การเลือกผ้าม่านให้กับห้องนอนของคุณนั้น ไม่ใช่แค่เลือกผ้าม่านตามความชอบเพียงเท่านั้น แต่ควรใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ ประกอบกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น สีสัน ลวดลาย หรือแม้กระทั่งคุณสมบัติของผ้า เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกับภายในห้องนอนของคุณทั้งสิ้น ฉะนั้นแล้วก็คุณก็ควรศึกษาข้อมูลไปล่วงหน้าก่อนดีกว่า ส่วนจะมีเรื่องอะไรที่คุณต้องพิจารณากันบ้างก็ต้องไปดูกันค่ะ
1. สีสันภายในห้อง
วิธีและสไตล์การตกแต่งบ้านขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน จึงทำให้สีสันที่ใช้ภายในห้องแตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึงก็คือ สีสัน และลักษณะการตกแต่งโดยรวมภายในห้อง หากห้องของคุณมีพื้นที่กว้างขวางอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกผ้าม่านที่มีลวดลายกิ๊บเก๋ หรือสีเข้มๆ ได้ตามใจ เพราะลวดลายเหล่านั้นจะช่วยพรางตาให้ห้องของคุณไม่ดูวังเวงจนเกินไปนัก ส่วนห้องนอนเล็กๆ ก็ควรจะเลือกโทนสีผ้าม่านที่ใกล้เคียงกับสีห้อง หรือเป็นสีสว่างไปเลยยิ่งดี เพื่อให้ดูเหมือนห้องของคุณกว้างขึ้นยังไงล่ะ
2. ดีไซน์หน้าต่าง
นอกจากสีสันและสไตล์การตกแต่งภายในห้องนอนของคุณแล้ว คุณก็ควรดูขนาดและการดีไซน์หน้าต่างภายในห้องด้วย อย่างเช่น ถ้าหน้าต่างของคุณมีขนาดใหญ่ หรือมีความสูงพอสมควร ก็ควรเลือกผ้าม่านที่มีขนาดกว้างและยาวที่เหมาะสม ไม่ดูสั้นเต่อหรือแคบจนบังอะไรไม่มิด ส่วนสีของผ้ามานก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ ส่วนหน้าต่างที่มีขอบโค้งมนก็ควรเลือกผ้าม่านที่มีลักษณะตรงกับความต้องการ โดยอาจเลือกใช้เฉดสีอ่อนๆ ช่วยทำให้ห้องของคุณดูน่ารักและสวยงามมากยิ่งขึ้น หรือถ้าหากว่าผ้าม่านที่มีขายสำเร็จรูปยังไม่ตรงกับดีไซน์หน้าต่างห้องนอนของคุณล่ะก็ อาจจำเป็นต้องสั่งตัดเพื่อให้ออกมาตรงใจที่สุดจ้า
3. ทิศทางแสงและอากาศในห้อง
รู้หลักการเลือกสีสันและดีไซน์กันไปแล้ว ก็มาว่าเรื่องเนื้อผ้ากันต่อ หากหน้าต่างในห้องนอนของคุณหันไปเจอกับแสงแดดพอดีเป๊ะ จะเลือกเนื้อใช้ผ้าบางเบาสีอ่อนๆ อย่างเช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน คงไม่ดีแน่ เพราะห้องคุณคงจะกลายเป็นเตาอบได้ในพริบตา ดังนั้นคุณควรเลือกเนื้อผ้าสีเข้ม ความหนาพอประมาณ อย่างผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าม่านที่มีซับใน จะช่วยกันแดดได้ดีกว่า
4. สไตล์การตกแต่งบ้าน
หากคุณชอบบ้านในสไตล์โมเดิร์น ก็น่าจะเลือกผ้าม่านลายเก๋ๆ หรือผ้าม่านที่มีสีสันตัดกับโทนสีภายในห้องของคุณสักหน่อย จะช่วยทำให้ห้องของคุณดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนใครที่แต่งบ้านในสไตล์คันทรี หรือชอบความคลาสสิคในแบบเทมโพรารี่ ก็ควรเลือกผ้าม่านสีเอิร์ธโทน มีลายนิดๆ หน่อยๆ เฉดสีใกล้เคียงกับโทนสีของห้อง ก็ดูกลมกลืนดีเหมือนกันนะ ส่วนสาวๆ ที่ตกแต่งบ้านสไตล์วินเทจพลาดไม่ได้เลยล่ะที่จะพิจารณาผ้าม่านสีหวานพาสเทลเป็นอันดับแรก
5. คุณสมบัติของเนื้อผ้า
ผ้าม่านบางชนิดนั้น มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ และถอดซักยากค่อนข้างลำบาก ดังนั้นคุณก็ควรเลือกผ้าที่มีการเคลือบผิว เพราะผ้าชนิดนี้ไม่ดูดซึมน้ำและดูแลรักษาง่าย แค่ดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้งก็พอ ที่สำคัญผิวของผ้าม่านที่มีความมันวาว จะสะท้อนแสงได้ดีกว่า ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้ผ้าม่านคงความใหม่ได้นานขึ้น ส่วนผ้าม่านที่ผลิตจากผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน ถึงแม้จะสกปรกง่ายไปสักนิด แต่เนื้อผ้าค่อนข้างโปร่ง สามารถเปลี่ยนแสงแดดอันร้อนแรงให้กลายเป็นแสงอ่อนๆ ชวนฝันได้ในพริบตา ยังไงคงต้องลองไปสัมผัสเนื้อผ้าและพิจารณาคุณสมบัติที่ชอบกันดูนะคะ
เห็นไหมคะว่าแค่จำคำแนะนำดีๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ก็สามารถเลือกผ้าม่านที่ถูกใจให้กับห้องนอนของคุณได้แล้วล่ะ คราวนี้ก็ไม่ต้องไปยืนเก้ๆ กังๆ ตัดสินใจไม่ถูกที่ร้านผ้าม่านอีกแล้วเนอะ
มาดูห้องตอนที่ผมไปเห็นกันครับ มีวอลเปเปอร์ ชุดครัวพร้อมย้ายเข้าอยู่ได้เลย แต่ก็นั่นแหละครับห้องเดิมยังไม่ตอบโจทย์
มาดูแปลนห้องกันต่อครับ ห้องนอนเดิม (ซ้ายมือ) จะมีตู้เสื้อผ้าจากโครงการมาให้ในห้องนอน ส่วนครัวจะค่อนข้างใหญ่ ซึ่งผมวางแปลนใหม่ให้ห้องครัวแคบลง เหลือแค่พื้นที่ใช้งานจริง ๆ ผมเอาส่วนที่เหลือไปเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าแทน แล้วผมจะได้ส่วนทำงานมาแทนที่ตู้เสื้อผ้าเดิม ชั้นหนังสือผมใส่ไว้ในส่วนห้องรับแขก และใส่ตู้เก็บของไว้หลังโซฟา เพราะมีพื้นที่เหลือแนวยาวค่อนข้างเยอะ ผมลองรื้อฝ้าดูว่ามีพื้นที่เหลือระหว่างฝ้าโครงการกับพื้นชั้นบนเท่าไร (ถ้ามีที่เหลือ10 เซนติเมตร ผมคงปล่อยไว้เหมือนเดิม) แต่ลองวัดดูมันได้ถึง 20 เชนติเมตร ก็ให้ช่างรื้อเลยครับ มันช่วยลดความรู้สึกอึดอัดลงไปได้เยอะ ผมจะได้ห้องที่มีขนาด 2.60 เมตร แทน ซึ่งความรู้สึกมันต่างกันจริง ๆ ระหว่างก่อนทำกับหลังทำ
ขั้นตอนระหว่างทำ เนื่องจากมีปรับแปลนใหม่ ต้องมีทุบผนังแน่นอน (ผนังกั้นภายในห้องทุบได้นะครับไม่มีผลกับโครงสร้างอาคาร) และอย่างที่ผมบอกมีรื้อฝ้า ได้ความสูงห้องเพิ่มขึ้นอีก 20 เซนติเมตร (ในรูปจะเห็นโครงของฝ้าเดิมอยู่) พอรื้อฝ้าแล้วจะเห็นท่อต่าง ๆ ที่โครงการซ่อนไว้ ไฟต้องเดินใหม่ทั้งหมด ผมใช้ท่อเหล็กในการเดินไฟแทนของเดิม พื้นห้องครัวผมเปลี่ยนใหม่ ให้ตรงกับที่ออกแบบไว้
มาดูห้องตอนเสร็จกันครับ มุมนี้เป็นมุมจากประตูเข้าห้อง ทางเข้าห้องครัวกับห้องนอน ผมทำเป็นบานเปิดคู่ มีชั้นหนังสืออยู่ตรงกลางห้อง ด้านซ้ายมือเป็นโซฟาห้องนั่งเล่น มีตู้เก็บของด้านหลัง ด้านขวามือเป็นตู้วางทีวี โดยในตู้เป็นชั้นเก็บรองเท้าไปในตัว
ประตูผมทำเป็นบานเหล็กสีดำ โดยเลือกใช้กระจกใส ไม่ทำบานทึบเพื่อให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด
มุมนั่งเล่น นั่งเปิดเพลงเบา ๆ หยิบหนังสือมาอ่านชิล ๆ เลยครับ
ตู้เก็บของข้างหลังจริง ๆ เป็นบานเปิดนะครับ (ดีไซน์ให้ออกมาเหมือนเป็นลิ้นชักเล่นระดับ) มันจะเก็บของได้เยอะกว่าลิ้นชักและราคาประหยัดกว่าด้วยครับ
ข้างตู้เก็บของเป็นพื้นที่สำหรับโคมไฟตกแต่ง
มาดูห้องนอนกันต่อครับ ห้องนอนผมทำเตียงบิวท์อิน มีลิ้นชักใต้เตียงไว้เก็บของ ปลายเตียงก็เป็นบานเก็บของได้
ด้านขวามือเป็นส่วนทำงาน นั่ง 2 คนได้อย่างสบาย ๆ
หัวเตียงมีปลั๊กสำหรับชาร์ทมือถือ แล้ววางไว้ได้เลยครับ ไม่ตกใส่หัวแน่นอน
ในส่วนของมุมทำงาน มีเพิ่มปลั๊กใหม่ให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน ด้านบนเป็นชั้นโครงเหล็กสีดำ เก็บเอกสาร หนังสือ วางของโชว์ มีไฟตั้งโต๊ะที่ผมเอาไปติดผนังแทน เป็นไฟส่องสว่างในส่วนนี้
ปลายเตียงที่ทุบผนังใหม่ ผมได้ทำเป็นส่วนตู้เสื้อผ้า โดยทำเป็นบานเหล็กกระจกใสให้เข้ากับประตูเข้าห้อง ทำเป็นบานเลื่อนแทนบานเปิดเพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ใช้งาน
มาดูส่วนครัวกันบ้างครับ เราลดพื้นที่ของส่วนนี้ลง แต่เรื่องฟังก์ชั่นต่าง ๆ ยังอยู่ครบเหมือนเดิม อ่างล้างมือ ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า เครื่องซักผ้า และตู้เย็น วันที่ไปถ่ายรูปของยังไม่ครบเลยครับ ชั้นบนสุดยังเก็บของได้อีกเยอะ
เนื่องจากท่อด้านบนในส่วนครัวค่อนข้างวุ่นวาย ผมลดทอนความวุ่นวายด้วยการติดโครงเหล็กฉีกสีดำเข้าไป ออกมาโอเคเลย
ไม่ต้องห่วงเรื่องโต๊ะกินข้าวนะครับ เรามีโต๊ะพับติดไว้แล้ว มีชั้นวางจานแขวนแก้ว ซื้อที่ IKEA ได้เลยครับ ราคาไม่แพง เหมาะกับห้องคอนโดที่มีพื้นที่ไม่กว้างนัก นั่งกิน 2 คนได้เลยครับ
ผนังห้องโดยรวมจะเป็นงานทาสี (โทนสีเทา) เป็นการประหยัดไปในตัว ประหยัดกว่างานปูนเปลือยหรืออิฐเทียม
สุดท้ายงานออกมาตรงตามที่ผมต้องการไว้เลยครับ (เพื่อนแฮปปี้) ทั้งเรื่องสไตล์ การใช้งาน การอยู่อาศัย เข้าไปแล้วไม่อึดอัด มีที่เก็บของ มีชั้นหนังสือ มีส่วนทำงาน ราคาก็อยู่ในงบที่ตั้งไว้ ว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดเล็ก ๆ ห้องไม่ใหญ่มากก็แต่งออกมาให้ดูดี น่าอยู่ได้นะครับ ได้อยู่ห้องในแบบที่เราชอบ ผมว่ามันมีความสุขในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ...
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ballsilver สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม