แต่งคอนโดให้สวยเหมือนห้องตัวอย่าง แต่ใช้งบน้อยซื้อของในราคาประหยัด ดูดีมีระดับไม่แพงอย่างที่คิด

อยากมีคอนโดสวยแพงแบบห้องตัวอย่าง ไม่จำเป็นต้องเสียเงินหลักแสนก็ทำได้ ด้วยเทคนิคแต่งคอนโดของกะเทยอยากไฮโซคนนี้ ที่มาพร้อมเทคนิคตัดงบแต่ทำให้ห้องสวยหรูได้อย่างใจ

แต่งคอนโดให้สวย ดูดี มีระดับ ลุคแพง เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ทำได้แม้จะมีงบน้อยนิดเพราะต้องเจียดเงินไปจ่ายเรื่องอื่นด้วยก็ตาม ในวันนี้ คุณ whatdahell สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กะเทยอยากไฮโซแต่ Low Income คนนี้ได้นำเทคนิคแต่งคอนโดงบน้อยให้ดูสวยแพงมาบอกกัน รับรองว่าต้องโดนใจเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่อยู่คอนโดแน่นอนเลย

        ขอเฉลยก่อนว่าทั้งหมดนี้จ่ายไปประมาณ 6 หมื่นบาท (ไม่รวมครัวและเครื่องไฟฟ้านะคะ) มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

          1. sofa สีดำ ขนเป็ด ได้มาจากราคาเต็ม 36,000 บาท เหลือ 8,000 บาทจ้า
          2. โต๊ะกินข้าวไม้ ปรับขึ้น-ลงได้ ได้มาจากราคาเต็ม 8,000 บาท เหลือ 4,000 บาทจ้า
          3. เก้าอี้กินข้าว 2 ตัว ของ replica designer brand ตัวละ 3,000 บาท รวม ๆ ก็ 6,000 บาทค่ะ
          4. โคมไฟ ikea ซื้อตรง as is คุ้น ๆ ว่าลดเหลือ 1,000 บาทมั้ง
          5. โต๊ะกลางสีทอง อันนี้ยอมจ่ายแพง 1 สิ่ง เพื่อให้ห้องมันดูแพงขึ้นและถูกฮวงจุ้ยค่ะ 2 ตัวที่ซ้อนกันนั้น 10,000 บาทค่ะ
          6. ตู้เก็บของแนวตั้งข้างทีวี ลดจาก 8,000 บาท เหลือ 4,500 บาทค่ะ
          7. ตู้เก็บของใต้ทีวีแนวนอน 5,000 บาท
          8. โต๊ะทำงาน ikea 990 บาท
          9. โคมไฟโต๊ะทำงาน ikea 990 บาท (อันนี้แอบพลาด จริง ๆ ราคานี้หาได้เริดกว่านี้นะ)
          10. เตียงนอน 9,900 บาท
          11. ฟูกที่นอน pocket spring top ยางพารา ลดจาก 2x,xxx บาท เหลือ 10,000 บาท
          12. ชั้นวางของเหนือ sofa 590 บาทมั้ง (แอบลืมราคาอะ)

          ทีนี้เรามาดูทีละขั้นตอนกันว่าต้องทำไงบ้าง

1. หา Inspiration (หรือที่เรียกว่าต้นแบบสำหรับ copy จ้า)

           ถ้าเราไม่มั่น ไม่เซลฟ์ ว่าจะสามารถแต่งห้องได้เลิศเลอ เพอร์เฟคท์เหมือนพวกดีไซเนอร์ดัง ๆ ดิฉันก็อยากแนะนำให้ลองติดตามผลงานของพวกนางกันค่ะ ส่วนตัวดิฉันก็ไม่ได้รู้จักดีไซเนอร์สักเท่าไรหรอกค่ะ แต่ว่าจะชอบติดตามดูพวกห้องตัวอย่างของคอนโดต่าง ๆ มากกว่า ซึ่งก็สามารถหาดูได้ง่ายมาก เพราะว่ามีเว็บไซต์ที่ทำรีวิวคอนโดมากมาย รูปสวย ๆ ทั้งนั้น ชอบแนวไหนก็เก็บมาเลยรัว ๆ ของดิฉันก็ใช้ google drive เก็บรูปเอาค่ะจะได้ไม่หาย

2. ตามหาร้านขายเฟอร์นิเจอร์

           อยากจะบอกว่าของดีและถูกไม่ได้มีแต่ที่ ikea นะคะ ส่วนตัวกะเทยเป็นคนเรื่องเยอะและชอบทำตัวประดุจว่ามีเงินเยอะมากก (แท้จริงแล้วก็รูดบัตรรัว ๆ) กะเทยเลยไม่อยากให้ใครมาห้องแล้วแบบ อ้อ...อันนี้ SB ชิมิ อ้อ...อันนี้ ikea ชิมิ อ้อ...อันนี้ index ชิมิ มันจะไม่เก๋มาก ๆ ค่ะ กะเทยเลยออกตระเวนหาร้านขายเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจเราในราคาที่เหมาะสม (กับสภาพกระเป๋าเงินของเราคะ)

2.1 ไปเที่ยวงานบ้านและสวน งาน big+bih และงานต่าง ๆ ที่มีพวกร้านเฟอร์นิเจอร์มาออกบูธค่ะ

           กะเทยไปมันทุกงานเลยค่ะ เวลาเจอร้านไหนสวยเก๋ถูกใจก็ถามราคาได้เลย ไม่เหมือนพวกนิตยสารที่บอกแต่ว่า "ราคาติดต่อสอบถามได้ที่ร้าน..." (อารมณ์เสีย -_-'') ถ้าร้านไหนถูกใจเจ้แล้วละก็ ไม่ต้องขอนามบัตรนะคะ เพราะพวกเธอจะทำหายใน 3 วัน 7 วันแน่นอน แถมยังจะพลาดของดีที่ดิฉันจะบอกในหัวข้อถัดไปด้วย กะเทยของแนะนำให้เอาชื่อร้านของพวกนางมาเสิร์ชในเฟซบุ๊กค่ะ แล้วก็กดไลค์เพจของพวกนางซะ ถ้าให้ดีก็ตั้งเป็น see first ไปเลย (ไว้แต่งห้องเสร็จ ค่อยปรับเป็นแบบปกติ อิอิ)

2.2 อีกแหล่งที่กะเทยชอบ แต่จะเป็นพวกของตกแต่งซะส่วนมากคือที่เจเจค่ะ

           อันนี้แนะนำให้เดินให้ทั่วนะคะ มีร้านเริด ๆ เยอะอยู่ พวกห้องตัวอย่างคอนโดดัง ๆ ก็ชอบมาซื้อของจากร้านพวกนี้แหละค่ะไปแต่ง เวลากะเทยไปเดินกับเพื่อนสาวเนี่ยชี้กันสนุกเลยค่าแกก อันนี้คอนโดอะไรแกก อันนี้คอนโดนั้น อันนี้คอนโดนี้ copy กันได้ตามสบาย สำหรับร้านพวกนี้แนะนำให้ถ่ายรูปนามบัตรร้านแล้วแยกเก็บไว้ในโฟลเดอร์แต่งบ้านโดยเฉพาะนะคะจะได้ไม่หายค่ะ

2.3 ตามนิตยสาร

           ก็จะมีแนะนำร้านเฟอร์นิเจอร์เยอะเหมือนกันค่ะ แต่จากประสบการณ์มักเป็นร้านที่ราคาโคตะระภาระตะอภิมหาอลังการแพงมากก โดยเฉพาะพวก "ราคาติดต่อสอบถามได้ที่ร้าน" นี้แหละ แบบเตียง 3 แสน โซฟา 1 ล้าน อะไรแบบนี้ ถูกใจร้านไหน ก็เสิร์ชแล้วแอดในเฟซบุ๊กเหมือนเดิมค่ะ ข้อดีคือเราสามารถส่งข้อความไปถามราคาก่อนได้ด้วย ถ้าตอบมาแบบเว่อร์วังอลังการก็ unlike ไปซะ รก 555

3. เลือกสี

           กะเทยบอกเลยว่าไม่มีความรู้เรื่องการแต่งห้องเลย แต่กะเทยอาศัยดู ๆ จำ ๆ ของชาวบ้านเขานี่แหละค่ะ อันนี้ขอบอกก่อนนะคะว่าแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน อย่างกะเทยเป็นคนไม่ชอบสีเยอะ ๆ กะเทยก็ดูจากรูปห้องตัวอย่างที่เราชอบ แล้วก็ดูว่าให้ใช้สีอะไรบ้างหลัก ๆ อย่างของกะเทยตอนแรกกะว่าจะเอาสีดำ-เงิน แต่ตอนนี้เริ่มอยากเปลี่ยนเป็นสีดำ-ทอง แล้วสิ มันเลยมีแอบผสมทั้งเงินและทอง งงกันไปนิดนึง อยากให้จำสีที่เราเลือกไว้ให้มั่น ๆ นะคะ เพราะเวลาที่เราไปซื้อของห้ามหลุดสีเด็ดขาด ไม่งั้นมันจะดูรกและเละไปในทันทีค่ะ

4. Sale

           อันนี้มั่นใจว่าคุณผู้หญิงน่าจะชอบมาก ๆ ขอบอกเลยว่าเทศกาล Sale ของเฟอร์นิเจอร์ก็เหมือนเสื้อผ้านั่นแหละค่ะ มีทั้ง Mid year และ Year end ฉะนั้นหากคุณผู้หญิงทั้งหลายไปเดินห้างแล้วเห็น ZARA sale เมื่อไร ก็แปลว่าถึงเวลาช้อปเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านแล้วค่ะ ให้เข้ามาตามดูฟีดหน้าเฟซบุ๊กหรือจะไล่เข้าไปดูตามเพจต่าง ๆ เองก็ยิ่งดี ร้านเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เวลามี sale พวกนางก็จะมาแจ้งให้ทราบกันหน้าเพจนี่แหละ อย่างดิชั้นเองก็ได้ของถูกจากทางนี้แหละค่า อย่างโซฟาเนี่ยนางโพสต์ว่ามีแค่ 3 ตัวนะ Clearance ดิฉันก็รีบพุ่งไปเลยค่ะตอนพักกลางวัน ไปลองรูดแล้วกลับมาทำงาน พอตกเย็นเห็นคนเข้าไปถามรายละเอียดในเพจ แอดมินตอบกลับมาว่า หมดแล้วค่ะ >.< แอบช็อก แบบว่าโชคดีมาก

           อีกที่นึงก็ Ikea as is ค่ะของดีมีเยอะ บางทีเป็นรอยด้านในไม่มีใครเห็น แต่ลดราคาเยอะมากก็จัดมาเลยค่ะ แต่อย่าลืมดูสีกับขนาดด้วยนะคะว่าเข้ากับห้องได้ไหม ฉะนั้น ควรมีขนาดห้องที่แน่นอนติดไว้ในมือถือตลอดเวลาค่ะ

5. Adapt ค่ะ

           อันนี้เป็นความพยายามส่วนบุคคลของคนที่มีเงินน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด ฉะนั้นจะหาเฟอร์นิเจอร์ที่พอดีเป๊ะ ๆ ปัง ๆ กับห้องเลยคงจะเป็นเรื่องยาก บางทีก็ต้องมองหาอะไรที่มันอาจจะประยุกต์ใช้ได้ค่ะ ตัวอย่างคือชั้นวางทีวีกับตู้เก็บของด้านข้างทีวี แท้จริงแล้วเป็นตู้สำหรับเก็บของในห้องน้ำและตู้ครัวค่ะ แต่เรื่องสี ขนาด และราคาช่างพอเหมาะพอเจาะกับบริเวณที่ต้องติดตั้ง ก่อนหน้านี้กะเทยก็ไปเดินหาตู้สำหรับเก็บของใต้ทีวีมาแล้วทั่วสารทิศ ขอบอกเลยว่าเพียงเพราะเป็นตู้ใต้ทีวี ราคาจะพุ่งขึ้นสูงเป็นเท่าตัว กะเทยเลยต้อง adapt มาเป็นตู้ทีวีที่แสนจะถูกและคุ้มค่าไปโดยปริยาย

6. ของตกแต่ง

           เรื่องสุดท้ายแล้วคือของแต่งห้องค่ะ ซึ่งคงหนีไม่พ้นพวกดอกไม้กับต้นไม้ที่จะช่วยให้ห้องดูมีชีวิตชีวา อันนี้กะเทยขอบอกว่าแนะนำให้ทำการบ้านกันหน่อย โดยอาจจะดูจากในรูปห้องบ้านตัวอย่าง ห้องตัวอย่าง เขาวางดอกไม้อะไรยังไง แจกันแบบไหน ทรงไหน สีอะไร

ดอกไม้ที่กะเทยแนะนำคือ

           1. ดอกไม้ปลอม : แนะนำให้ซื้อของแพงหน่อยจะเหมือนมาก ดูไกล ๆ แล้วสวย ถ้าซื้อของถูกบางทีแบบ 100 เมตรก็รู้แล้วว่าปลอม ที่สำคัญอยู่ด้วยกันจนตายไปข้างนึง

           2. ดอกแคสเปีย : อันนี้อาจจะเหมาะสำหรับห้องแนวลอฟท์ วินเทจ หรือคอทเทจนะคะ แต่อาจจะไม่เหมาะกับพวกหรูหราไฮโซค่ะ ดอกแคสเปียนี้เราสามารถทิ้งไว้จนมันเหี่ยวแห้งตายคาแจกัน มันก็ยังอยู่สภาพนั้นแหละค่ะ แต่อย่าไปแตะมันเยอะแล้วมันก็จะอยู่กับเราตลอดไป อีกดอกก็ดอกม่วง ๆ (ไม่รู้ชื่ออะ) ที่ชอบขายตามตลาด อันนั้นจะเหี่ยวเล็กน้อย ฉะนั้นควรอัดแน่น ๆ เพราะเวลามันเหี่ยวแห้งก็จะยังดูสวยอยู่ ส่วนสีม่วงนั้นจะสดอยู่แบบนั้นตลอดไปค่ะ