สินเชื่อที่อยู่อาศัย

ในปัจจุบันนี้ บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นความฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ และยังเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความประสบความสำเร็จของตัวบุคคลนั้นได้อีกด้วย ซึ่งการที่บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นได้เป็นความฝันของใครหลายๆคนเพราะว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้เริ่มวาดฝันไว้เกี่ยวกับอนาคต สิ่งหนึ่งที่เรามักจะวาดหรือคิดลงไปด้วยเสมอก็คือการมีบ้านสักหลังหรือมีที่พักอาศัยดีๆสักที่นะ และหลังจากนั้นรายละเอียดอื่นๆอย่างเช่นครอบครัว รถ สัตว์เลี้ยงและอื่นๆอีกมากมายจะตามมาทีหลัง

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

กู้ซื้อบ้าน ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ วงเงินกู้ที่ได้จากธนาคารจะได้เท่าไหร่ มีเงื่อนไขการผ่อนอย่างไร

surprise ข้อควรทำ

blush 1. สร้างประวัติทางการเงินให้สะอาด

การสร้างประวัติทางการเงินให้สะอาดเป็นการสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในขั้นแรกของการขอสินเชื่อค่ะ หากคุณมีหนี้สินติดค้างไม่ว่าจะเป็นยอดค้างบัตรเครดิตที่ผลัดมาหลายเดือน ค่าผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถยนต์ คุณต้องจัดการเคลียร์หนี้นั้นให้หมดก่อนทำการขอสินเชื่ออย่างน้อย 6 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่าคุณไม่มีภาระหนี้สินใดๆ ให้ต้องเป็นกังวล และมีเงินเหลือพอที่จะชำระหนี้ค่ะ

เช็กประวัติทางการเงินของตัวเองได้อย่างไร
ใครที่สงสัยว่าตัวเองมีประวัติทางการเงินเป็นอย่างไร หรือใครที่มีประวัติติด Blacklist แล้วไม่แน่ใจว่ะธนาคารลบชื่อออกแล้วหรือไม่ สามารถเช็กประวัติทางการเงินได้ด้วยตัวเองผ่านหลายช่องทางดังนี้

เอกสารที่ต้องใช้
1. บุคคลธรรมดา ให้เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง
2. นิติบุคคล ให้เตรียมสำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคลที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมตัวจริง และตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามีค่ะ)

ค่าธรรมเนียม
100 บาท สามารถรอรับข้อมูลได้ภายใน 15 นาที หรือหากจะส่งไปรษณีย์ จ่ายเพิ่มฉบับละ 20 บาทค่ะ

ช่องทางการขอข้อมูล

1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 
อาคาร 2 ชั้น 2 เปิดให้บริการจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น.

2. สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ด้านในสถานี) 
เปิดให้บริการจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น. (ที่นี่จะให้บริการเฉพาะบุคคลธรรม)

3. ห้างเจ-เวนิว ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (นวนคร) 
เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 19.00 น.

4. ผ่านธนาคารพาณิชย์ต่างๆ 
เฉพาะบุคคลธรรมดาโดยอัตราค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 150 บาท และทางบริษัทจะจัดส่งข้อมูลทางไปรษณีย์ไปให้ภายใน 7 วัน

• เคาน์เตอร์ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ
• สำหรับผู้ที่มีบัตร ATM ของธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์สามารถทำรายการขอข้อมูลผ่านตู้ ATM ได้
• ตรวจสอบผ่านระบบธนาคารบนโทรศัพท์มือถือของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพียงแค่มีบัตร ATM หรือบัตรเดบิตของ 2 ธนาคารนี้
• แบบออนไลน์ สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารของธนาคารกรุงศรีอยุธยา

วงเงินที่เราสามารถกู้ได้

surprise สำหรับบ้านธรรมดาทั่วไป เราสามารถขอกู้ได้ถึง 85% ของราคาที่ทำการประเมิน และ ขอกู้ได้ไม่เกิน 85% ของราคาซื้อขาย แต่สำหรับในส่วนของอาคารพาณิชย์ เราจะสามารถกู้สูงสุดได้ไม่เกิน 75% ของราคาประเมิน และก็ไม่เกิน 75% ของราคาซื้อขาย


surprise สามารถกู้ได้โดยคิดจากรายได้ที่มี โดยคิดเป็นประมาณไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือนผู้กู้ 15 เท่าของรายได้อื่นๆ และสำหรับคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ก็จะสามารถขอกู้ได้ไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือนโดยประมาณนี้

ระยะเวลาการกู้สูงสุด

โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีระยะเวลาสัญญาการกู้ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป และก็ไม่เกิน 30 ปี โดยมีข้อแม้ว่าอายุของผู้กู้บวกกับระยะเวลาทำสัญญากู้ จะต้องไม่เกิน 70 ปีนะ ถึงจะสามารถกู้ได้

ซึ่งในการคำนวณขอกู้เงินโดยคิดจากราคาประมาณทั้งบ้านหรือที่พักอยู่อาศัยกับอาคารพาณิชย์ ไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่เพราะว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างตายตัว แต่สำหรับการขอกู้ที่คิดจากรายได้เป็นเกณฑ์นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่เกิน 40 เท่าจากรายได้ที่เราได้ก็จริง แต่สำหรับใครที่ต้องการความแม่นยำ ต้องการความถูกต้องมากยิ่งขึ้น เราก็มีเทคนิคการคิดอย่างง่ายๆดังนี้
ปริมาณเงินเดือนที่สามารถชำระได้ต่อเดือน = เงินเดือนที่เราได้รับ x DSR


ซึ่ง DSR คือ ภาระหนี้ทั้งหมดหารด้วยรายได้สุทธิ 
โดยในแต่ละธนาคารจะไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้าหากว่าเงินเดือนของเราเยอะ ค่า DSR ก็จะถูกปรับขึ้นเพิ่มด้วยนะ แต่สามารถใช้การประมาณคร่าวๆได้ประมาณ 40% และ
วงเงินที่เราสามารถกู้ได้ = (เงินที่สามารถชำระได้ต่อเดือน – ภาระผ่อนอื่นๆ) x 150


เราสามารถยกตัวอย่างคร่าวๆได้ดังนี้

คิดที่เงินเดือน 30,000 และต้องส่งรถอีกเดือนละ 5,000 บาทต่อเดือน
คำนวณเงินที่เราสามารถชำระได้ในแต่ละเดือนได้ 30,000 x 40% = 12,000 บาท
และเราสามารถกู้ได้ (12,000 – 5,000) x 150 = 1,050,000 บาท
จะเห็นได้ว่าถ้าเรามีเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 บาทและค่าส่งรถอีกเดือนละ 5,000 บาท เราจะสามารถขอกู้ธนาคารซื้อบ้านได้ถึง 1,050,000 บาทเลยทีเดียว 
และถ้าหากใครที่ขี้เกียจคิดคำนวณ เราก็มีตารางเปรียบเทียบปริมาณเงินเดือนกับปริมาณเงินที่เราสามารถกู้ได้ โดยคิดที่ DSR 40% มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี และไม่มีภาระทางการเงินอื่นๆเลยดังนี้


เงินเดือน                   วงเงินที่สามารถกู้ซื้อบ้าน

20,000                       1,200,000
30,000                       1,800,000
40,000                       2,400,000
50,000                       3,000,000
60,000                       3,600,000
100,000                     6,000,000
150,000                     9,000,000

surprise วงเงินกู้ในส่วนนี้ที่คำนวณจากรายได้หรือรายรับของเรา 

มีเทคนิคในการเพิ่มวงเงินในส่วนนี้อีกดังนี้

blush หารายได้เสริม
การหารายได้เสริมหรือหาอาชีพเสริม ก็นับว่าเป็นเงินที่ได้รับเหมือนกัน โดยจะสามารถเพิ่มวงเงินการกู้ให้เราได้ไม่น้อยเลยล่ะ โดยต้องมีการระบุที่มาของรายได้ด้วยนะและถ้าจะให้ดี จะต้องมีการเสียภาษีเพิ่มเข้ามาด้วย ถึงจะทำให้ดูน่าเชื่อถือที่สุด


blush ค่าสวัสดิการต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์ ค่าโรงแรมที่พัก ค่าเดินทาง และอื่นๆอีกมากมาย ที่ทางบริษัทจัดไว้ให้สำหรับพนักงาน ซึ่งเงินในส่วนนี้เราสามารถคิดรวมกับเงินเดือนของเราได้เลย ฉะนั้นแล้วใครที่มีสวัสดิการเยอะๆ ก็ไม่ควรมองข้ามในส่วนนี้ไป


blush ค่าคอมมิชชั่น
สำหรับอาชีพที่มีค่าคอมมิชชั่นอย่างเช่นเหล่าพนักงานขาย ซึ่งอาชีพเหล่านี้มักจะมีฐานเงินเดือนที่น้อย แต่ว่าจะมีค่าคอมมิชชั่นที่สูง ก็สามารถนำไปรวมเข้ากับเงินเดือนเพื่อเพิ่มวงเงินในการกู้ได้ โดยคำนวณจากค่าคอมมิชชั่นในหนึ่งปีที่ได้รับ แล้วก็มาเฉลี่ยว่าในหนึ่งเดือนว่าเราจะมีค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มวงเงินในการกู้แล้ว

  • สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์ จากธนาคารกรุงไทย ตัวช่วยของคนอยากมีบ้าน
  • รีไฟแนนซ์บ้าน อย่าเชื่อ! ข้อมูลจากธนาคารทั้งหมด ต้องคำนวณให้ดีเพื่อให้มีเงินเหลือ
  • เช็คเรื่องต้องรู้ ก่อนกู้ "สินเชื่อเสริมพลังฐานราก" ก็สูงสุดได้ 50,000 บ. จากธนาคารออมสิน
  • สินเชื่อบ้านทหารไทย การขอสินเชื่อบ้าน tmb
  • เคล็ดลับการกู้เงินซื้อบ้าน มีโอกาศผ่านง่าย ทำอย่างไร?
  • วิธีการขอสินเชื่อบ้านจากทางธนาคาร มีขั้นตอนก่อน และหลังจากการยื่นกู้อย่างไรบ้าง
  • "​​สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย​" ควรทำความเข้าใจ และต้องรู้เรื่องใดบ้าง?
  • รีไฟแนนซ์บ้าน 2561 ธนาคารไหนดี คุ้มค่าสุด รวมมาให้แล้ว
  • สินเชื่อบ้าน Refinance ธนาคารธนชาต สินเชื่อเพื่อไถ่ถอนสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น
  • 3 เรื่องต้องรู้ ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน แนะสูตรคำนวณแบบประหยัดดอกเบี้ย หนีดอกเบี้ยสุดโหด
  • สินเชื่อ SME ต่อยอดธุรกิจ กู้เงินเปิดร้าน วงเงินกู้ 3 เท่า สูงสุด 20 ล้าน
  • ผ่อนบ้านจัดเต็มกับกรุงไทย ผ่อนนาน 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 6 เดือน
  • ออมสินให้วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้าน ใช้เป็นเงินทุนร้านสำหรับพ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระ ผ่อนยาว 10 ปี
  • สมัครกู้เงินออนไลน์? ออมสินให้กู้ด่วน 200,000 บาท จริงหรือไม่
  • ออมสินปรับลดเงินงวด สินเชื่อ "ผ่อนบ้านดี มีเฮ" สำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะปัจจุบัน ถึง 30 ก.ย. นี้
  • กู้ซื้อบ้าน ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ วงเงินกู้ที่ได้จากธนาคารจะได้เท่าไหร่ มีเงื่อนไขการผ่อนอย่างไร

    ในปัจจุบันนี้ บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นความฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ และยังเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความประสบความสำเร็จของตัวบุคคลนั้นได้อีกด้วย ซึ่งการที่บ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นได้เป็นความฝันของใครหลายๆคนเพราะว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้เริ่มวาดฝันไว้เกี่ยวกับอนาคต สิ่งหนึ่งที่เรามักจะวาดหรือคิดลงไปด้วยเสมอก็คือการมีบ้านสักหลังหรือมีที่พักอาศัยดีๆสักที่นะ และหลังจากนั้นรายละเอียดอื่นๆอย่างเช่นครอบครัว รถ สัตว์เลี้ยงและอื่นๆอีกมากมายจะตามมาทีหลัง

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll