอามาโปะ ปีแรกก็ยังไม่ขนซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไรเข้าบ้านมาก เอาแต่ที่จำเป็นเพราะถ้าเพิ่มภาระผ่อนอีกก็อาจจะทำให้การเงินเราช็อตได้ แต่ก็ไม่ได้อดอยากจนไม่มีกินนะคะ แต่แค่ไม่ฟุ่มเฟือย เพราะคิดเสมอว่ารายได้ที่ได้มาต้องตัดค่าผ่อนบ้านก่อนถึงคิดจะใช้จ่าย พอผ่านไป 3 ปี เราได้งานใหม่ เงินเดือนดีขึ้นและได้สวัสดิการธนาคารใหม่จากบริษัทก็รีไฟแนนซ์ 

 

4. รีไฟแนนซ์บ้าน

        มันก็เหมือนการไปกู้ซื้อบ้านใหม่นั่นเอง แค่เราเปลี่ยนธนาคารไปหาธนาคารที่ดอกเบี้ยถูกกว่า ได้สิทธิพิเศษอะไรที่ดีกว่า เพราะธนาคารเก่าดอกเบี้ยลอยตัวแล้ว (ร้อยละ 7 ในตอนนั้น) เตรียมเอกสารเหมือนเดิมเหมือนตอนซื้อบ้านใหม่เป๊ะ ๆ มีหนี้บัตรเครดิตหรือผ่อนอะไรก็ไปปิดให้เหลือศูนย์ซะ จะได้ประเมินกู้ได้เยอะขึ้น (ถ้าคิดที่จะกู้เพิ่มมาแต่งบ้านด้วย) 

        ตอนนั้นเรายังไม่ได้ซื้อรถยนต์ ก็ไปปิดบัญชีค้างในบัตรเครดิต แต่ไม่ต้องถึงกับยกเลิกใช้บัตรนะ ขอใบรับรองเงินเดือน (ถ้าที่ทำงานมีสัญญากับธนาคาร เรื่องดอกเบี้ยก็ควรขอเอกสารมาด้วย) สเตทเม้นท์เหมือนเดิม แต่คราวนี้เรากู้เดี่ยวเพราะเงินเดือนเยอะแล้ว ถือเอกสารเดินเข้าไปขอรีไฟแนนซ์บ้านค่ะ ให้ธนาคารมาประเมิน ถ้าขอค่าตกแต่งเพิ่มก็เขียนไปเลยว่าจะทำอะไรกับบ้านบ้างพร้อมกับระบุจำนวนเงิน แล้วรอวันทำสัญญานัดโอนย้ายธนาคาร แต่คราวนี้ไม่เสียค่าโอนแล้ว เสียแต่ค่าธรรมเนียมจดจำนองประมาณ 7,000 กว่าบาท (แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ขึ้นแล้วยัง) วิธีทั้งหมดก็คล้าย ๆ กับการไปทำสัญญาซื้อบ้านใหม่นั่นเอง แต่เอกสารจุกจิกจะน้อยกว่า (ต้องเอาผู้กู้ร่วมและผู้ที่มีชื่ออยู่ในโฉนดมาวันทำสัญญาด้วยนะคะ)

5. ผ่อนและโปะ 10 ปีผ่านไป หนี้จาก 900,000 เหลือ 100,000 ปลาย ๆ

        เราทำงานเงินเดือนก็ต้องขึ้นทุกปีใช่ไหม ปลายปีก็มีโบนัส อย่าเพิ่งคิดชะล่าใจว่าเงินเยอะจะได้ใช้จ่ายสบาย เรายังมีหนี้ก้อนใหญ่ที่จะต้องคิดว่า ยิ่งผ่อนนานดอกเบี้ยยิ่งเยอะ ยิ่งอยู่กับหนี้นานเงินที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยเท่ากับครึ่งของเงินผ่อน มันยิ่งสูญไปพร้อมกาลเวลา อย่าได้คิดว่ามีระยะเวลาผ่อน 20 ปี 30 ปี แล้วเราจะนั่ง ๆ นอน ๆ ผ่อนไปวัน ๆ ไม่ใช่ อนาคตยิ่งแก่ลง มีลูก มีเจ็บป่วย มีออกจากงาน เราจะมานั่งผ่อนอีกเหรอ วิธีเดียวที่จะช่วยได้คือการโปะหนี้

        1. โปะแบบรายเดือนคือ การส่งเพิ่มจากยอดที่เรียกเก็บ อย่างเช่น ส่งเดือนละ 7,000 บาท ก็เพิ่มเป็น 8,000 บาท หรือ 8,500 บาท มันจะช่วยลดต้นลงได้แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ดอกเบี้ยไม่ลดเท่าไหร่เรามาดูวิธีที่ 2

        2.  โปะแบบรายปีคือ เก็บเงินเข้าฝากธนาคารและถึงปลายปีไปรวมกับโบนัส แล้วเอาไปโปะทีเดียวหลักแสนแล้วดูยอด โอ้หายไปเยอะเลยนะ !

        บางธนาคารเอาใจลูกค้ามาก ซึ่งเราต้องคอยอ่านประกาศจากเว็บไซต์ธนาคารหรือประกาศจากป้ายในธนาคารให้ผู้กู้ชั้นดี (อย่างเรา ๆ ที่ไม่เคยเบี้ยวนัดจ่าย) เข้ามาทำสัญญาลดดอกเบี้ยได้ เท่านั้นแหละรีบปรี่ไปธนาคารเลยขอลดดอกเบี้ยซะ จะ MLR หรือ MRR-2 หรือ -2.5-3 ก็เอาไว้ก่อน เพราะมันทำให้เราสามารถส่งต้นได้สูงขึ้น ลดระยะเวลาการผ่อนเราไปได้อีกหลายปี ทำให้เราหมดหนี้บ้านเร็วขึ้น

        ข้อสำคัญ "อย่าซื้อรถก่อนซื้อบ้าน" ให้ซื้อบ้านให้เสร็จก่อนถ้ามีเงินเหลือถึงค่อยซื้อรถ (อันนี้สำหรับคนที่รายได้น้อยอย่างเรา ที่ทุกวันนี้สุขใจมีทั้งบ้าน รถ และมีเงินใช้สบาย ๆ) ถ้าเงินเดือนหลักแสนจะซื้อทั้ง 2 อย่างพร้อมกันก็เอาที่สะดวกเลยค่ะ เพราะถ้าคนเงินเดือนไม่เยอะ ธนาคารจะพิจารณาจากรายจ่ายหลักที่สำรวจได้ผ่านข้อมูลเครดิตแห่งชาติก่อนค่ะ ถึงจะอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้านให้เราได้ ถ้าคุณติดจ่ายบัตร จ่ายรถเกินรายได้ 30-50% แล้ว การที่จะกู้ผ่านเป็นเรื่องยาก

        ถ้าถามว่าทำไมราคาบ้านถูกแค่หลักแสนธนาคารถึงพิจารณายาก จะบอกว่าสมัยก่อนยากมากจริง ๆ และธนาคารก็ไม่ได้โปรโมทแข่งขันกันขนาดนี้ หรือเพราะอสังหาริมทรัพย์สมัยนั้นยังไม่บูม และยังไม่มีโครงการบ้านหลังแรกด้วย แต่โชคดีที่ซื้อสมัยนั้นเพราะราคาค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างยังถูกอยู่ บ้านเดี่ยวหรือบ้านเดี่ยวสองชั้นราคาก็เกือบล้านหรือล้านต้น ๆ แค่นั้น เมื่อปีที่แล้วเราต่อเติมหลังคาข้างบ้านและทำห้อง 4X4 เมตร ตรงสวนหน้าบ้านเพิ่มค่าวัสดุค่าแรงแสนกว่าบาท ทำไปนิดเดียวแต่แพงมาก

        ส่วนข้อเสนอแนะอีกเรื่องของคนที่กำลังจะซื้อบ้านค่ะ ถ้าท่านซื้อกับโครงการ ทางโครงการจะหาธนาคารให้และทางโครงการจะคอนแทคเรื่องค่าประเมินค่าอื่น ๆ กับทางธนาคารแล้วก็โชคดีไปค่ะ เราไม่ต้องดำเนินเรื่องเอง แต่ถ้าทางโครงการบ้านไม่ได้หาให้ หรือซื้อบ้านต่อจากคนอื่น ให้ไปงานพวก money expo เลยค่ะ ทางธนาคารต่าง ๆ จะมีโปรโมชั่นให้เราแบบเยอะมากเลย ลองพิจารณาดูนะคะ

        อยากฝากทุกคนที่คิดจะซื้อบ้านหรือคอนโด ถ้าอายุยังน้อย 25-35 ปีรีบซื้อเลยนะคะ อย่าใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อยู่ไปวัน ๆ เพราะถ้าคิดได้ตอนอายุเลข 3 กว่า ๆ แล้วมันจะท้อค่ะ เพราะระยะเวลากว่าจะหมดหนี้มันนานเหลือเกิน และผ่อนไปอนาคตเราอยากใช้เงินทำอย่างอื่นก็ต้องติดบ่วงผ่อนบ้านผ่อน ๆ ๆ อย่างอื่นอยู่ไม่มีหมด รีบซื้อเสียแต่อายุน้อย ๆ ปีนี้เจ้าของกระทู้อายุ 36 แล้วค่ะ โบนัสปลายปีนี้ออกก็จะไปโปะให้หมดเสียที เผื่ออยากได้อีกหลังไว้ให้คนเช่า

        อย่าลืมอีกอย่างสำหรับมนุษย์เงินเดือน ถ้าซื้อบ้านดอกเบี้ยบ้านสามารถมาลดหย่อนภาษีประจำปีได้นะ มันจะสามารถทำให้เราเสียภาษีน้อยลง ดีจะตาย

        จบการเล่าเพียงเท่านี้ค่ะ นี่เป็นกระทู้เล่าเรื่องแรกของเจ้าของกระทู้ค่ะ เขียนผิดยังไงขออภัยไว้ที่นี้ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 1573275 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 


ขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม, พันทิปดอทคอม
  • รู้ไว้ก่อนขอสินเชื่อ "สินเชื่อบ้านเปลี่ยนเงิน" คืออะไร? และเหมาะกับใคร?
  • อัปเดต เอกสารการกู้ซื้อบ้าน 2565 ก่อนขอสินเชื่อ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
  • สินเชื่อออมสินบ้านแลกเงิน โปร 2 ปีแรก ดอกเบี้ย 4.99% วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท
  • เทคนิคซื้อคอนโดหลังแรก ก่อนอายุ 30 สำหรับคนเป็นพนักงานเงินเดือน
  • ขอสินเชื่อบ้าน มี 4 เรื่องหลักที่ทำให้โดนธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อ
  • ซื้อบ้าน-คอนโดหลังแรก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนขอสินเชื่อบ้าน
  • สินเชื่อบ้านกสิกรไทย การขอสินเชื่อบ้านธนาคารกสิกรไทย
  • เงินเดือน 15,000 อยากจะผ่อน บ้าน-รถยนต์ ต้องคำนวณอย่างไร จะได้วงเงินเท่าไหร่
  • เทคนิคเลือกธนาคาร เพื่อกู้เงินซื้อบ้าน
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • ออมสินปรับลดเงินงวด สินเชื่อ "ผ่อนบ้านดี มีเฮ" สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะปัจจุบัน ถึง 30 ก.ย. นี้
  • แชร์ประสบการณ์ ซื้อบ้าน แม้เงินเดือนน้อยก็ซื้อได้ พร้อมแนะเทคนิคการผ่อนบ้านให้หมดเร็ว

    ถึงแม้ตอนนั้นเงินเดือนของเธอจะน้อย แต่เธอก็ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ในการซื้อบ้านมาได้ และยังมีเทคนิคในการผ่อนที่ทำให้หมดหนี้ได้ไว มาแชร์ให้คนที่อยากมีบ้านเอาไว้เป็นไอเดียในการดำเนินการซื้อบ้านกันค่ะ

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll