กลายเป็นข่าวที่แชร์กันมากมายเมื่อผู้เช่ารายหนึ่งเก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมราคาหลายล้าน แต่ต้องทนกับปัญหาน้ำรั่วจากเพดานแบบซ้ำซาก อยากขายคืนให้โครงการแต่ก็ไม่รับซื้อ เราเลยหาสาเหตุมาให้ว่าน้ำรั่วจากเพดานเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง และใครต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้
การรั่วซึมจากภายในอาจเกิดจากห้องน้ำที่อยู่ชั้นบนของห้องที่คุณอยู่ไม่ได้ปูวัสดุกันซึมก่อนปูกระเบื้อง น้ำอาจจะซึมเข้าตามผนังและไหลไปยังฝ้าเพดานชั้นล่าง หรือ ท่อน้ำภายในเกิดการชำรุด จนน้ำรั่วไหลออกมา ก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่ฝ้าเพดานรั่ว รวมทั้งยังอาจเกิดจากยาแนวกระเบื้องหลุดเมื่อยาแนวกระเบื้องหลุดล่อน จะมีช่องว่างระหว่างกระเบื้องจนน้ำไหลซึมสะสมใต้แผ่นกระเบื้อง และไหลซึมผ่านรอยแตกร้าวจนเกิดปัญหา
นอกจากนี้การรั่วซึมของเพดานยังอาจเกิดจากแผ่นฝ้าที่ใช้ไม่มีวัสดุเคลือบทนความชื้น หรือมีอัตราการอมน้ำสูง เมื่อน้ำรั่วมาจากภายในบ้าน จะทำให้น้ำซึมเข้าไปข้างใน จนเกิดอาการบวม และรั่วออกมาในที่สุด
นอกจากเรื่องของวัสดุกันซึมหรือแผ่นฝ้าแล้วเราอาจต้องเช็คเรื่องระบบท่อภายในด้วย เพราะบางทีท่อน้ำหรืออุปกรณ์ส่งน้ำที่ติดต่อกับผนังหลุด หลวม ข้อต่อไม่แน่น หรือมีรอยแตกจนทำให้มีน้ำรั่วซึมตลอดเวลา
เมื่อเพดานรั่วแล้วใครต้องรับผิดชอบ
หลังเกิดปัญหาเพดานรั่วจนน้ำด้านบนรั่วลงมาด้านล่าง ก่อนอื่นเราต้องเช็คว่าปัญหานั้นมาจากสาเหตุใด ก่อนแจ้งฝ่ายนิติบุคคลเพื่อตรวจสอบ โดยฝ่ายนิติบุคคลจะพิจารณาดังนี้
1. จุดเกิดเหตุนั้นเป็นทรัพย์สินของใคร เป็นของส่วนกลางหรือส่วนบุคคล
หากการรั่วซึมมาจากส่วนกลางของอาคาร เช่นท่อประปาหรือท่อน้ำทิ้งส่วนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันเป็นทรัพย์ส่วนกลาง หน้าที่ในการดูแลรักษาจะเป็นของนิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลอาคารชุดจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมท่อส่วนที่ชำรุด รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดแก่เจ้าของห้องที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายด้วย หรือถ้าความเสียหายมาก เช่น น้ำซึมเข้ามาในห้องเนื่องจากการออกแบบโครงสร้างไม่ดีตั้งแต่ต้น หรือมาจากรอยร้าวของผนังอาคาร นิติบุคคลอาคารชุดก็อาจจะเคลมหรือเรียกร้องจากเจ้าของโครงการซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างได้ ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่การก่อสร้างอาคารต้องมีการรับประกันโครงการอยู่แล้ว
แต่หากเป็นท่อส่วนที่ใช้ประโยชน์ของห้องหนึ่งห้องใดโดยเฉพาะ อันเป็นทรัพย์ส่วนบุคคล เจ้าของห้องนั้น ๆ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเอง
2. ปัญหาเกิดจากอะไรมีความคุ้มครองในประกันภัยหรือไม่ เนื่องจากแต่ละคอนโดมิเนียมมีรายละเอียดไม่เหมือนกัน
จะเห็นว่าปัญหาคอนโดที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเพราะอุปกรณ์เสื่อมสภาพหรืออุบัติเหตุก็ตาม หากมีประกันภัยก็จะช่วยบรรเทาเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้ การทำประกันภัยนั้นจะแบ่งเป็นสองส่วน ทั้งทางนิติบุคคลจะทำประกันภัยในพื้นที่ส่วนกลางที่จะครอบคลุมประกันภัยการเสี่ยงภัยทุกชนิดทุกกรณีที่จะเกิดขึ้นกับอาคารและทรัพย์ส่วนกลาง ได้แก่ สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร รั้ว ฝ้าเพดาน ผนังโดยรอบ เครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงลิฟต์และงานระบบต่างๆ
ส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลนั้น เจ้าของคอนโดต้องเป็นผู้ทำประกันเอง ซึ่งเวลายื่นกู้นั้น ทางธนาคารก็จะขอให้ทำประกันภัยอยู่แล้ว แต่กรมธรรม์นั้นอาจจะคุ้มครองความเสียหายที่มาจากอุบัติเหตุ ปัจจัยภายนอก ภัยธรรมชาติ อย่างไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม แต่อาจจะไม่ได้คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ
หากเป็นปัญหาคอนโดที่เกิดขึ้นโดยสาเหตุนั้นมาจากห้องคอนโดของเรา ที่ไปทำความเสียหายให้กับห้องอื่นหรือพื้นที่ส่วนกลาง ที่เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจะสูงมาก ควรจะทำประกันภัยให้ครอบคลุมความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จะช่วยลดภาระได้มากเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ถ้าห้องพักได้รับความเสียหายจากทรัพย์สินส่วนกลาง
เช่นดาดฟ้า ท่อน้ำบนดาดฟ้า สปริงเกอร์ของคอนโดมิเนียม ฯลน มีความขัดข้องทำให้เกิดน้ำท่วมเจิ่ง คอนโดมิเนียมจะต้องรับผิดชอบ
ถ้าปัญหาคอนโดมิเนียมเกิดจากทรัพย์สินส่วนบุคคลเจ้าของห้องนั้นๆ
จะต้องรับผิดชอบเช่นท่อน้ำทิ้ง ซิงค์ล้างจาน สุขภัณฑ์เกิดการอุดตัน ฯลฯ เจ้าของห้องต้องรับผิดชอบเอง
ทั้งนี้ผู้อยู่คอนโดควรจะทราบไว้ด้วยว่าคอนโดจะมีระบบแรงดันของน้ำที่แรงกว่าที่อยู่อาศัยแนวรายอย่างบ้านหรือทาวน์เฮ้าส์ เมื่อมีการอยู่อาศัยมาระยะหนึ่งแล้ว ควรจะมีการตรวจสอบรอยต่อของท่อตามกำหนดของการตรวจสอบอาคารที่ควรทำปีละครั้ง ซึ่งจะต้องมีผู้ตรวจสอบมาตรวจอาคารตามกฏหมายควบคุมอาคารกำหนดไว้เพื่อป้องกันปัญหาคอนโดที่จะเกิดขึ้น