
การแต่งบ้านของคนยุคใหม่ ไม่ได้มีแค่เรื่องของสี และเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม หากแต่ต้องมาพร้อมดีไซน์ คอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างลงตัว เทรนด์การแต่งบ้าน 2024 มีดีไซน์ และคอนเซ็ปต์การแต่งบ้าน จากเรื่องสีหรือสไตล์เฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเทรนด์ทุกปีแล้ว พฤติกรรมและวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนก็มีส่วนส่งผลให้ฟังก์ชันการใช้งานและการตกแต่งภายในบ้านเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
เทรนด์การออกแบบตกแต่งภายในจะสอดรับและขับเคลื่อนไปในเรื่องกระบวนการของโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตที่มีพลวัตอย่างกระตือรือร้นในสังคม ให้คุณได้ใส่ใจความเป็นไปของโลก ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยไม่ทิ้งความเป็นตัวเองมีเทรนด์ ถึงเวลาสำรวจเทรนด์การแต่งบ้านของคุณแล้วว่าชอบสไตล์แบบไหน ลองหยิบไปปรับใช้กันได้เลย
✎เทรนด์แต่งบ้าน ที่น่าจับตามองของ ปี 2024
_______________________________________________________________________
1 เทรนด์แต่งบ้าน ช่วยดูแลสุขภาพครบวงจร ✔
กระแสการดูแลสุขภาพในเชิง Wellness ที่มาแรงและแพร่หลาย จนกลายเป็นเทรนด์การแต่งบ้าน 2024 แห่งยุคก็ว่าได้ เพราะนอกจากศัตรูสุขภาพอย่างเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นควัน หรือฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ร่วมกับเราทุก ๆ วัน จึงทำให้เทรนด์การเเต่งบ้าน 2024 ที่เน้นบ้านสุขภาพดีเป็นที่สนใจเป็นอันดับต้น ๆ เช่นการเลือกใช้กระเบื้องที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เพื่อลดการกระจายตัวของเชื้อภายในบ้าน หรือเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ป้องกันไรฝุ่น และเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นได้ รวมไปถึงการเลือกใช้อุกรณ์ต่างๆ เพื่อกรองอากาศ ฟอกอากาศภายในบ้าน เช่น เครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนที่ เครื่องกำจัดเชื่อโรคในอากาศ แอร์ที่มีระบบฟอกอกาศในตัว เป็นต้น
2 เทรนด์แต่งบ้าน สามารถทำงาน อยู่ที่บ้านไปพร้อมกัน ✔
หนึ่งในเทรนด์การแต่งบ้าน 2024 ที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ต้องยกให้การปรับพื้นที่ภายในบ้านให้เอื้อต่อไลฟ์สไตล์การทำงาน จากการทำงานแบบ Work of Home สู่การทำงานแบบ Work from Anywhere ที่หลายคนยังเลือก “บ้าน” ให้เป็นโลเคชั่นนั่งทำงานที่สะดวกสบาย และไร้การรบกวนมากที่สุด โดยเน้นการจัดรูปแบบบ้านให้มีพื้นที่กว้างขวางและมีแสงสว่างมากพอ พร้อมหามุมพักสายตาด้วยการประดับต้นไม้เล็ก ๆ หรือเพิ่มมุมนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือด้วยก็ได้
3 เทรนด์แต่งบ้าน เข้าถึงความเป็นธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ✔
ปัจจุบันมนุษย์ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น การตกแต่งบ้านในปี 2024 จึงเป็นไปในแนวคิดที่ได้รับการออกแบบให้สอดประสานวิถีชีวิตของคนให้เป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติ โดยมองธรรมชาติเป็นศูนย์กลางของสถาปัตยกรรม การเน้นไปที่แนวธรรมชาติ เปิดโล่งทำให้คลายร้อนด้วยต้นไม้ในสไตล์ธรรมชาติ ผสมวัสดุที่เรียบง่ายให้อารมณ์ผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับบรรยากาศภายในบ้านมีพื้นที่สวนเขียวๆ ล้อมรอบให้ดูสบายตาแบบใกล้ชิดธรรมชาติ การให้ความสำคัญในการใช้ธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการตกแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น เช่น มีมุมสำหรับจัดวางกระถางต้นไม้ประดับ การเลือกใช้พรมที่ทำจากปอกระเจา ซึ่งเป็นวัสดุจากธรรมชาติ การใช้ผ้าฝ้ายธรรมชาติมาเป็นผ้าม่านหรือปลอกหมอน ตลอดจนถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้และหินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4 เทรนด์แต่งบ้าน ปรับใช้เป็นมัลติฟังก์ชัน ใช้แบบครอบคลุม ✔
ในช่วงที่ผ่านมาทำให้เราได้เห็นว่า “บ้าน” สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยส่วนต่าง ๆ ได้มากกว่าแค่การเป็นที่อยู่อาศัย จนเป็นที่มาของเทรนด์มัลติฟังก์ชัน หรือเทรนด์การเเต่งบ้าน 2024 ที่เน้นความยืดหยุ่นเรื่องการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย พร้อมรองรับกิจกรรมมากมายภายในบ้าน เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่ทำงาน หรือแม้แต่การสร้างมุมถ่ายภาพสตูดิโอขนาดเล็กสำหรับคนที่ทำงานจากที่บ้านได้
5 เทรนด์แต่งบ้าน นำพลังงานธรรมชาติกลับมาใช้มากขึ้น ✔
จากแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งมีผลต่อเทรนด์การแต่งบ้าน 2024 ที่เน้นการแต่งบ้านแบบรักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และหันมาใช้พลังงานทดแทนอย่างโซลาร์เซลล์ รวมถึงการเปิดรับแสงสว่างตามธรรมชาติในช่วงเวลากลางวัน ด้วยการเปิดม่าน ติดหลังคาโปร่งแสง เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการอยู่ร่วมกับสังคมเพื่อความยั่งยืน การที่แต่งบ้านด้วยการเนรมิตรที่พักอาศัยให้อยู่ในรูปแบบการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และประหยัดพลังงานไฟฟ้าจึงเป็นเทรนด์การแต่งบ้านอีกหนึ่งตัวเลือกที่ประหยัดแล้วเข้าถึงได้ง่ายกว่าโซลาร์เซลล์
การเลือกใช้โซลาร์เซลล์ สามารถช่วยให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง และยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบสุดๆ ซึ่งนวัตกรรมโซลาร์นั้นเล็งเห็นความสำคัญ เพื่อช่วยมนุษย์เราประหยัดพลังงานในการใช้ชีวิตนั้นเอง
6 เทรนด์แต่งบ้าน สไตล์วัยรุ่นสายเรียบหรู ให้ดูแพงเวอร์ ✔
เป็นสไตล์ที่เน้นแสดงความหรูหรา โชว์เอกลักษณ์ของวัสดุที่สวยงาม โดยนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากผ้ากำมะหยี่ ผ้าไหม หนัง โลหะ และเน้นการแต่งด้วยสีทอง สีเทา เพื่อให้เล่นกับแสงแล้วเกิดความระยิบระยับ ถ้าเป็นบ้านหรือห้องที่มีขนาดใหญ่ จะยิ่งเหมาะกับการแต่งสไตล์นี้เป็นอย่างมาก การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์โมเดิร์น ที่ช่วยเติมความอบอุ่นให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แถมการออกแบบยังทันสมัย ตัดทอนลวดลายให้เหลือแต่ลายเส้นที่ชัดเจน สร้างความดูดีแบบมีระดับ ปรับมู้ดให้บ้านเรียบหรูดูสง่างามในแบบที่ไม่มีใครเหมือน สิ่งสำคัญคือการเลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้พอดีกับห้องมากที่สุด เลือกใช้ไฟแชนเดอเลียร์ หรือเลือกใช้โซฟาหนังสีครีม จบด้วยการติดวอลล์เปเปอร์ลายหรู และเสริมด้วยพรมปูพื้นลวดลายดูหรูคลาสสิค เพียงเท่านี้ก็จะได้บ้านสุดหรูตามเทรนด์แล้ว
✎เทรนด์สีที่มาแรง น่าจับตามอง ปี 2024
_______________________________________________________________________
สีเหลืองอ่อน (Elfin Yellow)

สีเหลืองอ่อน นี้จัดอยู่ในหมวดสีมินิมอล (Minimalism) เป็นสีที่เหล่าสำนักเทรนด์คาดการณ์ไว้เสมอว่าจะมี เป็นสีที่ไม่ได้อยู่ในกระแสของสีหลัก แต่ไม่เคยห่างหายไปจากวงการออกแบบเลย ซึ่งสีเหลืองอ่อนนี้ มีสำนักเทรนด์ออกมาเผยว่ามักจะเป็นสีที่ถูกนำมาใช้เพื่อจับคู่กับสีอื่นมากกว่าสีขาวเสียอีก เพราะเป็นเฉดสีที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน ออแกนิก หรือความเป็นธรรมชาติโดยแท้ได้ดี และยังเป็นสีที่ดูแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา
นอกจากนี้ยังมีสำนักเทรนด์ฝั่งจีนบอกว่าเฉดสีนี้เป็นหนึ่งในสีที่สื่อถึงจิตวิญญาณด้านสุนทรียภาพและความผูกพัน สีเหลืองอ่อนนี้สามารถนำไปใช้ได้แทบจะทุกอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ ให้ความเรียบง่ายไม่ว่าจะอยู่ในสิ่งของหรือเสื้อผ้า
สีแดงสด (Scarlet Sage)

สีแดงสด เป็นเฉดสีที่ถูกคาดการ์ณไว้ว่าจะกลายเป็นสีหลักในฤดูร้อนปี 2024 เพราะเป็นสีที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค เป็นสีที่สื่อถึงความปราถนา ปลุกกระตุ้นอารมณ์ เป็นการเติมพลังและรู้สึกถึงความน่าหลงใหล ซึ่งแดงก่ำนี้ยังนิยมเอาไปใช้เป็นตัวกลางในการสื่อสารทั้งการออกแบบทั้งภายในและภายนอกของอาคาร เพื่อสร้างแรงดึงดูดและบ่งบอกถึงความเป็นโดดเด่น เป็นโครงสร้างเฉพาะตัวไม่ต่างไปจากงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
เพราะตัวด้วยสีเองที่เข้มและสดทำให้มันดูมีความโดดเด่นมาก ๆ ใช้ดึงความสนใจได้ง่าย ยิ่งเมื่อตอนอยู่ร่วมกับสีอื่นก็ยิ่งทำให้สีดูโดดขึ้นมายิ่งขึ้น
สีเขียวมะนาว (Lime Green)

สีเขียวมะนาว เป็นสีที่นักออกแบบมักนิยมหยิบมาใช้อยู่ตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักออกแบบวงการดิจิทัลและยังถูกจัดเป็นเทรนด์สียอดนิยมอยู่ตลอด ซึ่งสี Lime Green คือเฉดของสีเขียวที่ถูกลดทอนความสว่างลงมาจากสีเขียวนีออนเพื่อให้สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น นอกจากนี้สำนักเทรนด์ WGSN บอกว่าสีเขียวมะนาวคือสีที่เชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อมและสุนทรียภาพบนโลกดิจิทัลของ Gen Z ใช้สื่อถึงความสดชื่น สนุกสนาน สดใส และยังถูกนำไปใช้ในงานศิลปะกราฟฟิตี้ในยุค 90 ที่ในยุคนี้ได้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวามากขึ้น
สีดำเทา (Moonless Night)

เรียกว่าเป็นสีที่อยู่ในเทรนด์สีเสมอและถูกเอามาใช้ทุกยุคทุกสมัย สีดำนั้นเป็นตัวแทนของความลึกลับ สุขุม เย้ายวนและหรูหราไปในตัว และยังสื่อถึงความตรงไปตรงมา โดยสีดำเฉด Moonless Night นี้สื่อถึงความชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเดิมที่สอดรับกับยุคแห่งการเยียวยาฟื้นฟู และความต้องการให้แบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
มีผลสำรวจบอกว่าจาก 9 ใน 10 ของผู้บรโภคระบุว่าแบรนด์ต้องมีความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคม เพราะมันสามารถช่วยยกระดับของบุคคลที่มีอำนาจทางการเมือง ไปสู่แบรนด์ทางการเมืองที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น และยังบอกถึงการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของแบรนด์อีกด้วย
มีสำนักเทรนด์ได้คาดการณ์แนวโน้มของธุรกิจด้านนวัตกรรมสิ่งทอ บอกไว้ว่าในปี 2024 สิ่งทอที่ผสมผสานระหว่างสีดำและสีขาวจะถูกมองว่าสื่อถึงความยั่งยืน และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ใช้เฉดสีนี้ทำแคมเปญด้าน LGBTQ+ ด้วย
สีม่วงเข้ม (Phlox)

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สีม่วงนั้นอยู่ในเทรนด์สีอยู่เสมอ โดยสำหรับสีม่วงเฉดนี้หรือสีม่วงเข้มถูกตั้งคำนิยามไว้ว่าเป็นสีที่อยู่ในแนวคิดของด้านดิจิทัล สำนักเทรนด์ NellyRodi บอกว่าสีม่วงเข้มนั้นมีความเชื่อมโยงกับโลก Metaverse สร้างจากความเหนือจริงแบบ 100% และอาจกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของการสร้างปฎิสัมพันธ์ทางเครือข่ายกับสินค้าและงานช่างฝีมือดิจิทัลที่ปราศจากวัสดุจริง หลายคนคงอาจจะเคยเห็นสีนี้อยู่บ่อย ๆ ใน Event โชว์งานศิลปะแนวดิจิทัล หรือที่เรียกกันว่าศิลปะแนวใหม่
สีเขียวอมฟ้า (Deep Lake)

สีเขียมอมฟ้าเป็นเฉดสีที่มีการผสมสีน้ำตาลเข้าไปด้วย ตัวแทนของสีแนวเอิร์ธโทนเข้าไปด้วย ซึ่งแต่เดิมย้อนไปในช่วงยุค 1980 สีเฉดนี้เคยเป็นตัวแทนของความกล้าในเหล่านักกีฬา เลยมักจะถูกนำไปใช้กับแบรนด์เกี่ยวกับกีฬา เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ หลายสำนักเทรนด์ยกให้เฉดสีนี้เป็นสีแห่งธรรมชาติและน้ำทะเลที่อยู่ระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียว เป็นเม็ดสีที่เกิดจากการถูกกัดกร่อนของโลหะทองแดง ที่ตีความถึงผู้นำเยาวชนที่ไม่ยอมแพ้เพื่อความก้าวหน้าของสังคม
บางสำนักเทรนด์ก็บอกว่าสีนี้คือสีของธรรมชาติยุคใหม่ ในขณะเดียวกันก็ถูกยกให้เป็นสีที่สร้างความรู้สึกปลอบประโลม แสดงถึงความหวัง การฟื้นฟูและการเปิดใจ เหมาะกับแบรนด์ออกแบบบ้าน สำนักงานหรือเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน โดยมีการนำเอาแนวคิดไบโอฟิลเลียที่เน้นถึงธรรมชาติบำบัดมาปรับใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางความจริงจัง และยังให้ความรู้สึกหรูหราได้ด้วย
สีส้มแอปริคอต (Golden Apricot)

ยุคนี้ผู้คนมักหันไปย้อนระลึกถึงวันวานมากขึ้น ความสุขที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองในอดีต และในปี 2024 จะเป็นปีที่คนก็ยังคงชอบหวนคืนอดีตเพื่อหนีความวุ่นวายที่เจอ ความนิยมสไตล์ย้อนยุคไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของตกแต่งหรือของสะสมมันจะกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะนวัตกรรมยุค 80 ที่เรียกว่าเรโทรที่จะเข้ามาผสมกับความทันสมัยในยุคดิจิทัล ซึ่งในยุคนั้นสีส้มเฉดนี้เคยเป็นที่นิยมมาก่อนจึงทำให้มันจะกลับมานิยมอีกครั้งในปีหน้า
มีการคาดการณ์จากสำนักเทรนด์ F-Trend บอกว่าจะมีหลายแบรนด์เสื้อผ้านำเอาเฉดสีนี้ไปใช้ในคอลเลกชันฤดูร้อน ต้อนรับแสงแดดอุ่น ๆ สร้างความรู้สึกหวนคิดถึงความงามในอดีต สามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบรนด์เสื้อผ้าผู้ใหญ่และเด็ก กระตุ้นความรู้สึกสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ และมันยังถูกนำไปใช้เป็นหนึ่งเฉดสีในเครื่องสำอางเพิ่มความโดดเด่นและเสริมความมั่นใจ นอกจากนี้ยังเอาใช้เป็นสีแต่งผนังห้องก็ดูดีไม่เบานะ
ทั้งหมดนี้เป็นเทรนด์แตกต่างบ้านมาแรงในปี 2024 ที่เอามาฝากให้ทุกคนได้ดูกัน ซึ่งต้องบอกว่าการตกแต่งบ้านไม่มีอะไรที่ตายตัว ซึ่งก็จะไม่มีถูก ไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับความสบายใจ และความสะดวกของคนภายในบ้าน หลายท่านอาจจะต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมนอกจากบทความนี้ เมื่อการแต่งบ้านของคนยุคใหม่ ไม่ได้มีแค่เรื่องของสี และเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามเท่านั้น หากแต่ต้องมาพร้อมดีไซน์ และคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างลงตัว ให้คุณได้อัปเดตดีไซน์และคอนเซ็ปต์การแต่งบ้านก่อนใครในสไตล์ที่ตอบโจทย์ โดยในแต่ละปีเทรนด์การตกแต่งบ้านก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ต่างๆ แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความต่อไป เราจะหาเทรนด์ใหม่ๆ มานำเสนอให้ได้อ่านกันอย่างครบถ้วนรอบด้านกันอีกครั้ง