
หลายคนทุกวันนี้คุณขาดอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ทั้งมือถือ และบ้านก็ต้องมี เช่นเดียวกับเน็ตบ้านที่หลายคนก็ยังต้องมีอยู่ แต่ถ้าอยู่ดีๆ ใช้งานแล้ว เน็ตวิ่งไม่ดี, เล่นแล้วสะดุด, ช้าบ้าง และบางทีเน็ตหลุดบ่อย จะมีวิธีแก้ปัญหาแบบไหน
เรื่องเน็ตช้า !! เป็นปัญหาหลักของใครหลายๆ คน เวลาที่ติด Wi-Fi ที่บ้านแต่เจอปัญหาเรื่องความแรงเน็ตที่ตกบ้างกระตุกบ้าง หรืออาจจะช้าๆ หน่วงๆ จนรู้สึกหงุดหงิด เน็ตเดี๋ยวต่อได้เดี๋ยวต่อไม่ได้ บางทีสัญญาณเน็ตมาเต็มแต่เปิดเว็บไม่ขึ้น ความเร็วมาไม่เต็มสปีด หลุดบ่อย เล่นเกมส์แล้วแลคกระตุก ฯลฯ มันเกิดจากอะไร เป็นเพราะอะไร วันนี้เราจะมาช่วยแนะนำกันว่าสาเหตุที่ช้านั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง ในเบื้องต้นเราควรจะเช็คอะไร แก้อะไร ไปดูกันเลย

เช็คความเร็วเน็ตบ้านผ่านเว็บไซต์กลาง 
สามารถเข้าไปที่หน้า Speed Test เช็คความเร็วอินเทอร์เน็ต ของเราเพื่อตรวจวัดความเร็วเน็ตได้ง่ายๆ เพียงคลิกเดียวทั้งนี้ ก่อนเริ่มทดสอบความเร็ว ควรปิดเว็บไซต์ หรือหยุดการดาวน์โหลดไฟล์อื่นๆ ก่อน เพื่อให้ได้ค่าความเร็ซที่แม่นยำที่สุด
เมื่อทราบความเร็วอินเทอร์เน็ตมาแล้ว ให้เปรียบเทียบกับอัตราความเร็วที่ควรจะเป็นตามแพ็คเกจที่คุณได้สมัครไว้ ซึ่งสามารถดูได้ง่ายๆ จากบิลค่าเน็ตหรือโทรสอบถามกับผู้ให้บริการ
ตรวจสอบการตั้งค่าใน Router 
เราสามารถเข้าไปตั้งค่าในอุปกรณ์ Router ได้โดยบางบ้านช่างที่ติดตั้งไม่ได้ทำการตั้งค่าเปลี่ยนรหัส Wi-Fi อาจทำให้โดนแฮกและมีเพื่อนบ้านหรือบุคคลภายนอกเข้ามาเชื่อมต่อใช้งานและส่งผลให้เน็ตของเราช้าลงนั่นเอง ดังนั้นแนะนำให้ทำการตรวจสอบ หรือสามารถกดปุ่มรีเซ็ตอุปกรณ์ Router ที่ตัวกล่อง ส่วนใหญ่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต TRUE, AIS FIBER, 3BB, TOT มักจะให้ Router ที่มีการตั้งค่าสำเร็จรูป หรือ การตั้งค่า Defualt มาให้แล้ว การกดปุ่มรีเซ็ตจะไม่ทำให้อินเทอร์เน็ตของเราเองใช้ไม่ได้หลังรีเซ็ทแล้วแน่นอน
ปัญหาเกิดจากตัว Router 
ในบางกรณีต้นเหตุอาจไม่ได้มาจากอะไรเลย แต่ดันมาจาก Router ที่เราใช้อยู่เองซะงั้น เช่น Router ที่แถมมาจากผู้ให้บริการอาจไม่รองรับความเร็ว Wi-Fi มากพอ หรือ Router อาจเสื่อมสถาพ ทำให้การปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ผิดปกติ ไม่สเถียร แต่จะรู้ได้ไงว่าเสื่อม? ถ้าเอาง่าย ๆ เลยก็หา Router ตัวอื่นมาทดลองดูว่ามีอาการเดียวกันหรือไม่ ถ้า Router ตัวอื่นไม่มีปัญหาก็แสดงว่าตัวที่เราใช้อยู่นั้นเสื่อมแล้ว ส่งเคลมโลด

การติดตั้ง Router ไกลจุดให้สัญญาณ 
วิธีต่อมาในการแก้ปัญหาเน็ตบ้านช้าแบบเบื้องต้นคือการดูที่ตั้งของจุดผู้ให้บริการ หรือ Node ว่าห่างจากบ้านคุณมากน้อยแค่ไหน ข้อนี้มีผลต่อการให้ความเร็วอินเทอร์เน็ต ยิ่งไกลยิ่งดี แต่ถ้าไกลเกินไปอาจจะทำให้ความเร็วสูงไม่พอแน่นอน ดังนั้นการติดตั้งควรจะถามผู้ให้บริการโดยยึดจากที่อยู่ของบ้านคุณว่าห่างจากจุดที่ตั้งอขิงอินเทอร์เน็ตเกินไปหรือไม่
Package ให้ความเร็วน้อยไป 
เริ่มต้นกับ Package อินเทอร์เน็ตบ้านที่ทุกวันนี้เริ่มต้นตั้งแต่ 399 บาท ได้ความเร็วตั้งแต่ 300Mbps, 500Mbps ไปจนถึง 1Gbps ก็มีหากคุณเลือก Package ถูกเกินไปและมีการใช้งานที่เยอะก็อาจจะได้ความเร็วที่ไม่เหมาะสมได้ ดังนั้นถ้าเน็ตช้าวิธีการแรกอาจจะดู Package ของคุณก่อน แต่ถ้าดูแล้วว่าเหมาะสมค่อยๆ ดูกันต่อไป
อุปกรณ์เก่าเกินไป 
หากจุดที่ตั้งและ Package เหมาะสมแล้ว ทีนี้มาดูอุปกรณ์กันบ้าง บางครั้งคุณอาจจะติดตั้งอุปกรณ์ที่มาจากผู้ให้บริการมาตั้งแต่แรก แต่ถ้าใช้ไปนานๆ ก็อาจจะมี 2 เรื่องคือ ไม่ทันสมัย ไม่เหมาะกับการรองรับอุปกรณ์ของคุณ หรือ อาจจะเกิดการชำรุดภายในได้
วิธีสังเกตง่ายมากๆ ถ้าไฟของ Router ของผู้ให้บริการที่มีเครื่องหมาย PON กระพริบ = การเชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่สมบูรณ์ หรือ LOS หรือ Loss กระพริบแสดงว่าสัญญาณภายนอกหายไป ให้ติดต่อผู้ให้บริการทันทีในการมาซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ให้กับคุณ

เลือกใช้เทคโนโลยี Wi-Fi รุ่นใหม่ MU-MIMO 
ความใหม่ของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะทั้งสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค หรือแม้แต่อุปกรณ์กระจายสัญญาณล้วนแต่มีผลต่อการรับส่งสัญญาณทั้งสิ้น
ซึ่งเทคโนโลยีตัวใหม่ที่กำลังมาเเรงก็คือเจ้า MU-MIMO Wi-Fi มีหน้าที่รับส่งข้อมูลไปยังหลายอุปกรณ์ได้พร้อมกัน ทำให้เน็ต ไม่เกิดการสะดุด เรียกได้ว่า เล่นเน็ตได้อย่างสบายใจกันเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเน็ตสะดุด หรือเน็ตช้า ให้ขัดใจ
เคลียร์ช่องสัญญาณ Wireless 
อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้สัญญาณ Wi-Fi หน่วงแปลกๆ นั่นคือการแย่งสัญญาณกันใช้ ฉะนั้นถ้าใครรู้ตัวว่าสัญญาณที่บ้านกำลังถูกแย่งใช้ แนะนำให้ตั้งรหัสสำหรับการเข้าใช้ไปเลยเพื่อความสบายในการใช้งาน หรือถ้าเป็น Wi-Fi ที่ต้องแชร์กันใช้หลายๆ ช่อง ก็ลองหนีไปใช้สัญญาณช่องอื่นแทน
การกระจายสัญญาณไม่มากพอ 
นอกจากเรื่องอุปกรณ์หลักแล้วการที่คุณใช้เน็ตบ้านมักจะต้องใช้ระบ Wi-Fi หรือ Wireless Lan ในการเชื่อมต่อ ซึ่งถ้าเป็นคอนโดหรือบ้านชั้นเดียวปัญหาสัญญาณไม่ทั่วอาจจะเกิดขึ้นได้น้อย แต่ถ้าบ้านคุณมากกว่า 1 ชั้นอาจจะต้องอัปเกรดสักหน่อยเช่นการเพิ่มอุปกรณ์รองรับการเชื่อมต่อต่างๆ ดังนี้
- Repeater มาช่วยกระจายสัญญาณ จุดเด่นคือราคาถูก รองรับได้ทุกอุปกรณ์ แต่อาจจะมีข้อจำกัดถ้าเกิดอยู่ไกลเกินไป Repeater อาจจะไม่สอบโจทย์เท่าไหร่
- MESH Wi-Fi มีหน้าตาคล้ายกันกับล Repeater แต่ว่าการทำงานจะทำหน้าที่เป็น Router ให้ความแรงได้ระดับหนึ่ง จุดเด่นของอุปกรณ์นี้คือ สามารถใช้ชี่อ Wi-Fi เป็นจุดเดียวกันได้ทั้งหมด แต่ว่าข้อจำกัดคือราคาที่จะสูงและอุปกรณ์ใหญ่กว่า
- บางคนสามารถเลือกใช้การเดินสาย LAN เพื่อเสียบกับทั้ง 2 อุปกรณ์ได้เช่นเดียวกัน

ใช้อุปกรณ์เร่งสัญญญาน หรือ ตัวกระจายสัญญาณ
เราเตอร์บางรุ่นนั้น สามารถใช้เฟิร์มแวร์พิเศษที่ไม่ได้มาจากโรงงานอย่าง DD-WRT, Tomato ไว้เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงาน เร่งความเร็วชิปให้เหมือนเราเตอร์ราคาแพงได้
เทคโนโลยีล่าสุด คือ Wifi Repeater ตัวกระจายสัญญาณนั้นสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้ในทันที เพราะเจ้าเครื่องนี้จะช่วยกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในบ้านมากขึ้น แบรนด์ที่นิยมกัน ดังนี้
- TP-Link RE205 AC750
- D-Link AX1500
- TP-Link RE705X AX3000
- TP-Link TL-WA855RE
- TP-Link RE605X AX1800

ใช้แอป CPU-x มือถือ เคลียร์แรม หรือ ทำความสะอาดแรม
ฟีเจอร์ “เคลียร์แรม” หรือ “ทำความสะอาดแรม ด้วยความสามารถที่ตัวแอปดึงข้อมูลหน่วยความจำ (RAM) ออกมาแสดงผลได้แบบเรียลไทม์ จึงรู้ได้ว่ากำลังมีหลายแอปที่ยังทำงานอยู่เบื้องหลังอยู่และหากมีมากขึ้นหรือนานวันเข้าก็อาจทำให้เครื่องช้าลงได้ เราจึงต้องมีการรีเซ็ตเครื่องหรือเคลียร์แรมเพื่อให้เครื่องได้พักหรือทำงานเบาลงได้ อาจช่วยทำให้เน็ตที่เชื่อต่อ Wi-Fi ได้เร็วมากขึ้นไม่มากก็น้อย ดาวน์โหลดแอปได้ที่นี่


ปิดโปรแกรมที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่ใช้
มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือมากมายที่แอบใช้อินเทอร์เน็ตเบื้องหลังอยู่ หรือเรียกว่า Running in Background ถ้ามีการเรียกใช้งานหลายๆเครื่องพร้อมกันอาจจะส่งผลให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของเราลดลงได้ ดังนั้นผู้ใช้งานควรทำการตรวจสอบว่าแอพไหนที่ไม่ได้ใช้งาน หรือแอพพลิเคชั่นที่ใช้ DATA อินเทอร์เน็ตอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ปิดให้หมด จะทำให้อินเทอร์เน็ตของเราเร็วขึ้นและลดการใช้พลังงานของเครื่องอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วย
คลื่นสัญญาณรบกวนเยอะ
สุดท้ายจะเป็นเรื่องของคลื่นสัญญาณที่จะรบกวนการปล่อย Wi-Fi ของเครื่องและตัวรับนั่นเอง เช่นถ้าคุณตรวจสอบเครือข่ายของคุณแล้วพบว่าไปตีกับข้างบ้านของคุณ ก็จะทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลตกลงได้ วิธีแก้ปัญหาคือ ลองเปลี่ยนช่องสัญญาณเพื่อให้สามารถทำให้อยู่ในช่องสัญญาณที่ดีที่สุด
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอุปกรณ์เครือข่ายในบ้านดีแค่ไหน ถ้าคุณปรับเป็นระบบ Auto ทั้งหมด ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ลองใช้งานแล้วค่อยๆ ปรับแต่งเครือข่ายให้เหมาะสมรับรองว่าคุณจะได้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านที่เหมาะสมนั่นเอง

ตรวจสอบคลื่นสัญญาณที่ใช้ มีการจับสัญญาณ 5G หรือไม่
บางครั้งมือถืออาจมีการสลับไปจับคลื่น 2.4G เองโดยอัตโนมัติได้ เพื่อการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพและความเร็วยิ่งขึ้น แนะนำให้ตั้งค่าใช้งานให้เป็น 5G ดังนี้
- ไปที่เมนู “การตั้งค่า”
- คลิกเลือกที่ “Wi-Fi”
- เปิด “Wi-Fi”
- เลือกใช้คลื่นสัญญาณ 5G
ตรวจสอบระยะส่งสัญญาณ Router ได้ไกลแค่ไหน
เลือกใช้คลื่นสัญญาณให้เหมาะสมกับการใช้งาน หากเป็นไปได้แนะนำให้ใช้งานในระยะไม่เกิน 5-7 เมตร จากจุดที่วาง Router
- การใช้งานในระยะใกล้ไม่เกิน 5-7 เมตร แนะนำให้เลือกคลื่นสัญญาณ 5G
- การใช้งานในระยะที่อยู่ไกลกว่า 7 เมตร แนะนำให้เลือกคลื่นสัญญาณ 2.4G
สำหรับการใช้งานที่ไกลจากอุปกรณ์และมือถือจับคลื่นสัญญาน 2.4G ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เน็ตช้า สะดุด หรือหลุดบ่อยได้เพราะถูกคลื่นสัญญาน Wi-Fi ภายนอกจากบ้านอื่นรบกวน
ตรวจสอบจำนวนการใช้งานเน็ตของท่านในช่วงเวลาเดียวดัน
ด้วยเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่พร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกันเป็นจำนวนมาก แล้วความเร็นเน็ตในการอัพโหลด/ดาวโหลด ไม่สัมพันธ์กับการใช้งานก็เป็นปัจจัยทำให้เน็ตช้าได้นั้นเอง
แนะนำ : หากท่านอยู่บ้านกันจำนวน 5 คน ที่บ้านหากท่านใช้แพ๊กเกจเน็ตบ้าน AIS ความเร็ว 100/100 การจะมีการแชร์แบนวิดท์กันความเร็วเน็ตอาจจะช้าลงหากเชื่อมต่อเน็ตได้ แต่ค้าง ไม่ดาวน์โหลดแนะนำให้ลองปิด Router ประมาณ 5 นาที และเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง
มีใครดาวน์โหลดอะไรอยู่หรือเปล่า
โดยมากแล้ว ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณจะถูกแชร์ตามจำนวนเครื่องที่ใช้งาน ดังนั้น สมมติว่าคุณมีคอมฯ 2 เครื่องที่กำลังดูยูทูบอยู่ แล้วมีอีกคนเริ่มเข้ามาดาวน์โหลดไฟล์งานขนาดใหญ่ มันก็จะทำให้ทุกคนต่างดาวน์โหลดได้ช้าลง และทำให้รู้สึกว่าเน็ตช้าได้
นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนดความเร็วของแต่ละเครื่องด้วยสิ่งที่เรียกว่า QoS โดยการแบ่งแบนด์วิธ (Bandwidth) ให้กับแต่ละเครื่องตามความเหมาะสม เช่น คุณอาจกำหนดให้การโหลดบิตทอร์เรนท์ใช้ความเร็วได้จำกัดอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อป้องกันไม่ให้คอมเครื่องนั้นดึงเน็ตของทั้งบ้านให้ช้าลง

ถอดปลั๊ก รีเซ็ต เราเตอร์ตัวส่งสัญญาน
การแก้ปัญหาด้วยการรีเซ็ตเราเตอร์อาจฟังดูเป็นการแก้ปัญหาแบบบ้านๆ แต่ในความเป็นจริง วิธีง่ายๆ นี้สามารถช่วยแก้ปัญหาอินเทอร์เน็ตช้าได้บ่อยครั้ง
นั่นเป็นเพราะโมเด็มหรือเราเตอร์ของคุณก็ไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อถูกใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ อาจเกิดการรวนจนทำให้เกิดอาการช้าขึ้นมาได้
ควรรีสตาร์ทเราเตอร์ ด้วยการถอดปลั๊กไฟออกเป็นเวลา 2-3 นาที เพื่อให้ระบบได้รีเซ็ตอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนจะเสียบกลับเข้าไปอีกครั้ง และรอประมาณ 5 นาทีเพื่อรับสัญญาณจากผู้ให้บริการ


















สรุปส่งท้าย หากตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่า เน็ตมือถือหรือเน็ตบ้านช้ากว่าที่ควรจะเป็น หรือไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ แนะนำให้โทรแจ้งปัญหากับผู้ให้บริการ ซึ่งอาจช่วยรีเซ็ตสัญญาณหรือตรวจสอบปัญหาจากต้นทางได้ เราสามารถติดต่อศูนย์บริการของ AIS ได้ทาง Call Center 1175 สำหรับมือถือ หรือ แอดไลน์ AIS Fibre สำหรับเน็ตบ้าน
สำหรับค่ายทรู สามารถติดต่อ Call Center ได้ที่เบอร์ 1242 สำหรับมือถือ และ 02-783-0400 สำหรับเน็ตบ้าน ส่วนเน็ตบ้าน 3BB โทรแจ้งปัญหาได้ที่เบอร์ 1530