
เย่ๆ และแล้วก็ถึงวันปีใหม่อีกปี หากปีนี้ใครวางแผนว่า จะทำบ้านใหม่ให้น่าอยู่ เพราะทนบ้านรกๆ ไม่ไหว แนะนำให้เช็ก 15 จุดนี้แล้วเปลี่ยนเลย
บ้านต่อให้สร้างมาดีแต่หากอยู่ไปนานๆ ก็มีทรุดโทรมบ้างเป็นธรรมดา หากปีใหม่ปีนี้ตั้งใจจะเปลี่ยนบ้านรกๆ ที่ไม่ค่อยได้ดูแลให้กลับมาสะอาด น่าอยู่ เหมือนตอนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ เราขอแนะนำว่าให้เช็ก 15 จุดนี้แล้วเปลี่ยนซะ บ้านก็จะสวยได้อย่างใจโดยไม่ต้องถอน รื้อ ทุบเลย
15 กลวิธีซ่อมแซมบ้านสวย
บ้านสวยๆ ใครก็อยากเป็นเจ้าของ เพราะบ้านเป็นทรัพย์สินอันเป็นที่รักของเรา นานวันไปย่อมเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา หากผู้เป็นเจ้าของบ้านไม่ดูแลรักษาหรือเอาใจใส่ การซ่อมแซมหรือการทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถรักษาสภาพบ้านให้กลับมาดูดีได้ เราได้รวบรวม 15 กลวิธีซ่อมแซมบ้านสวย ไม่มีอะไรต้องลงทุนเยอะ ไม่มีอะไรที่ทำแล้วไร้ประโยชน์ ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางปฎิบัติง่ายๆ ในบ้านที่สามารถทำได้จริงอย่างเป็นเรื่องปกติ
1. ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก
แม้ว่าจะพยายามที่จะให้บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดตาเท่าไร ให้ลองยกพรมขึ้นแล้วดูพื้นใต้พรมหรือสังเกตรอยร่องที่อยู่เบื้องหลังการขัดห้องน้ำ ปัดฝุ่นตามใบพัดลมเพดาน หรือผ้าม่านออก เป็นต้น พยายามเช็กให้ได้ทุกที่แม้ในมุมอับแล้วทำความสะอาดให้หมดจด โดยเริ่มต้นจากการทำความสะอาดจากพื้นบ้านก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนไปทำความสะอาดส่วนอื่นๆ
2. โยนทิ้งและบริจาค
เมื่อของใช้บางอย่างที่ดูสภาพไม่ค่อยจะดีแล้ว แต่ยังนึกเสียดายอยากจะเก็บไว้ใช้ต่อโอกาสหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่เปิดประตูเสื้อผ้าแล้วพบสิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นเวลานานเกิน 6 เดือนโดยไม่เคยได้ใส่สักทีหรือของใช้ใดก็ตามที่ไม่เคยได้ใช้เลย ลองโละออกจากตู้เสื้อผ้าและตู้อะไรก็ตามแต่เก็บลงกล่องแล้วให้โอกาสมันอีกสัก 3 เดือนเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าของสิ่งนั้นไม่เคยได้รับความสนใจจากตัวเราเลยสักที ลองเอาไปบริจาคดีกว่า มันต้องมีประโยชน์กว่าแน่

3. ขัดเครื่องใช้ดูใหม่
บางทีเครื่องมือในห้องครัว เช่น ตู้เย็น เตาอบ หรืออ่างล้างจาน สิ่งเหล่านี้ยังใช้งานได้ แต่ไม่รู้ว่ามันเต็มประสิทธิภาพอยู่หรือเปล่า คราบน้ำแข็งในตู้เย็นไม่ได้ช่วยให้ประหยัด แต่กลับกินไฟมากกว่าเดิม แถมความเย็นยังลดลงด้วย เป็นต้น ดังนั้นลองทำความสะอาดตู้เย็นหรือตู้แช่และทำความสะอาดพวกตัวกรองต่างๆ เช่น ในเครื่องซักผ้าอีกสักหน่อย ก็จะได้บ้านสวยและดีกลับคืนมา
4. จดจำอายุอาหาร
ในขณะที่กำลังค้นหาอาหารสำหรับมื้อใดก็ตาม การค้นหาไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมาย คุณอาจจะอยากรับประทานของที่มีอายุนานกว่า เพราะไม่รู้ว่ามีอาหารใดบ้างที่กำลังจะหมดอายุและควรนำมารับประทานก่อน ดังนั้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่ตอนเริ่มต้น โดยจดอายุอาหารที่ซื้อมาให้ดี จะได้นำมากินทันเวลาก่อนที่มันจะเสีย ป้องกันของเน่าบูดคาตู้เย็นจนต้องล้างตู้เย็นหรือห้องครัวกันให้วุ่นวาย
5. น้ำมันหยดบานพับ
ลองไปเปิดปิดประตูหรือหน้าต่างในบ้านดูสิว่า มีเสียงออดแอดบ้างหรือไม่ มันอาจจะฝืดหรือมีรอยสนิมอยู่ก็ได้ ลองหาน้ำมันหรืออะไรที่เหมาะสมมาหยอดดู เพื่อให้ไม่มีบานหน้าต่างหรือประตูเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดรบกวนโสตประสาทอีกต่อไป

6. เช็ดดูความสกปรก
การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องปกติของพ่อบ้านแม่บ้านอยู่แล้ว แต่สำหรับชีวิตคนวัยทำงาน ที่งานนอกบ้านก็ยุ่งอยู่แล้ว จึงเป็นไปได้ที่จะตกหล่นหน้าที่ภายในบ้านไปบ้าง ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้ต้องทำความสะอาดบ้านทุกวัน เพียงแค่เมื่อไรที่ว่างแล้วเห็นฝุ่นเริ่มจับตัว เห็นรอยเท้าบนพื้น เห็นรอยนิ้วมือบนโต๊ะ แสดงว่าถึงเวลาที่จะต้องจัดการบ้านให้สะอาดเสียที
7. ทาสีรอยซีดจาง
การย้ายที่ตั้งกระถางต้นไม้ เก้าอี้นั่งเล่นหน้าบ้าน โต๊ะไม้ที่ระเบียง จะทำให้เห็นสีบนพื้นหรือผนังที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เพราะการโดนแดดโดนลมที่ต่างกัน บริเวณที่แดดเลียถึงย่อมซื้อจางกว่าพื้นที่มีสิ่งของวางทับ ดังนั้นลองไปร้านค้าวัสดุบ้าน แล้วเลือกสีที่ใกล้เคียงและชื่นชอบมาทาพื้นหรือผนังให้เป็นเนื้อเดียวกัน จึงเป็นวิธีซ่อมบ้านสวยแบบง่ายๆ ที่ทำเองได้ไม่ต้องเรียกช่าง
8. ป้องกันดีกว่าแก้
เดินทัวร์รอบบ้านว่าอุปกรณ์ป้องกันอันตรายในบ้านใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ เช่น กล้องจับขโมย สัญญาณเตือนไฟไหม้ คัทเอาท์ไฟฟ้า เป็นต้น เสียเวลาหน่อยแต่ก็คุ้มค่า เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องใหญ่ของทุกคนในบ้าน

9. ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า
ไม่มีใครอยากจะเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้ายามฉุกเฉิน อย่างน้อยเราเองน่าจะพอทราบว่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้มานานเท่าไรแล้ว การตรวจเช็คสภาพภายในจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น ยังคงรักษาอุณภูมิน้ำได้ดีหรือไม่ เครื่องปรับอากาศมีเสียงดังเกินไปหรือเปล่า หรือที่มีสายไฟลงใต้ดิน แน่ใจไหมว่ามันใช้งานได้ตามปกติ
10. ทำความสะอาดหน้าต่าง
ภายในและภายนอกหน้าต่างกำลังเผชิญกับฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก สิ่งสกปรกตามมาในสายลมอาจจะพัดเข้ามาในบ้านหรือเกาะติดกระจกดูแล้วไม่สะอาดตาจนไม่เหลือเค้าความสวยงาม ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ควรจะทำความสะอาดกระจกให้กลับมาใสกิ๊งเหมือนเดิมเสียที ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรทำเพื่อรักษาสุขภาพของคนในบ้านไปพร้อมกันด้วย

11. พื้นไม้ขัดมัน
ปัจจุบันยังมีบ้านไม่น้อยที่มีพื้นบ้านชั้น 2 เป็นพื้นไม้ นานวันไปดูสึกหรอดูเก่าได้ ซ่อมบ้านสวยง่าย ๆ โดยการทำความสะอาดแล้วลงน้ำมันชักเงาให้สวยงาม เพื่อสร้างความสวยงามและรักษาเนื้อไม้ให้แข็งแรงคงทนไปในตัว
12. กลิ่นผ้าหอมสดชื่น
หลายคนทำความสะอาดบ้านเสียอย่างดิบดี แต่ดันลืมของใกล้ตัว อย่างผ้าคลุมเตียง ปลอกหมอน ผ้าม่านห้องอาบน้ำ และผ้าม่านหน้าต่าง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเก็บเป็นตัวเก็บฝุ่นละอองชั้นดี หลายคนกลายเป็นโรคภูมิแพ้เพราะสิ่งเหล่าโดยไม่ทันรู้ตัว ดังนั้นลองเอาผ้าประดับเครื่องใช้เหล่านี้ไปทำความสะอาดดูเสียหน่อย สังเกตง่าย ๆ เมื่อใดที่เริ่มจามหรือรู้สึกคันจมูก นั่นแหละคืออาการเบื้องต้นของพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะนั่นเอง

13. กำแพงสีหลุดร่อน
แม้ว่าผนังหรือกำแพงบ้านของเราจะเป็นสีที่ชอบ แต่เมื่อไรเมื่อเดินเข้ามาดูใกล้แล้วเห็นว่าเปลี่ยนไป เริ่มมีรอยแยกหลุดร่อน แม้กระทั่งรอยเจาะตะปูแขวนกรอบรูปหรือของตกแต่งบ้าน ที่แม้จะย้ายสิ่งของเหล่านั้นออกไปแล้วก็ยังคงเหลือร่องรอยไว้ในเห็น หากไม่ต้องการทาสีใหม่ทั้งหมดก็ลองมองหาสีเทียบเคียงแล้วทาปกปิดความต่างของ 2 พื้นที่ไปพลางๆ ก่อนดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
14. จัดเรียงเฟอร์นิเจอร์ใหม่
หากไม่มีอะไรใหม่เปลี่ยนแปลง ลดลง หรือเพิ่มขึ้น แต่การโยกย้ายเฟอร์นิเจอร์สามารถเปลี่ยนให้บ้านสวยขึ้นได้ แถมยังส่งเสริมให้เกิดการไหลเวียนของอากาศและความรู้สึกของการตกแต่งภายในด้วยมุมมองใหม่ๆ แค่จับสิ่งโน้นมาวางนี้ แล้วโยกสิ่งนั้นไปไว้มุมห้อง ง่าย ๆ แบบนี้แหละแต่ทำให้บ้านสวยขึ้นมานักต่อนักแล้ว
15. เปิดทางให้แสงส่องผ่าน
ตรวจสอบการติดตั้งไฟทั้งหมด เพื่อดูว่าหลอดไฟใดเกินความจำเป็นไปหรือเปล่า พิจารณาการลงทุนเงินเพิ่มเล็กน้อยในการใช้พลังงานธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น เพิ่มหลังคาแบบใสในห้องครัว นอกจากช่วยให้ห้องครัวดูโปร่งขึ้นแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันได้ด้วยนะคะ

มาดูห้องตอนที่ผมไปเห็นกันครับ มีวอลเปเปอร์ ชุดครัวพร้อมย้ายเข้าอยู่ได้เลย แต่ก็นั่นแหละครับห้องเดิมยังไม่ตอบโจทย์
มาดูแปลนห้องกันต่อครับ ห้องนอนเดิม (ซ้ายมือ) จะมีตู้เสื้อผ้าจากโครงการมาให้ในห้องนอน ส่วนครัวจะค่อนข้างใหญ่ ซึ่งผมวางแปลนใหม่ให้ห้องครัวแคบลง เหลือแค่พื้นที่ใช้งานจริง ๆ ผมเอาส่วนที่เหลือไปเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าแทน แล้วผมจะได้ส่วนทำงานมาแทนที่ตู้เสื้อผ้าเดิม ชั้นหนังสือผมใส่ไว้ในส่วนห้องรับแขก และใส่ตู้เก็บของไว้หลังโซฟา เพราะมีพื้นที่เหลือแนวยาวค่อนข้างเยอะ ผมลองรื้อฝ้าดูว่ามีพื้นที่เหลือระหว่างฝ้าโครงการกับพื้นชั้นบนเท่าไร (ถ้ามีที่เหลือ10 เซนติเมตร ผมคงปล่อยไว้เหมือนเดิม) แต่ลองวัดดูมันได้ถึง 20 เชนติเมตร ก็ให้ช่างรื้อเลยครับ มันช่วยลดความรู้สึกอึดอัดลงไปได้เยอะ ผมจะได้ห้องที่มีขนาด 2.60 เมตร แทน ซึ่งความรู้สึกมันต่างกันจริง ๆ ระหว่างก่อนทำกับหลังทำ

ขั้นตอนระหว่างทำ เนื่องจากมีปรับแปลนใหม่ ต้องมีทุบผนังแน่นอน (ผนังกั้นภายในห้องทุบได้นะครับไม่มีผลกับโครงสร้างอาคาร) และอย่างที่ผมบอกมีรื้อฝ้า ได้ความสูงห้องเพิ่มขึ้นอีก 20 เซนติเมตร (ในรูปจะเห็นโครงของฝ้าเดิมอยู่) พอรื้อฝ้าแล้วจะเห็นท่อต่าง ๆ ที่โครงการซ่อนไว้ ไฟต้องเดินใหม่ทั้งหมด ผมใช้ท่อเหล็กในการเดินไฟแทนของเดิม พื้นห้องครัวผมเปลี่ยนใหม่ ให้ตรงกับที่ออกแบบไว้
มาดูห้องตอนเสร็จกันครับ มุมนี้เป็นมุมจากประตูเข้าห้อง ทางเข้าห้องครัวกับห้องนอน ผมทำเป็นบานเปิดคู่ มีชั้นหนังสืออยู่ตรงกลางห้อง ด้านซ้ายมือเป็นโซฟาห้องนั่งเล่น มีตู้เก็บของด้านหลัง ด้านขวามือเป็นตู้วางทีวี โดยในตู้เป็นชั้นเก็บรองเท้าไปในตัว
ประตูผมทำเป็นบานเหล็กสีดำ โดยเลือกใช้กระจกใส ไม่ทำบานทึบเพื่อให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด
มุมนั่งเล่น นั่งเปิดเพลงเบา ๆ หยิบหนังสือมาอ่านชิล ๆ เลยครับ
ตู้เก็บของข้างหลังจริง ๆ เป็นบานเปิดนะครับ (ดีไซน์ให้ออกมาเหมือนเป็นลิ้นชักเล่นระดับ) มันจะเก็บของได้เยอะกว่าลิ้นชักและราคาประหยัดกว่าด้วยครับ
ข้างตู้เก็บของเป็นพื้นที่สำหรับโคมไฟตกแต่ง
มาดูห้องนอนกันต่อครับ ห้องนอนผมทำเตียงบิวท์อิน มีลิ้นชักใต้เตียงไว้เก็บของ ปลายเตียงก็เป็นบานเก็บของได้
ด้านขวามือเป็นส่วนทำงาน นั่ง 2 คนได้อย่างสบาย ๆ
หัวเตียงมีปลั๊กสำหรับชาร์ทมือถือ แล้ววางไว้ได้เลยครับ ไม่ตกใส่หัวแน่นอน
ในส่วนของมุมทำงาน มีเพิ่มปลั๊กใหม่ให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน ด้านบนเป็นชั้นโครงเหล็กสีดำ เก็บเอกสาร หนังสือ วางของโชว์ มีไฟตั้งโต๊ะที่ผมเอาไปติดผนังแทน เป็นไฟส่องสว่างในส่วนนี้
ปลายเตียงที่ทุบผนังใหม่ ผมได้ทำเป็นส่วนตู้เสื้อผ้า โดยทำเป็นบานเหล็กกระจกใสให้เข้ากับประตูเข้าห้อง ทำเป็นบานเลื่อนแทนบานเปิดเพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ใช้งาน
มาดูส่วนครัวกันบ้างครับ เราลดพื้นที่ของส่วนนี้ลง แต่เรื่องฟังก์ชั่นต่าง ๆ ยังอยู่ครบเหมือนเดิม อ่างล้างมือ ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า เครื่องซักผ้า และตู้เย็น วันที่ไปถ่ายรูปของยังไม่ครบเลยครับ ชั้นบนสุดยังเก็บของได้อีกเยอะ
เนื่องจากท่อด้านบนในส่วนครัวค่อนข้างวุ่นวาย ผมลดทอนความวุ่นวายด้วยการติดโครงเหล็กฉีกสีดำเข้าไป ออกมาโอเคเลย
ไม่ต้องห่วงเรื่องโต๊ะกินข้าวนะครับ เรามีโต๊ะพับติดไว้แล้ว มีชั้นวางจานแขวนแก้ว ซื้อที่ IKEA ได้เลยครับ ราคาไม่แพง เหมาะกับห้องคอนโดที่มีพื้นที่ไม่กว้างนัก นั่งกิน 2 คนได้เลยครับ
ผนังห้องโดยรวมจะเป็นงานทาสี (โทนสีเทา) เป็นการประหยัดไปในตัว ประหยัดกว่างานปูนเปลือยหรืออิฐเทียม
สุดท้ายงานออกมาตรงตามที่ผมต้องการไว้เลยครับ (เพื่อนแฮปปี้) ทั้งเรื่องสไตล์ การใช้งาน การอยู่อาศัย เข้าไปแล้วไม่อึดอัด มีที่เก็บของ มีชั้นหนังสือ มีส่วนทำงาน ราคาก็อยู่ในงบที่ตั้งไว้ ว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดเล็ก ๆ ห้องไม่ใหญ่มากก็แต่งออกมาให้ดูดี น่าอยู่ได้นะครับ ได้อยู่ห้องในแบบที่เราชอบ ผมว่ามันมีความสุขในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ...
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ballsilver สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม