สวัสดีช่วงปลายฤดูฝนครับ ใครกำลังมองหาบ้านในฝันอยู่บ้างเอ่ย! ทุกวันนี้การซื้อบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเราอีกต่อไป เพราะว่ามีสถาบันทางการเงินจำนวนมากช่วยเหลือโดยการปล่อยกู้ เพียงแค่เรามีสลิปเงินเดือน ใบทวิ 50 (ใบหักภาษี ณ. ที่จ่าย) รายการเดินบัญชีย้อนหลัง ก็สามารถยื่นกู้ได้สบายๆ ถ้าหากเรามีรายได้ที่เพียงพอ และสามารถผ่อนบ้านต่อเดือนโดยใช้เงินประมาณ 30 % ของรายได้ทั้งหมดมาผ่อนบ้าน เราก็จะไม่เหนื่อยมากครับ ผ่อนชิวๆๆ
ใครกำลังมองหาบ้านในฝันอยู่บ้างเอ่ย! ทุกวันนี้การซื้อบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเราอีกต่อไป เพราะว่ามีสถาบันทางการเงินจำนวนมากช่วยเหลือโดยการปล่อยกู้ เพียงแค่เรามีสลิปเงินเดือน ใบทวิ 50 (ใบหักภาษี ณ. ที่จ่าย) รายการเดินบัญชีย้อนหลัง ก็สามารถยื่นกู้ได้สบายๆ ถ้าหากเรามีรายได้ที่เพียงพอ และสามารถผ่อนบ้านต่อเดือนโดยใช้เงินประมาณ 30 % ของรายได้ทั้งหมดมาผ่อนบ้าน เราก็จะไม่เหนื่อยมากครับ ผ่อนชิวๆๆ
ขอแชร์เรื่องเงินๆทองๆที่เป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการซื้อบ้านครับ หลังจากที่เพื่อนๆค้นพบบ้านในฝันบนทำเลที่ถูกตาต้องใจกันแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน เราขอแนะนำให้เพื่อนเก็บเงินสักก้อนครับประมาณ 20% ขึ้นไปของราคาบ้านที่เพื่อนๆต้องการซื้อครับ
เงินดาวน์
ส่วนใหญ่โครงการจะให้เราวางเงินดาวน์ประมาณ 5%, 10% หรือ 20 % ครับ ส่วนตัวผมขอแนะนำให้เพื่อนๆดาวน์เยอะหน่อยครับ ตอนกู้เงินกับธนาคารจะได้ไม่ต้องออกเงินส่วนต่างเองเยอะครับ เพราะธนาคารจะอนุมัติเงินประมาณ 80%-95% ครับ ดังนั้นเราควรต้องเก็บเงินไว้เผื่อเงินดาวน์ครับ
มาชมตัวอย่างจากการที่เราวางเงินดาวน์ 5%, 10% หรือ 20 % กันครับว่าดาวน์มากมีประโยชน์อย่างไรครับ
ตัวอย่าง สมมุติให้เพื่อนๆซื้อทาวน์โฮม 3 ชั้นราคา 3,500,000 บาทนะครับ ธนาคารปล่อยกู้คิดที่ 90% ของราคาบ้านเท่ากับเราสามารถกู้ได้ 3,150,000 บาท
ถ้าวางเงินดาวน์ 5% ก็จะเป็นเงินดาวน์ 175,000 บาท เหลือยอดที่ยังไม่จ่าย 3,325,000 บาท
ดังนั้นเพื่อนๆจะต้องหาเงินส่วนต่างเพิ่มอีก 3,325,000 บาท – 3,150,000 บาท = 175,000 บาท ยังไม่มีเงินตกแต่งบ้านและซื้อของเข้าบ้านเลยครับ แถมต้องหาเงินเพิ่มด้วยครับ
ถ้าวางเงินดาวน์ 10% ก็จะเป็นเงินดาวน์ 350,000 บาท เหลือยอดที่ยังไม่จ่าย 3,150,000 บาท
พอดีเปะเลยครับ อาจต้องขอกู้ตกแต่งบ้านเพิ่มเติมครับดอกเบี้ยจะแพงกว่ากู้เงินซื้อบ้านธรรมดานะครับ
ถ้าวางเงินดาวน์ 20% ก็จะเป็นเงินดาวน์ 700,000 บาท เหลือยอดที่ยังไม่จ่าย 2,800,000 บาท
ดังนั้นเพื่อนๆจะมีเงินเหลือเพื่อตกแต่งบ้าน 3,150,000 บาท – 2,800,000 บาท = 350,000 บาท
บางธนาคารอาจอนุมัติวงเงินกู้ที่สูงถึง 100% แต่เราก็ต้องดูในส่วนของดอกเบี้ยด้วยนะครับ จะได้ไม่เป็นหนี้เยอะเกินไปครับ
เงินจอง
ค่าใช้จ่ายอีกส่วนคือเงินจองครับเพื่อยืนยันสิทธิ์ที่แน่นอนว่าเราได้จองบ้านแปลงที่ถูกใจไว้แล้วห้ามขายคนอื่นครับ เงินจองแล้วแต่ทางเจ้าของโครงการจะกำหนดครับ เป็นเงินประมาณ 5 หลักครับ
เงินที่กู้จากธนาคาร
จากนั้นก็ทำการยื่นกู้เงินกับธนาคารครับ แนะนำว่าให้ยื่นกู้หลายๆธนาคารครับ จะได้เอาไว้เปรียบเทียบกันในเรื่องของวงเงินที่ได้อนุมัติ อัตราดอกเบี้ยและอื่นๆครับ ในการกู้เงินซื้อบ้านนั้นพยายามเลือกให้เหมาะกับรายได้ของเราครับ อย่าเป็นหนี้จนเกินตัวครับเดี๋ยวไม่มีเงินทานข้าวครับ แล้วเราจะกู้เงินได้มากน้อยเพียงใดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหนี้เก่าและรายได้ของเราเป็นหลัก โดยเฉลี่ยแล้วธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ 1,000,000 บาทต่อรายได้ของผู้กู้ขั้นต่ำประมาณ 15,000 บาทครับ ดังนั้นถ้าเพื่อนต้องการซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาทก็ต้องมีรายได้ประมาณ 45,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปครับ แล้วต้องผ่อนบ้านกับธนาคารเดือนละประมาณเท่าไรล่ะ ส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยแล้วกู้เงิน 1,000,000 บาทก็จะต้องส่งค่างวดประมาณ 7,000 กว่าบาทต่อเดือนครับ
ค่าโอนกรรมสิทธิ์
รายจ่ายอื่นๆที่เราต้องเตรียมเพิ่มเติมหลังจากที่ธนาคารอนุมัติวงเงินกู้แล้วคือ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาบ้าน ค่าใช้จ่ายตรงนี้เราออกคนละครึ่งกับโครงการครับ ไปจ่ายกันที่สำนักงานที่ดินอำเภอหรือเขตที่โครงการตั้งอยู่ครับ
ค่าจดจำนอง
ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมอีกก้อนหนึ่งคือค่าจดจำนอง 1% ของราคาบ้านครับ + ค่าอากรแสตมป์ แต่กรณีที่เพื่อนๆซื้อบ้านเงินสดก็ไม่ต้องเสียเงินส่วนนี้ครับ
ค่าส่วนกลาง
ต่อไปเป็นค่าสาธารณูปโภคหรือที่เรียกกันติดปากว่าค่าส่วนกลางครับ จะคิดเป็นตารางวาต่อเดือนครับ ราคาก็คิดที่หลักสิบต่อตารางวาครับแล้วทางโครงการจะเรียกครับ เงินส่วนนี้ก็เอาไปจ้าง รปภ. ติดกล้องวงจรปิด คนกวาดถนน จัดสวนในโครงการ สำหรับสระว่ายน้ำและฟิตเนส บางโครงการที่ใจดีคิดรวมในค่าสวนกลางไปด้วยครับ ส่วนใหญ่แล้วค่าส่วนกลางจะเก็บล่วงหน้ากัน 2 ปีขึ้นไปครับ
ประปาและไฟฟ้า
ค่าใช้จ่าย ต้องเสียเงินอีกแล้วครับพี่น้อง เป็นค่าใช้จ่ายในการขอติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปาและค่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเราครับ ส่วนนี้ต้องใช้งบประมาณที่หนึ่งหมื่นต้นๆครับ
หวังว่าเพื่อนคงจะเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านสักหลังกันแล้ว ถึงเวลาเริ่มเก็บเงินกันได้แล้วนะครับ บ้านหลังแรกอยู่แค่เอื้อมครับ ไม่ยากครับ แต่ต้องมีวินัยในการใช้เงินครับ