สาระควรรู้ทั่วไป

ถ้าไม่อยากจำใจทิ้งอาหารที่เพิ่งซื้อมา แนะนำว่าไม่ควรนำไปแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด หรือหากมีอาหารเหล่านี้แช่อยู่ในตู้เย็นที่บ้าน รีบนำออกมาให้ไวเลย

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

อาหาร 19 ชนิด ไม่ผูกมิตรกับตู้เย็น

     ถ้าไม่อยากจำใจทิ้งอาหารที่เพิ่งซื้อมา แนะนำว่าไม่ควรนำไปแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด หรือหากมีอาหารเหล่านี้แช่อยู่ในตู้เย็นที่บ้าน รีบนำออกมาให้ไวเลย 

     บรรดาแม่บ้าน พ่อบ้านอาจจะเคยชินกับการเก็บวัตถุดิบอาหารเหล่านี้เอาไว้ในตู้เย็น เพราะคิดว่าตู้เย็นจะช่วยถนอมอาหารให้เก็บไว้กินได้นานขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก เนื่องจากอาหารบางชนิดวางไว้ในอุณหภูมิห้องก็พอแล้ว อีกทั้งการนำไปแช่ตู้เย็นอาจจะทำอาหารเน่าเสียและมีรสชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิมเลยล่ะ

 

 1. มันฝรั่ง

     ถ้าเผลอนำมันฝรั่งเข้าไปแช่เอาไว้ในตู้เย็น จากรสชาติที่มันๆ นุ่มๆ ก็จะกลายเป็นรสเฝื่อนเหมือนแป้ง และเนื้อสัมผัสจะหยาบคล้ายเนื้อทราย ฉะนั้นเราควรจะเก็บมันฝรั่งไว้ในถุงกระดาษ แล้ววางไว้ในตู้กับข้าวดีกว่า นอกจากนี้ห้ามใส่ไว้ในถุงพลาสติก เพราะจะทำให้เกิดความชื้นและเชื้อราตามมาได้ค่ะ 

 

 2. หัวหอมใหญ่

     หัวหอมใหญ่ที่เก็บไว้ในตู้เย็นจะถูกความชื้นเข้าไปทำลายเนื้อสัมผัสเดิม จะทำให้หัวหอมนิ่มและเละ แนะนำให้เก็บไว้ในถุงกระดาษเจาะรูหรือถุงตาข่ายที่มีอากาศถ่ายเท จากนั้นก็วางไว้ในที่ที่เย็นและอับแสงดีกว่าค่ะ

 

 3. ฟักทอง

     อย่าปล่อยให้ความเย็นในตู้เย็นทำรสชาติของฟักทองหายหมด แต่ควรเก็บไว้นอกตู้ในที่ที่เป็นอุณหภูมิห้องดีกว่า เพื่อรักษาความเหนียวและรสชาติหวานๆ ของฟักทองให้ยังคงอยู่เหมือนเดิม

 

 4. มะเขือเทศ

     หากนำผลมะเขือเทศสดๆ ไปแช่ไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน ผิวที่เคยเต่งตึงก็จะเหี่ยวและช้ำ เพราะผิวของมะเขือเทศบอบบางมาก รวมทั้งรสชาติก็จะเพี้ยนตามไปด้วย วิธีการเก็บมะเขือเทศที่ดีที่สุดคือ ใส่ไว้ในตะกร้าหรือกล่องพลาสติก แล้ววางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ แต่ถ้าอยากให้มะเขือเทศสุกเร็วขึ้น แนะนำให้ห่อไว้ในถุงกระถางอีก 1 ชั้น

 

 5. กล้วย

     คนที่ชอบกินกล้วยแช่เย็นคงต้องเลือกหน่อยแล้ว เพราะถ้าหากนำกล้วยที่เปลือกยังมีสีเขียวไปแช่ในตู้เย็น ความเย็นจะกักเก็บความสดไว้ ทำให้กล้วยสุกช้าลงมาก ทางที่ดีควรเก็บกล้วยที่ยังเขียวเอาไว้นอกตู้เย็น เพื่อรอให้มันสุกได้ที่แล้วค่อยนำไปแช่จะดีกว่า แม้ว่าเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่เนื้อด้านจะยังคงสุกพร้อมกินเหมือนเดิม

 

 6. แตงโม

     หลายคนคิดว่าการแช่แตงโมไว้ในตู้เย็นจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินมากขึ้น แต่จริงๆ แล้วแตงโมที่ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิต่างหากจะมีรสชาติที่พอดี และเนื้อสัมผัสจะยังคงสดใหม่ไม่ช้ำง่าย ถ้าอยากจะกินแบบเย็นขึ้นมา แนะนำให้ตัดแบ่งออกเป็นชิ้นๆ แล้วค่อยนำไปแช่ดีกว่าค่ะ

 

 7. ส้ม

     ทั้งส้มและเลมอนต่างก็เป็นพืชในตระกูลเดียวกัน และก็ต้องไม่เก็บไว้ในตู้เย็นเช่นเดียวกัน ทางที่ดีควรเก็บไว้นอกตู้เย็น วางไว้ในที่ที่เย็นและไม่มีแสงส่องถึง อุณหภูมิห้องจะดีต่อพืชผลเหล่านี้มากที่สุด 

 

 8. อะโวคาโด

     ถ้าอะโวคาโดที่ซื้อมายังดิบและแข็งอยู่ อย่านำให้ไปแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด เพราะอะโวคาโดจะไม่ยอมสุกงอมง่ายๆ ดังนั้นจึงควรเก็บเอาไว้นอกตู้เย็น จะวางไว้ที่เคาน์เตอร์ครัวหรือที่ไหนก็ได้ที่เป็นอุณหภูมิห้องก็พอค่ะ

 

 9. กระเทียม

     กระเทียมเป็นอาหารที่ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด มิเช่นนั้นกระเทียมจะเน่าเสียเร็วขึ้น หรืออาจมีต้นอ่อนงอกออกมา วิธีการเก็บกระเทียมที่ถูกต้องคือ เก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำและไม่โดนแสงแดดเท่านั้น

 

 10. ผลไม้อบแห้ง

     การเก็บผลไม้อบแห้งไว้ในตู้เย็นจะช่วยตัดปัญหาเรื่องมดไปได้ก็จริง แต่เมื่อเรานำผลไม้อบแห้งออกมากิน ก็จะพบว่ามันแข็งซะจนกินแทบไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ ดังนั้นควรหากล่องหรือถุงซิปล็อกมาใส่แล้ววางไว้ด้านนอกแทน ไม่ว่ามดแมลงหน้าไหนก็มายุ่งกับผลไม้อบแห้งของเราไม่ได้แล้ว

 

 11. ขนมปัง

     การนำขนมปังมาสต็อกเก็บไว้อาจจะต้องวางแผนให้ละเอียดนิดนึง ถ้าจะกินภายใน 1 สัปดาห์ก็สามารถเก็บไว้นอกตู้เย็นได้เลยค่ะ เพราะถ้าหากนำไปแช่ไว้จะทำให้ขนมปังคืนตัว มีเนื้อสัมผัสแห้ง และกระด้างไม่น่ากิน ส่วนใครที่อยากเก็บไว้กินนานๆ ให้ใส่ขนมปังไว้ในถุงซิปล็อกและแช่ไว้ในช่องแช่แข็งเท่านั้น  

 

 12. ถั่ว

     ถ้าวางแผนที่จะกินถั่วให้หมดภายใน 1 เดือน ก็สามารถเก็บไว้นอกตู้เย็นที่ที่เป็นอุณหภูมิห้องได้เลยค่ะ แต่ถ้าจะเก็บเอาไว้กินนานเกิน 1 เดือนขึ้นไป แนะนำให้แช่ไว้ในตู้เย็นเลยดีกว่า เพราะความเย็นจะช่วยหยุดยั้งไม่ให้น้ำมันถั่วที่ทำให้เหม็นหืนออกมาได้

 

 13. น้ำมัน

     ใครที่เคยนำน้ำมันไปแช่ไว้ในตู้เย็นให้รีบเอาออกมาด่วน มิเช่นนั้นน้ำมันจะแข็งตัวและจับตัวเป็นไขทำให้ปรุงอาหารลำบาก เอาเป็นว่าก็เก็บไว้ด้านนอกในที่เย็นและไม่มีแสงแดดส่องถึงเหมือนดีกว่า

 

 14. สมุนไพรสด

     สมุนไพรสดที่เพิ่งได้มา อย่านำไปแช่ไว้ในตู้เย็นโดดเด็ดขาด เพราะสมุนไปเหล่านี้จะคอยดูดกลิ่นของอาหารรอบข้างเข้าไป ทำให้รสชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิม ฉะนั้นแนะนำให้เอาสมุนไพรสดมาปักลงในขวดแก้วที่มีน้ำหล่ออยู่เพื่อความสดใหม่ หรือเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิดแล้วค่อยนำไปแช่ในตู้เย็น ก็จะช่วยรักษาความสดใหม่ได้ดีกว่า

 

 15. เครื่องเทศ

     รสชาติเครื่องเทศคือสิ่งที่เราต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ความชื้นจะทำให้สูญเสียรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวไป ฉะนั้นให้เก็บเครื่องเทศไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิด แล้ววางไว้ในที่ที่เย็นและแห้ง

 

 16. กาแฟ

     ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกำจัดกลิ่น เราจึงไม่ควรเก็บกาแฟเอาไว้ในตู้เย็นโดนเด็ดขาด มิเช่นนั้นมันจะดูดกลิ่นอาหารต่างๆ ที่อยู่ในตู้เย็นเข้าไป ทำให้รสชาติของกาแฟผิดเพี้ยนตามไปด้วย แนะนำให้เก็บไว้ในขวดโหลที่มีฝาปิดสนิท และวางไว้ในที่ที่ไม่มีแสงส่องถึง

 

 17. แอปเปิล

     เรียกได้ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพและความสวยความงามตัวแม่เลยค่ะ ฉะนั้นถ้าเราตั้งใจจะกินแอปเปิลให้หมดภายใน 2 สัปดาห์ ก็ให้วางไว้นอกตู้เย็น หรือจะวางตามเคาน์เตอร์ครัวก็ได้ไม่ว่ากัน 

 

 18. น้ำผึ้ง

     หลายคนคิดว่าควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษารสชาติและป้องกันมดแมลง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่จะทำให้น้ำแข็งตัวและตกผลึก แถมยังเพิ่มปริมาณความหวานให้มากขึ้นอีกด้วย เอาเป็นว่าเลือกเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิด วางไว้ในที่ที่อุณหภูมิเย็น และไม่โดนแสงแดด

 

 19. เนยถั่ว

     เนยถั่วขวดไหนที่ถูกเปิดฝาแล้วอย่านำไปแช่ไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด ให้วางด้านนอกที่มีอุณหภูมิห้องก็พอค่ะ เมื่อครบ 3 เดือนให้นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุให้นานขึ้น แต่ถ้าเป็นเนยถั่วที่ทำเองและต้องการกินให้หมดภายใน 1 เดือน แนะนำให้เก็บไว้นอกตู้เย็นเช่นเดียวกัน รสชาติก็จะยังคงเหมือนเดิม

     แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยรักษาสภาพอาหาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาอาหารทุกชนิดไปเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้ อีกทั้งอาจทำให้อาหารบางอย่างเสียเร็วขึ้น ฉะนั้นหากรู้แล้วว่าอาหารชนิดไหนที่ไม่ควรนำเข้าตู้เย็น ก็อย่าลืมไปหยิบออกมานะคะ 


ขอบคุณข้อมูลจาก Kapook.com
  • 5 แอพพลิเคชั่นสุดเจ๋งที่คนรักบ้านไม่ควรพลาด เพื่อตอบโจทย์ทุกชีวิตคนเมืองในยุคไทยแลนด์ 4.0
  • ความรู้เรื่องการเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักของบ้าน ใช้อย่างถูกต้องประหยัดและคุ้มค่า
  • 7 ประโยชน์ดีๆ จากการอาบน้ำเย็น หนาวหน่อย แต่ดีต่อสุขภาพสุดๆ
  • 8 เรื่องคิดให้ดีก่อนต่อเติมบ้านและอาคาร ทำอย่างไรให้ถูกกฎหมาย
  • ทริคไม่ลับ สำหรับคุณแม่บ้านในการทำความสะอาดบ้านภายใน 15 นาทีเท่านั้น
  • 10 รองเท้าแตะแบรนด์ดังสุดฮิต ใช้ใส่อยู่บ้านสบายๆ ใส่เที่ยวก็ได้ด้วย
  • หลากหลายวิธีทำความสะอาดพระต้อนรับปีใหม่ไทย สำหรับมือใหม่
  • 6 วิธีการดูแลรักษามีดในครัว ให้คมกริบสวยเฉียบอยู่ตลอด
  • 5 วิธีดับกลิ่นสุนัขภายในบ้าน
  • ระเบียบข้อบังคับจราจร การจอดรถในพื้นที่สาธารณะ ส่วนกลางหมู่บ้าน
  • เลือกอิฐแบบไหน อิฐมอญ อิฐมวลเบา อิฐบล็อก เหมาะกับสร้างบ้าน ประหยัดงบมากที่สุด
  • เช็คสิทธิ ทะเบียนราษฎร "เจ้าของบ้าน" กับ "เจ้าบ้าน" ในทะเบียนบ้าน ใครสิทธิเหนือกว่า หน้าที่ต่างกันอย...
  • เคล็ดไม่ลับ 10 วิธีซักผ้าสีตก คราบสีฝังแน่นอย่าทิ้ง ทำให้เสื้อกลับมาใส่ได้อีกครั้งดีกว่า
  • ข้อควรรู้ ซื้อบ้าน และที่ดินในโครงการจัดสรร เรื่องใดที่ควรทำหลังโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
  • แอร์ยี่ห้อไหนประหยัดไฟ 2567 ลดการใช้พลังงาน ช่วยประหยัดไฟได้ดี
  • อาหาร 19 ชนิด ไม่ผูกมิตรกับตู้เย็น

    ถ้าไม่อยากจำใจทิ้งอาหารที่เพิ่งซื้อมา แนะนำว่าไม่ควรนำไปแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด หรือหากมีอาหารเหล่านี้แช่อยู่ในตู้เย็นที่บ้าน รีบนำออกมาให้ไวเลย

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll