คุณเคยคิดถึงวัยเกษียณไหมว่า ชีวิตของคุณตอนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร จะกำลังทำอะไร และต้องมีอะไรบ้าง วันนี้เราขอเชิญชวนทุกท่านมาลองวางแผนกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตก่อนเกษียณ และเพื่อการใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณที่พร้อมสุขกันครับ
1. หากิจกรรมหรืองานที่ชอบไว้ทำในวัยเกษียณ
กิจกกรรมที่ชอบ ไม่จำเป็นว่าต้องมีอย่างเดียว ความจริงแล้ว กิจกรรมที่ชอบ มียิ่งมาก ก็ยิ่งดี เพราะกิจกรรรมต่างๆ สามารถช่วยคลายเหงา และได้พบปะผู้คนมากหน้าหลายกลุ่มยิ่งขึ้น ทำให้เรากว้างขวาง ได้ความรู้ ได้ความสุข และกิจกรรมที่ใช้สมองอย่างการสอนหนังสือ สอนหรือเรียนภาษาที่ 3 ก็มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ด้วย หรือกิจกรรมเสริมสุขภาพกล้ามเนื้อให้แข็งแรงก็มีไม่น้อย เช่น เดินเร็ววันละ 20 นาที กิจกรรมบางอย่างอาจช่วยสร้างรายได้เสริมด้วย ทำให้เราใช้จ่ายได้สบายใจมากยิ่งขึ้น ในยุคสมัยนี้เริ่มมีหลายธุรกิจ ที่เปิดรับให้ผู้สูงอายุ หรือวัยเกษียณได้มาทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจมีอีกหลากหลายกิจกรรมให้วัยเกษียณได้เลือกทำมากกว่านี้ก็เป็นได้
2. เตรียมสร้างบ้านหรือซื้อคอนโดในฝันไว้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ
ก่อนเกษียณเราควรสำรวจว่าเราอยากอยู่เป็นบ้าน หรือคอนโด เพราะการอยู่บ้านกับคอนโด มีความแตกต่างทั้งเรื่องไลฟ์สไตล์ ข้อดีข้อเสียที่มีความต่างกันอยู่ไม่น้อย บางคนอาจอยู่กับครอบครัว การอยู่บ้านอาจเหมาะกว่าอยู่คอนโด แต่ไม่ว่าจะคอนโดหรือบ้าน ควรมีการออกแบบ เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุด้วย ตัวอย่างเช่น การออกแบบห้องน้ำในตัวบ้านหรือที่อยู่อาศัยให้มีที่จับ หรือพื้นป้องกันลื่น มีเทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำให้เราได้ทั้งอุ่นใจและช่วยได้ในยามฉุกเฉิน รวมไปถึงย่านหรือบริเวณที่เราควรนึกถึงด้วยว่า เป็นบริเวณที่เราอาจคุ้นชิน เช่น ใกล้ร้านอาหาร หรือซุปเปอร์ที่ชอบไป รวมถึงโรงพยาบาลและรถไฟฟ้า ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้การใช้ชีวิตในวัยเกษียณเป็นไปได้อย่างราบรื่น จึงควรเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกบ้านหรือคอนโดสำหรับเกษียณด้วยเช่นกัน ขณะนี้เมืองไทยก็มีสถานที่ให้ผู้สูงอายุที่ไม่ได้มีลูกหลานได้อยู่สบาย
3. วางแผนการเงิน ประกันสุขภาพ ประกันสังคม ไว้ใช้ในวัยเกษียณ
ประกันสุขภาพ ประกันสังคม บำเหน็จบำนาญไว้เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือค่ารักษาพยาบาลเมื่อเลิกทำงานหรือเมื่อเกษียณแล้ว
ความคุ้มครองโดยย่อของกรมธรรม์สำหรับคนวัยเกษียณ
แบบบำนาญ แบบชำระเบี้ยฯ ครั้งเดียว : ให้เงินบำนาญหลังเกษียณรายงวด ตามการมีชีวิตรอดของผู้เอาประกันภัยหลังการเกษียณหรือตามอายุที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เช่น 55 ปี 60 ปี เป็นต้น
กรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคล : ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยกรณีเสียชีวิตและเหตุอื่นๆ เนื่องจากอุบัติเหตุ
สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ : ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับสุขภาพที่ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อ เช่น ความคุ้มครองค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน เป็นต้น
สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรง : ให้ความคุ้มครองกรณี โดยบริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยกรณีผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
สำหรับเงินเดือนทุกเดือนจะถูกหักเข้ากองทุนประกันสังคมในทุกเดือน เราสามารถขอเงินคืนหลังเกษียณได้ โดยมีกติกาดังนี้
1. คุณต้องมีอายุ 55 ปี ก่อนถึงจะมีสิทธิขอคืนเงินได้ หรือถ้าอายุ 55 ปี แล้วยังทำงานอยู่ก็จะเบิกได้จนกว่าคุณจะเลิกทำงาน ซึ่งก็คือเมื่อเลิกส่งประกันสังคมนั่นเอง
2. ทำเรื่องขอคืนเงินออมชราภาพ ให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปีหลังจากเกษียณ และย้ำว่าห้ามให้เกินแม้แต่วันเดียว เพราะคุณจะถูกตัดสิทธิทันที
3. คนที่อายุ 55 ปี แต่อายุงานต่ำกว่า 15 ปี หรืออาจจะส่งประกันสังคมน้อยกว่า 15 ปี ก็สามารถขอคืนเงินได้เช่นกัน โดยทางสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินเป็นก้อน หรือที่เรียกกันว่า บำเหน็จ แต่ถ้าส่งเงินประกันสังคมเกิน 15 ปี จะได้เป็นบำนาญ โดยในแต่ละปีที่เกินมา จะได้เงินเพิ่มร้อยละ 1% หมายความว่า ถ้าส่งประกันสังคม 20 ปี จะได้ 15% และบวก 5% ที่เกินมา 5 ปี รวมเป็น 20% โดยจะคิดจากเงินเดือนสูงสุดคือ 15,000 บาท ดังนั้นคุณจะได้รับเงินบำนาญจากประกันสังคม เดือนละ 3,000 บาททุกเดือน
และหลักฐานต้องใช้เพื่อขอคืนเงินออมประกันสังคมหลังวัยเกษียณมี 5 อย่างด้วยกัน
● แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (สปส. 2-01)
● สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
● สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกันตน และของทายาทผู้มีสิทธิ (กรณีผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพถึงแก่ความตาย)
● ใบมรณบัตรพร้อมสำเนา (กรณีผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพถึงแก่ความตาย)
● สำเนาสมุดบัญชี เงินฝากธนาคารหน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) ผ่านทาง
บัญชีธนาคารของผู้ประกันตน 11 ธนาคาร ดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
นอกเหนือจากนี้ยังมีบัตรรักษาพยายบาลสำหรับข้าราชการและครอบครัวอีก ทั้งนึ้ขึ้นอยู่กับการลงทุน และการเตรียมพร้อมในความจำเป็นของแต่ละบุคคลด้วย
4. ค้นหาหมอ หรือบุคคลสำหรับติดต่อยามฉุกเฉินในวันที่เราเกษียณ
ในที่นี้หมายถึงควรมีหมอประจำตัว หรือบุคคลที่เราสามารถขอความช่วยเหลือในยามฉุกเฉินไว้บ้าง โดยเราควรมีเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อบุคคลหรือโรงพยาบาลเหล่านี้ หรือมีโน้ตติดตัวไว้ เผื่อในยามฉุกเฉินเรียกรถพยาบาล คนรอบตัวในขณะนั้นสามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินได้
แจ้งเหตุด่วน: กู้ชีพ / รถพยาบาล
- 1555 หน่วยแพทย์กู้ชีพ กทม. ให้บริการความช่วยเหลือฉุกเฉินเกี่ยวกับชีวิต, ไม่เสียค่าบริการ
- 1554 หน่วยกู้ชีวิต วชิรพยาบาล
- 1646 ศูนย์เอราวัณ กทม. บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร, ไม่คิดค่าบริการ
- 1691 ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ รับแจ้งอุบัติเหตุ ศูนย์โรงพยาบาลตำรวจ, ไม่คิดค่าบริการ
- 1669 ศูนย์นเรนทร รับแจ้งอุบัติเหตุและให้คำแนะนำฉุกเฉินในการดูแลคนป่วย, ไม่คิดค่าบริการ
- 1644 สถานีวิทยุ สวพ. 91
- 1677 สถานีวิทยุชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน (FM 96)
- 1667 ฮอทไลน์คลายเครียด
- 1784 สายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การป้องกันภัยเชิงรุกบรรเทาทุกข์เมื่อเกิดภัย
- 1330 สายด่วนบัตรทอง
- 02-749-4636 หมออาสา จส.100 ให้บริการคำแนะนำ หรือความช่วยเหลือฉุกเฉินเกี่ยวกับชีวิต
- 02-354-6999 ศูนย์วิทยุรามา ให้บริการฉุกเฉินทางด้านการคมนาคม หรือแจ้งเหตุร้าย, อัตราปกติ
- 02-751-0951-3 ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ 24 ชม.
- 02-451-7228-9 ศูนย์วิทยุกรุงธน แจ้งอุบัติเหตุ เหตุฉุกเฉิน
- 02-713-6793 ศูนย์ปรึกษาปัญหาชีวิต
เบอร์โทรฉุกเฉินเหล่านี้เป็นอีกทางเลือกที่น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยที่ควรเซฟติดโทรศัพท์หรือปรินท์เบอร์ฉุกเฉินแปะเอาไว้ในที่ที่เราเห็นบ่อยหรือต้องใช้เป็นประจำ เช่น ที่เก็บกุญแจ ใกล้ตู้ยาสามัญประจำบ้าน
5. ศึกษาและวางแผนคำขอสุดท้ายเตรียมไว้หลังเกษียณ
คำขอสุดท้าย หรือที่ต่างประเทศเรียกกันว่า Living Will ก็คือ การเขียนพินัยกรรม เพื่อแบ่งสมบัติ หรือการบอกกล่าวกับคนรอบตัวเมื่อเกิดเหตุต่างๆ หรือเมื่อถึงวาระสุดท้าย เพื่อให้คนรอบข้างและญาติพี่น้องได้เข้าใจในจุดประสงค์ ลดการเกิดความวุ่นวาย และทำให้เราคลายกังวลด้วย ทั้งนี้อาจมีการปรึกษากับทนาย หรือพูดคุยตกลงกันเองภายในก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบุคคล