ห้องแต่งตัว พื้นที่เล็กๆ สุดโปรดของหนุ่มสาวแฟชั่นนิสต้า เพราะสำหรับคนที่รักในการแต่งตัวแล้ว หากมีสวรรค์เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า และกระเป๋าที่วางอยู่ตรงหน้ารวมอยู่ห้องเดียวให้เลือกสรร แค่นั้นก็มีความสุขล้นหัวใจแล้ว
แต่ไม่ใช่ว่าบ้านที่มีพื้นที่จำกัดจะมีห้องแต่งตัวไม่ได้นะคะ เพราะหากคุณเคลียร์พื้นที่ให้ดีและใช้พื้นที่ให้คุ้ม ไม่ว่าบ้านจะเล็กแค่ไหนก็มีห้องแต่งตัวได้ไม่ต้องกังวล วันนี้เราจึงนำกลเม็ดเด็ดจัดห้องแต่งตัวมาฝากทุกคนค่ะ ลองจัดให้ดีก็เก็บของได้เยอะจุใจแล้วล่ะ
1. ลิสต์รายการสิ่งของ
วิธีที่จะช่วยย่นระยะเวลาในการจัดของในตู้เสื้อผ้าได้ นั่นก็คือการลิสต์รายการสิ่งของต่างๆ ที่จะต้องนำไปจัดเก็บในตู้เสื้อผ้าเสียก่อนว่ามีอะไรบ้าง จะได้แยกถูกว่าจะจัดอันไหนเข้าไปก่อน หรือหลัง คราวนี้ล่ะการจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาให้เปลืองแต่อย่างใดแล้ว
2. ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยปกติแล้ว ตู้เสื้อผ้าจะมีมุม มีความลึก และความสูงที่ว่างพอสำหรับในการเสื้อผ้า และแอคเซสเซอรี่ต่างๆ ที่ใช้แต่งตัวได้มากมาย ซึ่งถ้าหากมือของคุณไม่ยาวพอที่จะจัดของใส่ตามซอกหลืบว่างๆ ก็ลองใช้ไม้ยาวๆ เกี่ยวกับไม้แขวนเสื้อเอาไว้แล้วค่อยนำไปจัดทีละตัว ส่วนในลิ้นชัก ให้ดึงออกมาทั้งอัน แล้วค่อยหยิบกลับไปใส่ที่เดิมเมื่อจัดของวางในลิ้นชักเสร็จแล้ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณใช้ตู้เสื้อผ้าได้คุ้มค่าสุดๆ
3. ใช้ตะขอเหล็กแขวนเพื่อจัดเก็บของ
รู้ไหมคะว่า เจ้าตะขอเหล็กตัวเล็กๆ นี้ สามารถช่วยคุณจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าได้ง่าย และรวดเร็วมาก แค่ลองแขวนตะขอเหล็กตรงราวในตู้เสื้อผ้า หรือจะซื้อราวเหล็กมาติดเพิ่มก็ได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถแขวนกระเป๋าสะพาย หมวก หรือเข็มขัดได้ในตู้เดียว ทีนี้เวลาที่ต้องแต่งตัวก่อนออกจากบ้านก็เสร็จสมบูรณ์ในคราวเดียวไม่เสียเวลา
4. ติดกระจกหลายบาน
แน่นนอนอยู่แล้วว่าของชิ้นสำคัญในห้องแต่งตัวที่ขาดไม่ได้เลยคือกระจก และอย่าคิดว่ากระจกบานเดียวจะเพียงพอสำหรับคุณ เพราะยิ่งติดกระจกหลายบาน คุณยิ่งเห็นตัวเองในทุกมุมก่อนออกจากบ้าน รับรองว่าแต่งตัวไม่มีพลาดแน่นอน นอกจากนี้กระจกยังมีส่วนช่วยให้ห้องแต่งตัวดูใหญ่โอ่อ่าขึ้นอีกด้วยจ้า
5. ตกแต่งด้วยของที่ชอบ
ลองเนรมิตให้ห้องแต่งตัว กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวสุดโปรด ด้วยการนำของที่ชอบมาตกแต่ง เช่น รูปภาพสวยๆ ที่ชอบ และอาจจะเสริมเก้าอี้นวมสักตัวไว้นั่งชิลๆ และหยิบนิตยสารมาวางไว้สักเล่มสองเล่มก็ได้
6. ตกแต่งผนังให้สวยงาม
เพื่ออัพความสวยของห้องแต่งตัวให้มากขึ้น ลองเลือกวอลเปเปอร์ลายสวยที่สะท้อนความมีสไตล์ของคุณมาติดไว้ หรือถ้าชอบความเรียบง่ายก็ลองหาสีทาผนังสวยสบายตามาทา เช่น สีเทาอ่อน หรือสีฟ้าอ่อนก็ได้ นอกจากนี้แสงสว่างก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับห้องแต่งตัวไม่น้อย ฉะนั้นควรทำหน้าต่างเพิ่ม จะได้เห็นสีเสื้อผ้า และเครื่องประดับชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน
7. เสริมราวเหล็กแขวนเสื้อผ้า
หากพื้นที่ในตู้เสื้อผ้ามีไม่พอที่จะรองรับเสื้อผ้าจำนวนมหาศาลของคุณ ก็ไม่ต้องฝืนยัดเข้าไปให้เมื่อย ลองหาราวเหล็กมาติดเสริมตรงที่ว่างของตู้เสื้อผ้า จะช่วยยังช่วยประหยัดไม่ต้องซื้อตู้เสื้อผ้าใหม่ให้เปลืองเงิน และเปลืองเนื้อที่อีกด้วย
8. เลือกสีไฟให้ดี
ในห้องแต่งตัวควรจะติดไฟไว้หลายๆ จุด เพื่อให้สว่างเท่าๆ กันทั่วห้อง เพราะถ้าหากบางมุมของห้องแต่งตัวมืดแล้ว เวลาคุณแต่งตัวอาจทำให้แต่งออกมาพลาดได้ง่ายๆ ฉะนั้นควรหาโคมไฟแบบแขวน หรือติดเพดาน จะช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ในห้องแต่งตัวได้ และควรจะเป็นไฟสีขาวที่เผยให้เห็นสีจริงไม่หลอกตาด้วยนะคะ
9. เสริมไอเทมสีสันสดใสให้ห้องเด่น
ถ้าห้องแต่งตัวของคุณไม่มีสีสันฉูดฉาดที่โดดเด่นสะดุดตาเลย ก็อาจจะทำให้ห้องแต่งตัวนั้นดูน่าเบื่อ และไม่มีสไตล์ หากคุณเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริง ก็อย่าเพียงแค่แต่งตัวให้ตัวเองสวยอย่างเดียวเลยดีกว่า แต่ลองแต่งตัวให้ห้องแต่งตัวสวยด้วยการเสริมไอเทมสีสันสดใส เช่น วางแจกันดอกไม้สีสดใสไว้มุมใดมุมหนึ่ง หรือจะวางเก้าอี้นวมสีฉูดฉาดเพื่อให้ห้องเด่นขึ้นก็ได้
10. วางตู้กระจกเก็บของ
สำหรับผู้ที่ชอบกระเป๋า หรือรองเท้าแบรนด์เนม ก็ควรเก็บไว้ในตู้ที่ไม่มีความชื้นย่างกรายมาทำให้ข้าวของเสียหาย โดยเฉพาะตู้กระจก ที่ดูเหมาะมากกับการใช้เป็นตู้เก็บของในห้องแต่งตัว เพราะนอกจากจะสามารถโชว์ของสวย ๆ ที่เก็บไว้ในตู้ให้ได้ชื่นชมแล้ว คุณยังใช้ประโยชน์จากตู้กระจกในการส่องเช็กความสวยได้ทุกมุมทุกองศาอีกด้วย แบบนี้ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อกระจกหลายบานแล้วเนอะ
ว้าว … เรียกได้ว่างานนี้ถูกใจแฟชั่นนิสต้าตัวจริงกันไปเต็มๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าหลายตัว และเครื่องประดับหลายชิ้น ก็สามารถนำทุกสิ่งมารวมไว้ในห้องเดียวได้ไม่ยาก แค่เพียงจัดการให้ดีตั้งแต่แรกเริ่ม ห้องแต่งตัวสวย ๆ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของบ้านคุณได้ค่ะ