1) ติดต่อขอ Statement สรุปยอดหนี้เงินกู้กับธนาคาร A (เก่า)
- ซึ่งทางธนาคารจะประเมินยอดหนี้ให้คร่าว ๆ โดยประมาณยอดเงินต้น+ดอกเบี้ยที่ต้องชำระไว้ให้ 1 เดือนหลังจากที่ไปติดต่อ
**อาจจะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารนั้น ๆ ค่ะ แต่ของเราไม่เสียนะคะ**
2) นำเอกสารสรุปยอดหนี้ที่ได้มา ไปทำเรื่องยื่นกู้กับธนาคาร B (ใหม่)
- ซึ่งเราต้องดำเนินการทุกอย่างเหมือนยื่นกู้ใหม่เลยค่ะ จากนั้นรอการติดต่อกลับของทางธนาคารค่ะ
**ถ้าหากธนาคารติดต่อกลับมาล่าช้า สามารถโทรไปสอบถามความคืบหน้าได้นะคะ**
3) ขั้นตอนต่อไป เขาจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินทรัพย์สิน
- เราก็นัดวันที่ทั้งเราและเขาสะดวกได้เลยนะคะ ตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการประเมินด้วย
**การยื่นกู้เพื่อไถ่ถอน จะประเมินเพียงรอบเดียวค่ะ**
4) รอผลว่า "อนุมัติ" หรือ "ไม่อนุมัติ" ถ้าอนุมัติแล้วล่ะก็ไปข้อต่อไปกันเลยค่ะ
5) ติดต่อธนาคาร A เพื่อนัดวันไถ่ถอน
- บอกเหตุผลไปด้วยว่า ย้ายไปธนาคารใหม่ ทางธนาคาร A จะให้เรานัดทำเรื่องที่สำนักงานที่ดินได้ตั้งแต่วันไหน (โดยปกติก็ประมาณ 4-5 วันทำการหลังจากที่เราติดต่อขอไถ่ถอน) ให้เราเลือกวัน แล้วจากนั้น ธนาคาร A จะสรุปยอดหนี้ให้อีกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งชื่อผู้รับมอบอำนาจของทางธนาคาร ที่จะไปทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดินค่ะ
**ยอดหนี้ตรงนี้ จะเป็นเงินต้น+ดอกเบี้ยจนถึงวันไถ่ถอน เราต้องนำยอดหนี้ตรงนี้ ไปแจ้งทางธนาคาร B อีกครั้งค่ะ**
6) ติดต่อธนาคาร B เพื่อนัดวันทำสัญญา+โอนทรัพย์สินที่ใช้จำนอง (ต้องเป็นวันเดียวกันกับที่นัดกับธนาคาร A)
7) วันนัด ทำสัญญาเงินกู้ที่ธนาคาร B จ่ายค่าเสียหายต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
**บางธนาคารก็จะนำสัญญาไปให้เราเซ็นที่สำนักงานที่ดินเลย แต่ของเราต้องไปทำที่สาขาค่ะ**
**ถ้ายอดกู้สูงกว่าราคาไถ่ถอน ธนาคารใหม่จะออกเช็คให้เรา 2 ใบ ใบนึงจ่ายให้กับธนาคารเก่า อีกใบเข้ากระเป๋าเราค่ะ แต่ถ้ายอดกู้ต่ำกว่า เราต้องเตรียมเงินสดไปตอนไปทำเรื่องที่สำนักงานที่ดินด้วยนะคะ**
8) ไปทำเรื่องโอนที่ ณ สำนักงานที่ดิน ในเขตที่ทรัพย์สิน (อสังหาริมทรัพย์น้อย ๆ) ของเราตั้งอยู่ค่ะ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นด้วยนะคะ
**ผู้ที่ต้องไปดำเนินการ ณ สำนักงานที่ดิน นอกจากเราแล้ว จะมีนิติกรของธนาคารเก่า กับเจ้าหน้าที่ของธนาคารใหม่ไปด้วยค่ะ**
9) มอบโฉนดที่ได้มาจากสำนักงานที่ดินให้กับธนาคาร B เป็นหนี้อีกครั้งด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง กลับบ้านแบบตัวปลิวค่ะ(เพราะวันนั้นวันเดียว จ่ายเงินเหมือนกระเป๋าสตางค์รั่วเลย)
สรุป ค่าใช้จ่ายที่สำคัญ
1) ค่า Statement สรุปยอดหนี้ (แล้วแต่ธนาคาร อาจมีหรือไม่มีก็ได้ค่ะ)
2) ค่าประเมินทรัพย์สิน (ของเราประมาณ 1 พันบาท)
3) ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ (ของเราประมาณ 2 พันบาท)
4) ค่าอากรสแตมป์ (ประมาณ 5 บาท)
5) ค่าประกันอัคคีภัย (ไม่แน่ใจว่าบังคับทำหรือเปล่า แต่เราทำ เพราะเบี้ยไม่แพงค่ะ 3 ปี 2 พันกว่าบาทเอง)
6) ค่าเช็ค (อันนี้ไม่แน่ใจว่า เรียกเก็บทุกธนาคารหรือเปล่านะคะ แต่ของเราต้องเสียค่ะ ใบละ 10 บาท 2 ใบก็ 20 บาท เอิ๊ก ๆ)
7) ค่านิติกรรม (จ่ายให้กับธนาคารเก่าตอนไปทำเรื่องที่สำนักงานที่ดิน ของเราประมาณ 800 บาท)
8) ค่าไถ่ถอน จ่ายให้กับสำนักงานที่ดิน (อันนี้ไม่แน่ใจว่าคิดจากอะไร แต่ไม่แพงมากค่ะ คงเพราะยอดกู้เราน้อยด้วยมั้งคะ)
9) ค่าจดจำนอง จ่ายให้กับสำนักงานที่ดิน (1% ของยอดกู้ใหม่หรือยอดประเมิน)
10) ค่าพยาน จ่ายให้กับสำนักงานที่ดิน (อันนี้จ่ายพร้อมกับค่าไถ่ถอน และค่าจดจำนองค่ะ ประมาณ 20 บาทต่อรายการมั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด)