ฮวงจุ้ยที่อยู่อาศัย

ฮวงจุ้ยบ้านที่สำคัญล - ฮวงจุ้ยบ้านที่สำคัญ ละเลยไปอาจทำให้ไม่จริญรุ่งเรือง

คำว่าฮวงจุ้ย(Feng Shui)หรือเฟิงสุ่ยนี้เป็นศาสตร์อันลึกล้ำและหลักปรัชญาอันลี้ลับของชาวจีน การปฎิบัติตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นสิ่งดีต่อบ้านของคุณ ทำไปก็ไม่เสียหลาย แต่อย่าให้มากซะจนเสียสติก็แล้วกัน ลองมาดูหลักปฎิบัติตามหลักฮวงจุ้ยสำหรับบ้านกันดีกว่า ว่าทำอย่างไรแล้วจะเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวเป็นสุข

ฮวงจุ้ยบ้านที่สำคัญ ละเลยไปอาจทำให้ไม่จริญรุ่งเรือง

คำว่าฮวงจุ้ย(Feng Shui)หรือเฟิงสุ่ยนี้เป็นศาสตร์อันลึกล้ำและหลักปรัชญาอันลี้ลับของชาวจีน การปฎิบัติตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นสิ่งดีต่อบ้านของคุณ ทำไปก็ไม่เสียหลาย แต่อย่าให้มากซะจนเสียสติก็แล้วกัน ลองมาดูหลักปฎิบัติตามหลักฮวงจุ้ยสำหรับบ้านกันดีกว่า ว่าทำอย่างไรแล้วจะเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวเป็นสุข

•    อย่านำพระที่มีรอยร้าว หรือหักไว้ที่บ้าน หรือแม้แต่นำมาบูชาต่อ เพราะคนที่อยู่ในบ้านจะมีแต่เรื่องราว ให้นำไปไว้ที่วัด หรือที่ที่ชาวบ้านเขานำของแตกหักเสียหายมาวาง

•    ในห้องนอนห้ามมีเหลี่ยมมุมของเสาอยู่ เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งไม่ดี ผู้ที่นอนจะฝันร้าย จะเจอะเจอแต่สิ่งไม่ดีให้แก้โดยนำต้นไม้มาวางบริเวณมุมของห้อง อาจใช้ต้นไม้พลาสติกแทนได้ เพราะถ้าใช้ต้นไม้จริง เวลากลางคืนที่ต้นไม้คลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ก็จะเกิดผลเสียต่อผู้นอนเช่นกัน

•    ทางด้านทิศตะวันออกของบ้านคุณมีหน้าต่างอยู่หรือไม่ เพราะถ้ามีตามหลักฮวงจุ้ยแล้วถือว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง 

•    บ้านเดี่ยวที่มีประตูบ้านหันไปทางทิศใต้ และมีห้องรับแขกอยู่ทิศตะวันตก ห้องนั่งแล่นอยู่ทางทิศตะวันออกเชื่อว่าจะเป็นบ้านที่มีสิริมงคล

•    ประตูเข้าบ้านไม่ควรสร้างเป็นรูปตัวที หรือไม่ควรให้ประตูเข้าบ้านอยู่ตรงทางสามแพร่งนั่นเอง เพราะจะทำให้ผู้อยู่ อาศัยประสบโชคร้ายเสมอ

•    ไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่บังหน้าบ้านและไม่ควรมีต้นไม้ที่ตายแล้วอยู่หน้าบ้านเพราะเชื่อว่าอาจเป็นสื่อพลังร้าย

•    เวลาสร้างประตูบ้าน ไม่ควรให้ต้นเสาติดกับประตูเพราะจะทำให้คนในบ้านมีโรคภัยไข้เจ็บ

•    หากต้องการต่อเติมหน้าต่างหรือประตู ไม่ควรเอาไว้ทางทิศใต้ หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ทำกันสาดหรือชายคาด้วย เพราะเชื่อว่าคนในบ้านจะมีปากเสียงกันง่าย หรือถึงขั้นอย่าร้างกัน

•    หากต้องการเพิ่มพูนโชคลาภก็ให้นำบ่อน้ำมาวาง หากประตูทางเข้าอยู่ด้านซ้ายให้นำบ่อน้ำวางด้านขวา ถ้าประตูทางเข้าอยู่ด้านขวาก็ให้วางด้านซ้าย ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าน้ำเป็นสิ่งที่เพิ่มพูนโชคลาภ อ้อ! บ่อน้ำที่นำมาวางขอให้เป็นบ่อน้ำพุ หรือมีปลาว่ายไปมา ห้ามปล่อยให้บ่อน้ำหยุดนิ่ง ไม่มีการไหลเวียน เพราะจะทำให้โชคลาภ ห่างหายและหยุดนิ่งเช่นกัน

ห้องพระ เป็นอีกห้องหนึ่งที่จะต้องนำมาพิจารณากัน ถ้าบ้านหลังนั้นกำหนดให้มีห้องพระ บางบ้านอาจจะไม่มีห้องพระก็ได้ อาจทำแค่หิ้งพระเล็กๆ แทน ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่ความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นหลัก
การกำหนดห้องพระให้อยู่ส่วนไหนของบ้านนั้น มีหลักเกณฑ์อยู่หลายประการทีเดียว แต่ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่า เรื่องห้องพระเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจใช้หลักเหตุผลอย่างเดียวมาวิเคราะห์ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของจิตวิญญาณที่หาคำอธิบายได้ยาก

1. ห้องพระวางชั้นบนดีกว่าชั้นล่าง การกำหนดผังบ้าน พยายามเลือกวาง
ห้องพระเอาไว้ชั้นบนสุด ไม่ว่าบ้านจะกี่ชั้นก็ตาม เพราะพระเป็นของสูง เป็นที่สักการบูชา การวางต่ำกว่าคนในบ้าน ย่อมไม่เป็นมงคลแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะวางห้องพระชั้นล่างไม่ได้ เพียงแต่ว่า การวางห้องพระชั้นล่าง จะมีข้อจำกัดมากมาย และการหาตำแหน่งในการวางห้องพระค่อนข้างจะยาก เพราะชั้นล่าง จะเต็มไปด้วยห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องส้วม 

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาห้องที่อยู่ชั้นบนอีกด้วยว่า ห้องชั้นบนที่ตรงกับห้อง
พระชั้นล่าง เป็นห้องอะไร ถ้าเป็นห้องส้วม ห้องนอน ก็จะห้ามเอาไว้อีก บ้านที่เอาห้องพระไว้ชั้นล่าง ชั้นบนที่ตรงกับห้องพระจะต้องเป็นห้องว่าง ที่ไม่มีคนอยู่ถึงจะใช้ได้ 

ห้องนอนตรงกับห้องพระชั้นล่าง ถ้าพระตรงกับเตียงถือเป็นข้อห้าม

2. ห้องพระห้ามติดกับห้องส้วม เหตุผลในเชิงฮวงจุ้ยบอกว่า ห้องส้วมเป็นธาตุน้ำ ห้องพระเป็นธาตุไฟ ตามกฎเบญจธาตุ ( 5 ธาตุ) ธาตุน้ำพิฆาตธาตุไฟ 

ถ้ามีความจำเป็นจะต้องวางห้องพระติดกับห้องส้วม ควรหาตู้มาพิงผนังห้องส้วม แล้วหันพระไปทางอื่นที่ไม่ตรงกับห้องส้วม บ้านที่เอาห้องพระวางติดกับห้องส้วม ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระจะเสื่อม เพราะถูกพลังของธาตุน้ำ บั่นทอน นั่นเอง เพราะฉะนั้น ควรหลีกเลี่ยงวางห้องพระติดกับห้องส้วม ถ้ามีความจำเป็นจะต้องวางติดกัน ก็ไม่ควรวางองค์พระพิงผนังห้องส้วม และหาตู้มาพิงด้านที่เป็นกำแพงห้องส้วมเอาไว้ ก็จะถือว่าใช้ได้ 


3. ห้องพระต้องอยู่ในทำเลที่สงบ ลองพิจารณาดูพื้นที่บ้านสิว่า มีมุม
ไหนที่ไม่พลุกพล่าน เป็นมุมสงบบ้าง ห้องพระต้องการความสงบนิ่ง ไม่ใช่อยู่ในตำแหน่งที่วุ่นวาย เช่น ติดกับห้องเอนเตอร์เทน ที่มีเสียงดังจากทีวี วิทยุ ห้องครัว ซึ่งนอกจากมีเสียงทำกับข้าวแล้ว ยังมีกลิ่นมารบกวนความสงบอีกด้วย ห้องรับแขก ที่มีเสียงคุยกัน เพราะฉะนั้น การเลือกวางห้องพระเอาไว้ชั้นบน น่าจะหามุมสงบได้ง่ายกว่า เพราะจะมีแต่ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ 


4. ห้องพระติดห้องนอน ต้องระวังเรื่องการวางเตียง กรณีที่วาง
ตำแหน่งห้องพระติดกับห้องนอน จะต้องพิจารณาเรื่องการวางเตียงนอน เป็นประเด็นสำคัญ

ห้ามวางเตียงในลักษณะหันปลายเท้าไปที่ห้องพระ เพราะถือเป็นการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 
ตำแหน่งเตียงนอน ควรวางในลักษณะที่ขวางกับห้องพระ ห้ามวางเอาปลาย เตียงหันไปที่ห้องพระ เพราะคนนอนจะเอาเท้าหันไปที่ห้องพระ ซึ่งถือว่าไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เป็นมงคลกับคนที่นอน
กรณีที่เอาหัวเตียงไปที่ห้องพระ ต้องพิจารณาว่า ถ้าตำแหน่งขององค์พระหรือ
โต๊ะหมู่บูชาไม่ติดกับหัวเตียง ก็สามารถวางได้ แต่ถ้าติดกันจะถือว่าเสีย เพราะคนนอนจะได้รับอิทธิพลของธาตุไฟ ทำให้ปวดหัวได้ง่าย นอนไม่ค่อยหลับ 


5. ห้องพระห้ามต่ำกว่าห้องอื่น กรณีที่เป็นบ้านเล่นระดับ ห้องพระจะต้อง
เลือกวางในตำแหน่งที่สูงกว่าห้องอื่นๆ โดยเฉพาะห้องที่มีคนอยู่ เพราะโดยหลักแล้วคนห้ามนอนสูงกว่าพระ แต่ถ้าห้องที่สูงกว่าไม่มีคนอยู่ เช่น เป็นห้องว่าง ห้องเก็บของ ก็จะอนุโลมให้ทำห้องพระได้ 

"ห้องพระควรวางหน้าบ้านจริงหรือไม่"
ความจริงแล้วเรื่องการวางห้องพระหน้าบ้านหรือหลังบ้านนั้น ในตำราฮวงจุ้ยไม่ได้ระบุเอาไว้ชัดเจน เพียงแต่บอกว่า ตำแหน่งหน้าคือ "โชคลาภ" ตำแหน่งหลังคือ "บารมี" และจากประสบการณ์ที่ผมไปตระเวนดูบ้านมามากมาย ส่วนใหญ่ก็มักจะวางห้องพระไว้ส่วนด้านหลังมากกว่าด้านหน้าของบ้าน ซึ่งเหตุผลก็คงเป็นเรื่องของความนิ่งสงบมากกว่า บริเวณหน้าบ้านค่อนข้างจะพลุกพล่าน แต่ถ้ามองตามหลักฮวงจุ้ย การวางห้องพระด้านหลังก็น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะด้านหลัง แทนความหมายของ "บารมี" นอกจากนี้ ด้านหลังตามหลักชัยภูมิก็มีสภาพเป็น "หยิน" คือ นิ่ง (หน้าเป็นหยางที่เคลื่อนไหว) ก็จะเป็นชัยภูมิที่ถูกต้อง

กฎเกณฑ์ในการวางตำแหน่งห้องพระในบ้าน ความจริงแล้วยังมีเรื่องของทิศและ ตำแหน่งของดวงดาวที่จะต้องนำมาพิจารณาด้วย แต่ผมว่า เอาชัยภูมิให้ได้เสียก่อน เพราะเรื่องทิศและเรื่องของดาวยังเป็นเรื่องรอง และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร ต้องวัดกันเป็นองศา คงต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยจะดีกว่า…

ห้องรับแขก 
เปรียบเสมือนหน้าตาของเจ้าของบ้าน ฐานะ ชื่อเสียง อุปนิสัย รสนิยม รวมถึงสังคมของผู้อยู่อาศัย ห้องรับแขกเป็นห้องโชว์ได้เกือบเต็มร้อย บางบ้านให้ความสำคัญกับห้องรับแขกมากด้วยตำแหน่งหน้าที่ฐานะการงาน และความมีน้ำใจไมตรีกับผู้ที่มาเยี่ยมเยือนอย่างหลากหลาย

ยิ่งถ้าเป็นคฤหาสน์ของอภิมหาเศรษฐี หรือบ้านของเจ้าขุนมูลนาย ฯพณฯ รัฐมนตรี หรือนักธุรกิจระดับบริหาร ห้องรับแขกก็จะยิ่งมีความจำเป็นมากจนต้องเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น ห้องรับรองหรือเรือนรับรองก็มี แสดงว่าบ้านนี้เป็นบ้านคนดังว่างั้นเถอะ

 

แล้วจะตั้งไว้ตรงไหนดี ? 
ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ คุณต้องหาทำเลที่เหมาะด้วยตัวเองบ้างนะคะ อยากจะแนะนำด้วยว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยนี้มีพลังจริงๆ หากคุณจัดวางอะไรแล้วบังเกิดกระแสหมุนเวียนที่ดีได้ นั่นคือความสำเร็จและถูกต้อง วางตรงไหนแล้วเกิดผลดีก็อย่าไปขยับเคลื่อนย้าย วางตรงไหนแล้วเกิดผลร้าย เช่น มีเรื่องร้อนใจเสียเงิน หรือป่วยไข้ภายใน 7 วัน ต้องรีบเคลื่อนย้ายทันที เพราะที่ตรงนั้นไม่ถูกโฉลกกับสิ่งของที่ตั้งวางไว้ หากจะแนะนำ ควรเริ่มต้นวางที่ข้างประตูหรือมุมของห้องมุมใดมุมหนึ่งก็ได้ 

ห้องรับแขกอยู่ส่วนหน้าทางซ้ายมือของตัวบ้าน บุคคลที่มาหาล้วนเป็นคนมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวย มีธุรกิจติดต่อ เรื่องเงินทองๆ หมุนเงินได้คล่อง
ห้องรับแขกอยู่ส่วนหน้าตรงกลางบ้าน บ้านนี้ต้อนรับแขกมีเกียรติมีชื่อเสียงทำงานในตำแหน่งใหญ่โต เจ้าของบ้านเป็นคนดัง ตำแหน่งนี้คือหงส์แดง มีอำนาจวาสนาและมีฐานะมั่นคง รับราชการได้เลื่อนขั้นบ่อยๆ    


ห้องรับแขกอยู่ส่วนหน้าทางขวามือของบ้าน
เหมาะแก่การทำธุรกิจติดต่อกับบุคคลทุกอาชีพเจ้าของบ้านใจดี มีมนุษย์สัมพันธ์ทำงานสื่อสาร สิ่งพิมพ์ หรือประชาสัมพันธ์ อาชีพที่ใช้คำพูด
ห้องรับแขกอยู่ส่วนกลาง ซ้ายมือของบ้าน ตำแหน่งของมังกรเขียว แขกมาเยี่ยมเยือนเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับวงญาติ การประกอบอาชีพมักจะรวมตัวกับครอบครัว หรือเครือญาติต่อสู้เพื่อลูกหลานบางรายชอบลุ้นเรื่องเงินๆทองๆ (นั่งเล่นไพ่)    


ห้องรับแขกอยู่ส่วนกลางทางขวามือของบ้าน
เป็นตำแหน่งเสือขาว อนาคตไม่เหงา ลูกหลานมีความสุขความเจริญ ลูกสาวบ้านนี้จะนำความสำเร็จมาให้ผู้ปกครองชื่นชมยินดี คนในบ้านชอบสิ่งลี้ลับ เหมาะแก่การทำสมาธิจิต และมีของศักดิ์สิทธิในบ้าน
ห้องรับแขกอยู่ส่วนหลังทางซ้ายมือของบ้าน เป็นบ้านแห่งความรู้ คนในบ้านรักเด็กและ:)เลี้ยง การปกครองเป็นสิ่งสำคัญ ลูกหลานว่านอนสอนง่ายเรียนเก่ง เหมาะกับอาชีพครูบาอาจารย์ นักประดิษฐ์ค้นคว้าเทคโนโลยีใหม่ล้ำยุค แขกไปมาหาสู่มักเป็นนักวิชาการ เป็นบุคคลที่มีความรู้    


ห้องรับแขกอยู่ส่วนหลัง ตรงกลางของตัวบ้าน
บ้านนี้ทำมาหากินเก่ง ใครอยู่บ้านนี้แล้วจะขยัน รู้จักการประกอบอาชีพ สู้แล้วรวยกับรวย เพราะตำแหน่งนี้คือเต่าดำ ค้าขายเก่ง อยู่เฉยไม่ได้
ห้องรับแขกอยู่ส่วนหลังทางขวามือของบ้าน หัวหน้าครอบครัวคือพ่อบ้านอย่างแท้จริงต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นตลอดกาล แขกมาบ้านนี้มักจะมาขอความช่วยเหลือ ปฏิเสธก็ไม่ได้ เลี่ยงไม่พ้น    


ห้องรับแขกอยู่ตรงกลางบ้าน
ต้องเป็นอาคารสถานที่ส่วนรวมองค์กร หรือสถานที่ราชการมากกว่าเป็นบ้านส่วนตัว ใครมีบ้านที่ห้องรับแขกอยู่เช่นนี้ต้องทำตัวเพื่อสังคมและครอบครัวขนานแท้ค่ะ

ทิศทางของห้องรับแขก โดยทั่วๆ ไป ควรจะอยู่ในส่วนของหน้าบ้าน บางตำราให้กำหนดอยู่ทางซ้ายของบ้านเมื่อผู้มาเยือนเข้าประตูหันหน้าเข้าบ้าน (หากหันหน้าออกประตูห้องนี้จะอยู่ขวามือ) แต่จะอยู่ที่ไหนไม่สำคัญ ขอเพียงดูให้เหมาะสมและถูกใจผู้อาศัยก็พอแล้ว บางบ้านใช้ห้องอาหารเป็นห้องรับแขกก็ไม่ผิดที่ตรงไหน หากมีห้องรับแขกแล้วไม่เคยเปิดใช้นี่สิผิดปกติ นอกจากนี้ การใช้แผนที่ของอาคารตัวบ้านเป็นหลัก แบ่งส่วนหน้าบ้านคือจุดหน้าบ้าน หลังบ้านก็คือข้างหลังบ้าน ไม่ต้องใช้เข็มทิศมาจับว่าอยู่ทิศใด

การตกแต่งสวน และการจัดวางสิ่งของมนสวน

เรื่องของการจัดสวนภายในบ้าน ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบ้านในยุคนี้ เพราะสวน ได้กลายเป็นจุดเด่น เป็นหน้าตาของบ้าน แถมยังเป็นการเสริมฮวงจุ้ยบ้าน ให้ดีได้อีกด้วย
ตำราฮวงจุ้ยมีพูดถึงหลักในการจัดสวนเอาไว้ หลากหลายรูปแบบด้วยกัน และเป็นเรื่อง ที่น่าสนใจไม่น้อย ปัจจุบันคนก็หันมานิยมจัดสวนแต่งบ้านกันอย่างจริงจัง บางบ้านหมด เงินไปกับเรื่องนี้มากโขทีเดียว ลองมาดูกันสิว่า ในทางฮวงจุ้ยพูด ถึงการจัดสวน เอาไว้อย่างไร

1. ตำแหน่งสวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก 
การกำหนดพื้นที่สำหรับจัดสวนภายในบริเวณบ้าน ถือเป็นสิ่งแรกที่จะต้องพิจารณา การที่ตำราระบุว่า สวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดในยามเช้า จะช่วยส่งเสริมต้นไม้ให้มีความงอกงามและเขียวสด เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจนเกินไป 

ส่วนทางทิศตะวันออกถือว่าเหมาะสม เพราะต้นไม้จะได้รับแสงอาทิตย์ในยามเช้า

2. สวนต้องครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน 
และทอง สวนที่ดีจะต้องประกอบไปด้วย ต้นไม้ (ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา (ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง(ธาตุไฟ) มีดินที่สมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม(ธาตุทอง) ไม่ใช่ปล่อยให้รกรุงรัง กลายเป็นป่ามากกว่าสวน

3. น้ำตกในสวนจะต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ การตกแต่งสวนโดยมี
น้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในทางฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่าจะต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรณีของน้ำตก ที่มีการไหลของน้ำไม่เหมือนอย่างอื่น "หน้าน้ำตกจะต้องหันเข้าบ้าน ห้ามหันออกนอกบ้าน" เพราะการหันออกนอกบ้านจะหมายถึงการเงินไหลออก เพราะน้ำแทนความหมายของโชคลาภการเงินนั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่จะต้องจำไว้ในการแต่งสวน

4. บ่อน้ำ สระน้ำ รูปทรงต้องไม่ร้าย
การขุดบ่อน้ำหรือสระน้ำในสวนนั้นสิ่งที่จะต้อง คำนึงถึงก็จะเป็นเรื่องของรูปทรงของสระนั้น ในทาง ฮวงจุ้ย จะให้ใช้รูปทรงที่ไม่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่เป็นเหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม เป็นต้น ควรใช้รูปทรงโค้งมน หรือวงกลม จะถือว่าดี ีที่สุด 

 

5. ก้อนหิน วางผิดเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง
หิน มาตกแต่งสวนต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่เพราะในทางฮวงจุ้ย "ก้อนหิน" จะหมายถึงอุปสรรค การเลือกก้อนหินในการแต่งสวนจะต้องเลือกก้อนที่มีลักษณะกลมมน ห้ามเป็นเหลี่ยมคม หรือมีมุมแหลมก้อนหินที่มีรูก็เป็นลักษณะต้องห้ามเช่นกัน ตำแหน่ง ในการวางส่วนใหญ่ ่จะวางบริเวณมุมบ้าน ห้ามวางไว้หน้าบ้านหรือบริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน


6. บ้านเล็ก ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่
บ้านที่มีขนาดเล็กมีพื้นที่จำกัดในการจัดสวน อย่างบ้านทาวน์เฮ้าส์ ห้ามเอาต้นไม้ใหญ่ ่มาปลูก เพราะจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี สิ่งที่มองเห็นได้ชัด ก็คือ ต้นไม้ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย บ้านขนาดเล็กอย่างทาวน์เฮ้าส์ไม่ควรปลูก ต้นไม่ใหญ่ในบ้าน

7.หลีกเลี่ยงไม้หนามในการแต่งสวน เรื่องต้นไม้ที่มีหนามแหลม
ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นข้อห้ามอยู่แล้ว เพราะหนามที่แหลมคมจะส่งผลกระทบ ต่อคนในบ้านได้ แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าต้นไม้อย่าง เฟื่องฟ้า โป๊ยเซียน ที่คนนิยม นำมาปลูกในบ้านทำไมถึงไม่ห้าม ความจริงแล้วไม้หนามอย่างเฟื่องฟ้าหรือโป๊ยเซียน ก็เข้าข่ายเป็นต้นไม้ต้องห้ามเหมือนกัน เพราะมีหนามแหลม เพียงแต่ว่า ชื่อของต้นไม้เป็นมงคลเท่านั้น และต้นเฟื่องฟ้าส่วนใหญ่ ่จะนิยมปลูก ริมรั้ว หรือ กำแพง ซึ่งกลับเป็นผลดีในแง่ของการป้องกันสิ่งไม่ดีเข้าบ้าน 
เหตุผลที่ตำราห้ามเอาไว้อย่างนั้น ก็เพราะหนามแหลมของต้นไม้ อาจจะเกี่ยว

คนเดินผ่านไปมาในบ้านได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กๆ นอกจากนี้ เวลาต้นไม้เติบโตเป็น ต้นไม้ใหญ่ จะเคลื่อนย้าย หรือตัดกิ่งของต้นไม้ค่อนข้างจะยากที่จะไม่โดยหนามเกี่ยว จะเห็นได้ว่า หลักเกณฑ์หรือข้อบัญญัติในทางฮวงจุ้ยที่เกี่ยวกับการจัดสวนนั้น เป็นข้อบัญญัติที่อยู่บนรากฐานของเหตุผล ที่สามารถทำความเข้าใจได้ ยังไงก็ลองนำไป ใช้ดูนะครับ ..


ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโฮมทาวน์ - ฮวงจุ้ย
  • จัดเตียงนอนอย่างไร ให้ถูกหลักฮวงจุุ้ย และนอนหลับสบาย
  • ต้นไม้มงคล ประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน เสริมดวงชะตา
  • การจัดวางดวงไฟในบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
  • แน่ใหรือไม่ว่าการใช้ "สีน้ำตาล" ทาบ้านจะถูกหลักฮวงจุ้ย
  • เคล็ดลับด้านฮวงจุ้ย สำหรับอะพาร์ตเมนต์
  • 5 วิธีง่ายๆที่ขึ้นเสริมดวงคนในบ้านให้ดีขึ้น ไม่เจอเรื่องร้ายๆ
  • ออกแบบบันไดบ้านอย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมเสริมฮวงจุ้ย
  • รู้ฤกษ์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง !! รวมฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ดีๆ ทั้งปี 2563 อยากมีชีวิตดีๆ ดูได้ที่นี่เลย !!!
  • แต่งห้องนอน 12 ราศี ตามนิสัยของแต่ละเดือนเกิดต้องจัดห้องนอนแบบไหน
  • ฮวงจุ้ยเลขที่บ้าน อยู่แล้วรวย มงคลกับผู้อยู่อาศัย พร้อมแนะเคล็ดลับ ช่วยเสริมความปังยิ่งขึ้น
  • เช็กชัวร์ ปีชง 2567 ปีมะโรง ปีนักษัตรไหนชง วัตถุมงคลเสริมดวง พร้อมสถานที่แก้ชง
  • 9 ไม้มงคล พิธีลงเสาเอก ฤกษ์ดีมีชัย เพื่อเป็นศิริมงคลปกป้องคุ้มภัย
  • 10 แอปพลิเคชั่น ดูฮวงจุ้ยบ้าน หาทิศมงคล เสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีโชคลาภ
  • ซื้อที่ดินต้องรู้ แนะพื้นฐานการดูฮวงจุ้ย ก่อนเลือกซื้อมีอะไรบ้าง
  • 10 ปลามงคล ฮวงจุ้ยดีเสริมดวงทางการเงิน ความมั่งคั่ง ควรเลี้ยงปลาอะไร จัดไว้ทิศไหนดีที่สุด
  • ฮวงจุ้ยบ้านที่สำคัญล - ฮวงจุ้ยบ้านที่สำคัญ ละเลยไปอาจทำให้ไม่จริญรุ่งเรือง

    คำว่าฮวงจุ้ย(Feng Shui)หรือเฟิงสุ่ยนี้เป็นศาสตร์อันลึกล้ำและหลักปรัชญาอันลี้ลับของชาวจีน การปฎิบัติตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นสิ่งดีต่อบ้านของคุณ ทำไปก็ไม่เสียหลาย แต่อย่าให้มากซะจนเสียสติก็แล้วกัน ลองมาดูหลักปฎิบัติตามหลักฮวงจุ้ยสำหรับบ้านกันดีกว่า ว่าทำอย่างไรแล้วจะเจริญรุ่งเรือง ครอบครัวเป็นสุข

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll