เรามาหยุดส่วนของบ้านแล้วมาพูดถึงสวนกันบ้างนะคะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็รอให้พูดถึงสวนอยู่เหมือนกัน เพราะเมื่อมีบ้านก็ต้องมีสวนเหมือนทรายกับทะเลที่ขาดจากกันไม่ได้ ฮิ้วว...
เริ่มจากทุบพื้นซีเมนต์ออกทั้งหมด เพราะส่วนหนึ่งจะขุดเดินท่อระบายน้ำออกหน้าบ้าน อีกส่วนเพื่อการปรับระดับดินสำหรับปูศิลาแลง ที่เหลือรอบ ๆ ทิ้งไว้เป็นที่โล่งสำหรับปลูกต้นไม้ ส่วนที่ยากที่สุดก็คือสวนนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวบ้านติดกับถนนใหญ่ที่รับแดดเต็ม ๆ ในตอนบ่าย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริเวณที่เล่นเอาเหนื่อย เพราะต้องสร้างร่มเงาให้มากเพื่อการปลูกเฟิร์น รวมถึงตัดต้นปาล์มกลางลานออก หลายคนคงคิดว่าเสียดายทำไมต้องตัดต้นไม้ทิ้ง เพราะใบแห้งคาต้นเยอะมาก ถ้าอีกหน่อยตกลงมาใส่ลูกค้าที่นั่งอยู่ในสวนคงไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อน ตอนแรกคิดกับคุณแม่ว่าจะยกให้คนที่อยากได้ แต่ติดเรื่องการล้อมและการขนส่งเลยตัดสินใจเอาลง


จากนั้นก็ถึงช่วงเวลาของการลงต้นไม้ใหญ่ คุณแม่เลือกต้นไม้ที่คิดว่ามีใบหนา ทนแดด และใบไม่ร่วง เพราะตัวต้นไม้ใหญ่นี้เองจะเป็นร่มเงาให้กับเฟิร์นที่อยู่ด้านล่างไม่ให้โดนแสงแดดที่จัดมากเกินไป ได้แก่ ต้นจิกน้ำ ต้นแคนา ต้นวาสนา ต้นเกาลัด เป็นต้น โดยเอาต้นไม้ใหญ่ลงก่อนเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายเพราะลงต้นไม้หน้าฝนพอดี ตกแรกก็ลุ้น ๆ เห็นหลายต้นทำท่าจะตาย แต่สุดท้ายก็รอดค่ะ ^^ ภาพนี้คนสวนกำลังช่วยกันเอาต้นวาสนา (ยักษ์) ขึ้นปลูกบริเวณริมรั้วที่ติดกับตึกในที่ดินฝั่งตรงข้าม สาเหตุที่หนิงและคุณแม่เลือกใช้ต้นวาสนาเพราะมีความสูงที่พอเหมาะ มีใบเขียว หนาทึบ ปลูกง่าย เหมาะสำหรับบการทำเป็นต้นไม้แบ็คกราวนด์ได้ดี

จากนั้นก็เริ่มทำน้ำตกโดยได้อาจารย์เฉลิมเกียรติเป็นผู้วางหินและไม้ตกแต่งให้ คอนเซ็ปต์ของการวางแนวน้ำตกคืออยากให้ทุกคนมองเห็นแบบพาโนรามา ที่นั่งในสวนทุกที่นั่งจะต้องสามารถมองเห็นน้ำตกได้ โดยลักษณะเป็นนน้ำตกแบบ 3 ขั้นบันไดใช้หินกาบทองในการตกแต่ง แทรกบางส่วนด้วยกิ่งไม้เก่าและต้นเฟิร์นเพื่อสร้างความสมจริงค่ะ

ความคิดแรกก่อนที่จะรีโนเวทบ้านได้บอกกับคุณแม่ว่า อยากได้ร้านที่เวลาลูกค้าเดินเข้ามาจะต้องข้ามสะพานเล็ก ๆ ที่มีปลาแหวกว่ายก่อน มันคงจะน่ารักน่าดูใช่ไหมละคะ เพื่อสานฝันให้เป็นจริงจึงได้ปรึกษากับอาจารย์เฉลิมเกียรติ โดยอาจารย์เป็นผู้ร่างแบบบ่อปลาให้ ซึ่งอาจารย์ได้ใช้ไม้เท้ากายสิทธิ์คู่ใจร่างบ่อปลารูปร่าง Free Form บางคนบอกคล้ายถุงเงินถุงทอง บางคนบอกคล้ายดัมเบล โดยวาดลงบนดินตรงนั้นเลยค่ะ ผลคือฝนตกสิคะคุณผู้อ่านทุกท่าน เรียกได้ว่าถึงเวลาขุดดินก็งมกันเอาอีกทีหน้างานเลย ฮ่า ๆ ๆ

อันนี้เป็นภาพโครงสร้างของบ่อปลาก่อนการฉาบปูนค่ะ มีการทำบ่อกรองบริเวณข้าง ๆ บ่อปลา โดยความลึกของบ่ออยู่ที่ 65 เซนติเมตร

จากภาพเป็นขั้นตอนของการปูศิลาแลงใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วันถ้วน เรียกว่างานเร่งทำโอทียันดึกยันดื่น ตอนแรกว่าจะทำทางเดินเป็นแนว แต่คิดไปคิดมาปูศิลาแลงทั้งหมดเลยดีกว่า เพราะถ้ามีการจัดงานเลี้ยงหรือปรับเปลี่ยนการใช้งานพื้นที่การวางโต๊ะจะได้ทำได้ง่าย

เริ่มลงต้นไม้ระดับกลาง ไม้คลุมดิน และเน้นเฟิร์นเป็นหลักค่ะ

ส่วนเจ๊กระเป๋าส้มนี้แม่หนิงเองคุมงานเองทุกขั้นตอน เรื่องสวนต้องยกให้นาง นางรักต้นไม้ยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ในโลกนี้ พอพูดถึงตรงนี้อยากเล่าถึงเบื้องหลังความงามของสวนสวยของที่ร้านค่ะ ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่คะว่าที่ร้านไม่มีคนสวนประจำร้านเลย ถ้าจะมีก็มีแต่คุณแม่นี่เเหละค่ะที่ตื่นมารดน้ำเช้า-เย็นทุกวันไม่มีขาด นางบอกว่าการรดน้ำเป็นการทำสมาธิและแม่มีความสุขถ้าได้เห็นต้นไม้สวยขึ้นในทุก ๆ วัน

ภาพนี้เป็นทีมงานคุณภาพ คุมงานโดยอาจารย์เฉลิมเกียรติ นักออกแบบสวนแห่งนี้ค่ะ

สำหรับบริเวณรั้วด้านข้างฝั่งที่ตรงกันข้ามกับน้ำตกจะปลูกเป็นดาหลาค่ะ กะว่าถ้าโตก็จะโค้งลงมาเป็นแนวซุ้มดาหลาสวย ๆ ให้ร่มเงา ในภาพนี้ต้นยังเตี้ยอยู่เลยค่ะ ความสูงเลยขอบรั้วมานิดเดียวเอง

ส่วนรั้วด้านหน้าปลูกไทรเกาหลียาวตลอดแนวค่ะ โดยใช้รั้วเหล็กเดิมเพียงทาสีใหม่ทับ

ต้นมะม่วง พระเอกของร้านเลยค่ะ ตกแต่งโดยเอาเฟิร์นไปห้อยติดไว้ทั้งกระเช้าสีดาและสไบนางดูเขียวชอุ่มเชียว แต่เมื่อมีพระเอกก็จะขาดนางเอกไปไม่ได้ นั่นก็คือ "สวนเฟิร์นแนวตั้ง" บริเวณด้านข้างตัวบ้าน ส่วนนี้ต้องให้เครดิตน้องชาย เพราะเป็นคนไปหาข้อมูลวิธีการปลูกมาให้ โดยน้องแนะนำว่าใช้ท่อเหล็กเก่ากับเหล็กกล่องยึดกับแนวเสารั้วเดิม ทำเป็นโครงสร้างสำหรับห้อยต้นเฟิร์น ส่วนสวนแนวตั้งนี้ลงมือปลูกเองทั้งหมดเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันค่ะ

โดยแนวคิดในการเรียงต้นไม้คือ การสุ่มหรือภาษาบ้าน ๆ คือมั่วค่ะ แม่บอกว่าให้เรียงสลับ ๆ กันดูตามความเหมาะสม หนิงก็จัดตามสิคะและผลที่ได้คือ

ภาพนี้คือสวนแนวตั้งที่เสร็จแล้ว ภูมิใจนำเสนอสุด ๆ อิอิ

บริเวณขอบด้านล่างปูหินกรวดสีดำเพื่อความสวยงาม โดยทับบนตะแกรงไว้เพราะด้านล่างเป็นท่อระบายน้ำ เนื่องจากเวลารดน้ำสวนเเนวตั้งจะมีน้ำไหลลงมาจำนวนมากจึงต้องทำท่อระบายน้ำไว้ด้านล่างค่ะ

สำหรับบริเวณทางเดินด้านข้างที่ติดกับตัวบ้าน หนิงเลือกใช้หินแม่น้ำเรียงลายสลับสีไปมาช่วยกันอยู่กับช่าง 2-3 คน สวยงามไปอีกแบบ เห็นพื้นที่ไม่เยอะแบบนี้ก็กินเวลาไป 5 วันเลยนะคะ

ส่วนในสวนวางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้เป็นกลุ่ม ๆ ตามแนวร่มไม้ค่ะ ณ จุดจุดนี้ร่มสำคัญมากนะคะ เพราะตอนบ่ายแดดร้อนเอาเรื่อง หมอนกะเหรี่ยงที่คุณแม่ตัดเย็บเองทุกใบ พอมาวางในสวนทำให้สวนดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากเลยค่ะ

และอีกส่วนที่ภูมิใจนำเสนอคือบ่อปลาคาร์พของน้องชายสุดหล่อค่ะ อยู่บริเวณหน้าบ้านพอดี คือถ้าใครจะเดินผ่านเข้าบ้านก็ต้องข้ามผ่านสะพานเล็ก ๆ นี้ไปก่อน ตรงนี้เป็นจุดที่ดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ได้มากเลยนะคะ จำได้ว่าเคยมีเด็กกระโดดลงสระไปว่ายน้ำเล่นกับปลา โชคดีที่ระดับน้ำไม่สูงมาก เล่นเอาปวดหัวกันเลยทีเดียว และความสามารถพิเศษของน้องชายคือ การดึงดูดปลาทุกตัวในสระให้มาหาอย่างรวดเร็ว

ภาพนี้น้องชายกำลังลงต้นไม้บริเวณรอบ ๆ บ่อปลา โดยมีคุณแม่เล่นไอแพดเป็นกำลังใจ 555+

เเละมาถึงภาพสุดท้ายค่ะ
เป็นอันสิ้นสุดการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์นะคะ หนิงอ่านแล้วทุกอันเลยรู้สึกมีกำลังใจและดีใจมาก ๆ ที่ทุกคนชื่นชอบผลงานการออกแบบชิ้นแรกนี้นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังคิดที่จะรีโนเวทบ้านค่ะ ^^