ลองคิดดูก่อน เรื่องง่ายเลยค่ะ ถ้าเกิดมีเพื่อนมาขอยืมเงิน ยืมเล็กๆน้อยๆก็ไม่เท่าไหร่ใช่ไหมคะ แต่ถ้ายืมเป็นแสนเป็นล้านนี่ต้องขอคิดดูก่อน กว่าจะให้ยืม ก็ต้องตรวจดูว่าคนๆ นี้จะมีเงินมาใช้คืนเรารึเปล่า เหมือนกับธนาคารแหละค่ะ อย่างแรกเมื่อคุณไปขอยืมเงินเขา สิ่งที่ธนาคารต้องทำก็คือการตรวจสอบ ประเมินว่าคนที่มาขอสินเชื่อนี่จะมีเงินมาส่งค่างวดให้ธนาคารทุกเดือนๆไหม ส่งทีเป็นสิบๆปี ถูกไหมคะ
การขอเงินก้อนจากธนาคารไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ค่ะ แต่อย่างแรกคือคนที่มาขอกู้จะต้องมีเครดิตดี มีประวัติดีค่ะ ถ้าเคยมีการกู้เงินมาก่อนก็ขอให้ขยันส่งตามสัญญา ไม่ขาดไม่เกิน อย่างนี้เรียกว่าเครดิตดีค่ะ ปัจจุบันนี้ธนาคารหลายต่อหลายแห่งมีบริการให้กู้เงิน 100% แล้วนะคะ ทุกวันนี้คุณสามารถขอวงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินได้เลย ลองดูตัวอย่างบริการจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (www.krungsri.com) เป็นต้นค่ะ คือสามารถขอเงินกู้ได้เต็มวงเงิน ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมการสำรวจ การประเมินหลักประกัน และยังไม่มีค่าธรรมเนียมการทำนิติสัญญาอีกด้วยค่ะ
►เพียงแค่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามนี้
- บุคคลทั่วไป สัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 20-50 ปี
- ทำงานประจำ อายุงานปัจจุบันอย่างน้อย 2 ปี
- หากเป็นพนักงานประจำ อายุงานรวมอย่างน้อย 2 ปี (ปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
- หากประกอบธุรกิจส่วนตัว อย่างน้อยต้องประกอบธุรกิจดังกล่าวมาแล้วเป็นเวลา 2 ปีเป็นอย่างต่ำ
- ผู้กู้ร่วม จะต้องเป็นญาติทางสายเลือดกับผู้กู้ (ไม่นับกรณีคู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียน)
- ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ แต่จริงๆแล้วการกู้เงินก็ยังมีอีกหลายต่อหลายปัจจัยที่จะต้องคำนึงถึง เพื่อความมั่นคงของการเงินของตัวคุณเอง เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง
►กู้ให้ผ่านต้องทำยังไง
ประการแรกเลยคือจะต้องตรวจสอบดูสุขภาพการเงินของเราก่อนนะคะ สุขภาพทางการเงินที่ดี ก็คือ เมื่อเราทำการหักลบรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว มีเงินเหลือใช้เหลือเก็บ นี่คือสุขภาพทางการเงินดีค่ะ ถ้ามีเงินเหลือใช้เหลือเก็บทุกเดือนก็แปลว่ามีเงินที่จะนำมาชำระค่างวดรายเดือนให้แก่ธนาคาร แบบนี้ธนาคารก็สามารถอนุมัติสินเชื่อให้โดนไม่ตะขิดตะขวงใจ ทำให้ธนาคารอนุมัติง่าย อนุมัติเร็วนะคะ ส่วนเรื่องค่างวดรายเดือนคิดคร่าวๆก็ ถ้ากู้เงิน 1 ล้านบาท ต้องผ่อนเดือนละประมาณ 7,000 กว่าบาทค่ะ ยังไงจะกู้เท่าไหร่แน่ก็ลองตรวจสอบดูว่าจะต้องจ่ายค่างวดต่อเดือนเท่าไหร่ และเรามีเงินเหลือต่อเดือนเท่าไหร่ พอจ่ายธนาคารหรือไม่ พอเหลือเก็บเผื่อฉุกเฉินด้วยหรือไม่ บริหารกันดีๆนะคะ
►อุปสรรคในการขอกู้เงิน
มีหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการขอกู้ยืมสินเชื่อจากธนาคาร มาดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง
• รายได้
กรณีรายได้แบบเป็นเงินเดือนก็ไม่ค่อยมีปัญหานะคะ ยังไงซะเราได้เงินทุกๆเดือน เพียงแค่ต้องรู้จักสะสม รู้จักเก็บออม อย่าลืมเก็บสลิปเงินเดือน และ หมั่นอัพเดทสมุดบัญชีธนาคารเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเอาไว้ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอกู้เงินด้วยนะคะ เพราะว่าทางธนาคารจะต้องขอดูความเคลื่อนไหวทางการเงินต่อเดือน ต่อเนื่องย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนนะคะ ทำแบบนี้ด้วยตัวเองจะได้ไม่ต้องไปขอสเตทเม้นท์จากธนาคารให้วุ่นวาย แถมเสียเงินค่าธรรมเนียมด้วยค่ะ
• ถ้าเราไม่ได้เป็นพนักงานประจำจะทำยังไง?
จริงๆแล้วก็ไม่ยากค่ะ หากคุณประกอบธุรกิจอิสระ หรือ ธุรกิจส่วนตัว ก็ขอให้อัพเดทสมุดธนาคารเป็นประจำทุกเดือนนะคะ อย่าลืมเตรียมทะเบียนพาณิชย์ หรือ ใบประกอบวิชาชีพเอาไว้ด้วยนะคะ ธนาคารอาจจะขอเพื่อเป็นหลักฐานเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำอยู่ค่ะ แล้วก็ทำการสรุปรายการเงินเดือนบัญชีของงานที่ทำมาด้วยยิ่งดีค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ทางธนาคารเกิดความไม่มั่นใจว่าเราจะมีรายได้เข้ามาตลอดไหม พอหรือไม่กับค่างวดแต่ละเดือน นะคะ ขยันนิดหน่อยจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะค่ะ
• หนี้บัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด
หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต หรือ บัตรกดเงินสด รายละเอียดส่วนนี้จะไปขึ้นแสดงที่เครดิตบูโรของคุณนะคะ หากคุณติดบัญชีดำ อันนี้ก็คงจะหาทางกู้ยากล่ะค่ะ เพราะหมายความว่าประวัติการชำระหนี้ของคุณไม่ดี มีปัญหา อาจจะจ่ายไม่ตรงต่อเวลา ผิดนัด หรือ เบี้ยวไม่จ่ายซะเลย พอธนาคารเห็นแบบนี้ ธนาคารก็คงจะไม่อยากอนุมัติเงินสินเชื่อให้นะคะ เป็นคุณถ้ามีเพื่อนชอบยืมแล้วเชิด โดนบ่อยๆ ก็ไม่มีใครให้ยืมเพราะว่ากลัวจะไม่ได้เงินคืน จริงไหมคะ
อีกกรณีคือ ถ้าคุณติดหนี้บัตรเครดิตเยอะเกิน แม้ว่าจะไม่ได้ติดบัญชีดำ แต่ว่ามีหนี้ค้างเพียบ อันนี้ทางธนาคารก็จะทำการประเมินรายได้ของเรา แต่หากหลังการประเมินแล้วปรากฏว่ายอดที่ต้องชำระบัตรเครดิตแต่ละใบ เปรียบเทียบกับยอดรายได้ ก็ยังพอดีเป๊ะ หรือขาด แล้วจะเชื่อใจได้ยังไงว่าคุณจะมีเงินมาจ่ายค่างวดสินเชื่อที่ให้กู้ไป แบบนี้อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ ดีไม่ดีธนาคารอาจจะไม่ยอมอนุมัติให้ไปเลย แต่ว่าถ้าคำนวณแล้วเงินเหลือพอค่างวดสินเชื่อ แบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ แบบนี้กู้ได้สบายใจเฉิบ
• ค่าใช้จ่ายประจำวัน
อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึง ก็คือ ค่ากินค่าอยู่แต่ละวัน อย่าลืมเอามาประเมินด้วยนะคะ มีลูกมีหลานก็ต้องคิดค่าเลี้ยงดูด้วยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่มีเงินเหลือใช้ ทีนี้ละยุ่งแน่ๆ ธนาคารส่วนมากจะนิยมประเมินตามความเหมาะสม และอาจจะคิดออกมาไม่เหมือนกันค่ะ
จริงๆแล้วก็ไม่ได้ต้องกังวลส่วนนี้มากนะคะ ถ้าเรามีรายได้ มีเงินเหลือใช้แต่ละเดือน โอกาสกู้ผ่านนั้นเป็นได้ง่ายอยู่ค่ะ ถ้าหากรายได้ไม่พอ ยังไงเสียก็ยังขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ธนาคารได้นะคะ ว่าจะทำยังไงดี อาจจะต้องเอาเงินไปปิดยอดบัตรเครดิตก่อน ทำโน่นนี่นั่น แล้วค่อยกลับมายื่นใหม่ เป็นต้นค่ะ อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านโชคดี มีเงินถุงเงินถังค่ะ
ติดตามอ่านข้อมูลเรื่องสินเชื่อคอนโดได้ที่ http://www.krungsri.com หรือโทร. 1572