หลายๆบ้านคงเคยได้ยินว่าปลูกต้นนั้นต้นนี้แล้วจะทำให้ดวงดีขึ้นหรือทำให้เกิดโชคลาภกับคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน ต้นไม้ที่นิยมปลูกกันนั้นไม่ใช่แค่เพียงเสริมโชค
วาสนา
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นตรง กลม เป็นข้อถี่ มีความสูงประมาณ ๔-๑๐ เมตร ไม่มีกิ่งก้านสาขา ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยว แตกออกจากลำต้นส่วนยอด เรียงซ้อนกันเวียนรอบลำต้นเป็นรูปวงกลม ส่วนใบมีลักษณะเป็นใบเรียว ยาว ปลายใบแหลม ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น นอกจากนี้ ต้นวาสนายังเป็นต้นไม้มงคลตามความเชื่อ หากใครปลูกต้นวาสนาไว้ในบ้าน ก็จะพบเจอแต่สิ่งดี ส่วนทิศที่ควรปลูกก็คือ ทิศตะวันตก เพราะจะช่วยคอยบังแดด หากปลูกในทิศใต้ก็จะช่วยบังลมได้เป็นอย่างดี ควรรดน้ำอย่างน้อย 5-7 วันต่อครั้ง ควรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง
ต้นไผ่
ต้นไผ่มีหลากหลายชนิด ทั้งไผ่เหลืองทอง ไผ่สีสุก ไผ่เตี้ย ไผ่น้ำเต้า แต่คนโบราณเชื่อกันว่า ถ้าปลูกไผ่สีสุกจะช่วยให้สมาชิกในบ้านประสบความสำเร็จ ร่ำรวยเงินทอง และมีความสุขกันถ้วนหน้า ส่วนลักษณะที่เด่นชัดเหมือนกันของต้นไผ่ นั่นก็คือเป็นไม้ไม่ผลัดใบใน ขึ้นเป็นกอ ลำต้นเป็นปล้อง ๆ เหยียดตรง แข็งแรง ต้นไผ่เป็นพืชที่ดูแลง่าย แต่ทั้งนี้ในช่วงแรกต้องคอยกำจัดวัชพืช ซึ่งหลังจาก 1 ปี จะไม่มีวัชพืชขึ้นแล้ว เนื่องจากใบของไผ่จะบังแสงแดดไม่ให้ส่องถึงพื้น หากจะปลูกต้นไผ่ ควรปลูกไว้ริมรั้วของบ้าน หรือบริเวณที่โล่งกว้าง และควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออก นอกจากนี้ ยังควรปลูกต้นไผ่ในวันเสาร์จึงจะเป็นมงคล
แสงจันทร์
เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 5-10 เมตร ผิวเปลือกลำต้นสีขาวเทา ผิวลำต้นเรียบลำต้นและกิ่งเจริญออกไปรอบต้นใบสีเหลืองอมเขียวอ่อน ปลายใบแหลมขอบใบเรียบ ใบเป็นใบเดี่ยว แตกออกตามข้อ ของกิ่ง เนื้อใบมองเห็นเส้นใบได้ชัด ใบบางนิ่ม ขนาดความกว้างของใบประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร
ต้นแสงจันทร์คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นแสงจันทร์ไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความงดงามนิ่มนวลเพราะลักษณะใบแสงจันทร์ต้นแสงจันทร์ต้องการเป็นต้นไม้ที่ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปริมาณปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วันต่อครั้ง ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นปานกลาง
โมก
โมกเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 5-12 เมตร ผิวเปลือกสีน้ำตาลดำ ลำต้นกลมเรียบมีจุดเล็ก ๆ สีขาวประทั่วต้น แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบลำต้นไม่เป็นระเบียบใบเป็นใบเดียวออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบลักษณะใบ คนโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นโมกเอาไว้ภายในบ้าน ก็จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์สะอาด มีแต่ความสุขกายสุขใจ ปลอดภัย
ต้นโมกต้องการแสงแดดปานกลาง จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ควรให้น้ำ 5-7 วันต่อครั้ง นอกจากนี้ต้นโมกยังชอบดินร่วนซุย
เฟื่องฟ้า
เฟื่องฟ้าเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางประเภทเถาเลื้อย ลำต้นมีความยาวประมาณ 1-10 เมตร มีลำเถาแข็งแรงเลื้อยไปได้ไกล ผิวลำต้นสีเทาหรือสีน้ำตาลลำต้นมีหนามคมแหลมยาวประมาณ 0.51 เซนติเมตร
คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นประจำบ้าน สามารถสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้นเฟื่องฟ้าเป็นพรรณไม้สำหรับตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นเฟื่องฟ้า ไว้ทางทิศตะวันออก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปทางด้าน ให้ปลูกในวันพุธ และถ้าจะให้เป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น
ดอกแก้ว
เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ สีเขียวเข้ม เปลือกต้น สีขาวเทา แตกเป็นร่องตามยาวคนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นแก้วไว้ประจำบ้านจะทำให้เป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ มีความเบิกบาน เพราะ แก้ว คือ ความใสสะอาด ความสดใส นอกจากนี้ดอกแก้วยังมีสีขาวสะอาดกลิ่นหอมอบอวล
ดอกเข็ม
เป็นไม้พุ่มออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอดหรือกิ่งข้าง ดอกมีหลากสีด้วยกันคือ สีแดง ส้ม ชมพู เหลือง และขาว เป็นต้น ดอกเข็มมีลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ ที่ปลายหลอดมีกลีบแยกจากกันเป็น 4 กลีบ ถ้าดอกซ้อนอาจจะมีถึง 8 กลีบ คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกเข็มไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีความฉลาดเฉียบแหลม เพราะเข็มคือสิ่งที่มีความแหลมคม ต้นเข็มชอบแสงแดดจัด ๆ หรือแสงแดดกลางแจ้ง ส่วนน้ำต้องการน้ำเพียงแค่ปานกลางเท่านั้น และต้นเข็มยังสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย
ควรปลูกต้นเข็มไว้ ทางทิศตะวันออก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธเพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปทางดอก ให้ปลูกในวันพุธ
พลับพลึง
เป็นพืชล้มลุกหลายฤดู มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวกลม ส่วนที่โผล่พ้นดินเป็นกายใบอัดกันแน่น ส่วนใบเป็นใบเดี่ยว เรียงซ้อนเป็นวงกว้าง 7-15 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร ปลายใบแหลม แผ่นใบอวบหนาพลับพลึงชอบขึ้นในดินที่ชื้นสามารถทนอยู่ในดินแฉะที่ไม่ค่อยระบายน้ำหรือในบริเวณที่แห้งแล้งในบางช่วงได้นิยมปลูกกันตามร่องสวนในภาคกลางทั่วไป เป็นพืชที่ทนทาน ไม่ต้องมีการบำรุงรักษามากนัก
พุทธรักษา
พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ ดอกพุทธรักษา ชอบแสงรำไร หรือแสงแดดจัดกลางแจ้ง และต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ ครั้ง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน
คนโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุทธรักษาไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันอันตรายแก่บ้านและผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข คือเป็นไม้มงคลนั่นเอง
มะม่วง
เป็นไม้ผลที่นิยมปลูกค่อนข้างมาก เนื่องจากมะม่วงนั้น สามารถปลูกได้ง่าย และปลูกได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยมะม่วงเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10–30 เมตร ใบ ใบเดี่ยวสีเขียว ขอบใบเรียบ ฐานใบมน ปลายใบแหลม ดอก เป็นช่อ กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรสีแดงเรื่อๆ ดอกออกช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงฤดูร้อนจะติดผลลูกดิบสีเขียว เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือเหลืองส้ม มีเมล็ดภายใน 1 เมล็ด
ทับทิม
ทับทิมเป็นไม้พุ่มแตกกิ่งก้าน โคนต้นมีกิ่งที่เปลี่ยนไปเป็นหนามยาว แข็ง ใบ เดี่ยว แผ่นใบแคบ ขอบใบเป็นรูปขอบขนาน ยอดอ่อนเป็นสีแดง ใบออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน หรือใบออกสลับกัน ดอก เดี่ยว กลีบเลี้ยงหนาสีแดง จะคงทนอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง หรือสีเหลืองอ่อน ถ้ากลีบดอกสีแดงเปลือกนอกของผลหนาค่อนข้างเหนียว เปลือกด้านในสีเหลือง ภายในมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก อัดกันแน่นเต็มเปลือก แต่ละเมล็ดมีเนื้อสีชมพู หรือสีแดงลักษณะใส มีรสหวาน หวานอมเปรี้ยว
ฝรั่ง
เป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง โดยเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 3-10 เมตร ลำต้นเกลี้ยงมัน เปลือกต้นเรียบ ใบเดี่ยว ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 2-3 ใบ โดยจะออกดอกตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีขาว ร่วงง่าย มีเกสรตัวผู้เป็นจำนวนมาก สำหรับฝรั่ง จะมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพร ใช้ดับกลิ่นปากได้ หากนำใบไปต้มแล้วดื่มจะช่วยป้องกันลำไส้อักเสบ ท้องเสีย คออักเสบ เสียงแห้ง ทั้งยังสามารถนำมาทาแก้ผื่นคัน หรือแผลพุพองได้ ฝรั่งจึงเป็นต้นไม้ที่หลายบ้านนิยมปลูกไว้ริมรั้ว เพราะมีประโยชน์มากมายนั่นเอง