สาระควรรู้ทั่วไป

สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นส่วนเติมเต็มให้บ้านดูเป็นบ้านมากขึ้นอีกเยอะ ยิ่งถ้าเป็นสนามหญ้าที่เขียวขจีดูสดชื่น ก็จะเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดจุดหนึ่งของบ้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะถ้าตอนเช้า ๆ ได้มีโอกาสมาเดินเล่นที่สนามหญ้า คงจะเป็นเช้าที่ให้ความรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลยเนอะ และถ้าคุณเป็นคนน่าอิจฉาที่มีสนามหญ้าอยู่ในบ้านแล้ว หรือกำลังคิดจะทำสนามหญ้าในบ้าน แต่ยังไม่ค่อยรู้วิธีดูแลสนามหญ้าให้สวยสดชื่นเท่าที่ควร เอาเป็นว่ามาดูทริคดูแลสนามหญ้าต่อไปนี้กันดีกว่า

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

วิธีดูแลสนามหญ้าหน้าบ้าน ให้สวยสะอาดตามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใครๆก็อิจฉา

          สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นส่วนเติมเต็มให้บ้านดูเป็นบ้านมากขึ้นอีกเยอะ ยิ่งถ้าเป็นสนามหญ้าที่เขียวขจีดูสดชื่น ก็จะเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดจุดหนึ่งของบ้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะถ้าตอนเช้า ๆ ได้มีโอกาสมาเดินเล่นที่สนามหญ้า คงจะเป็นเช้าที่ให้ความรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลยเนอะ และถ้าคุณเป็นคนน่าอิจฉาที่มีสนามหญ้าอยู่ในบ้านแล้ว หรือกำลังคิดจะทำสนามหญ้าในบ้าน แต่ยังไม่ค่อยรู้วิธีดูแลสนามหญ้าให้สวยสดชื่นเท่าที่ควร เอาเป็นว่ามาดูทริคดูแลสนามหญ้าต่อไปนี้กันดีกว่า

1. ดูแลดินเหมือนดูแลตัวเอง

          อินทรีย์ในดินก็เปรียบเสมือนร่างกายมนุษย์ ที่ต้องการน้ำ อาหาร อากาศหายใจ การย่อยอาหาร และการขับถ่าย เพื่อให้มีชีวิตรอดและเติบโตมาได้อย่างดี ซึ่งถ้าดินดีก็เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะส่งผลไปถึงต้นไม้ใบหญ้าที่เราปลูก ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงต้องคอยดูแลดินให้ดี อย่าให้ขาดสารอาหารที่สำคัญเด็ดขาด อาจจะดูแลด้วยการนำปุ๋ยออร์แกนิก หรือปุ๋ยคอกไปใส่ในดินก็ได้ เพราะปุ๋ยคอกเปรียบเป็นอาหารเสริมให้อินทรีย์ในดินสมบูรณ์ และเมื่อดินสมบูรณ์ ก็จะช่วยให้ต้นหญ้าได้รับสารอาหารและแร่ธาตุอย่างเต็มที่ เติบโตมาอย่างสวยงามแข็งแรง และมีภูมิต้านต่อโรคพืชต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ



2. ตรวจสอบดินก่อนจะใส่ปุ๋ย

          เพื่อให้การปลูกต้นหญ้าเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและสวยงาม ควรจะนำดินไปตรวจสอบธาตุอาหารและแร่ธาตุก่อน จะได้รู้ว่าดินของเรายังขาดแร่ธาตุหรือสารอาหารที่จำเป็นตัวไหนอยู่ เพราะหากเราไม่ตรวจสอบดินก่อน แล้วซื้อปุ๋ยมาบำรุงดินตามความเข้าใจของตัวเอง ก็อาจจะทำให้ดินมีค่าแร่ธาตุที่ขาด ๆ เกิน ๆ จนเป็นพิษต่อต้นหญ้าและพืชนิดต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในดินมีไนโตรเจนมากเกินไป ก็จะเป็นอันตรายต่อน้ำบาดาลในดิน แม่น้ำลำคลอง ทะเล รวมไปถึงน้ำที่เราดื่มเองด้วย หรือถ้าในดินมีธาตุอื่น ๆ มากเกินไป ก็จะทำให้พืชตายได้เลยทีเดียว

3. บำรุงสนามหญ้าด้วยปุ๋ยชีวภาพ

          นอกจากปุ๋ยคอกแล้ว ยังมีปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยที่หมักจากเศษอาหาร และซากพืชแห้ง ๆ ผสมกับกากน้ำตาล ที่สามารถบำรุงต้นหญ้าให้เติบโตอย่างสวยงาม เขียวขจีได้ด้วย ซึ่งถ้าคุณไม่มีเวลาทำเองที่บ้าน ก็อาจจะหาซื้อปุ๋ยชีวภาพ หรือที่เรียกกันว่า อีเอ็ม มาใช้บำรุงสนามหญ้าก็ได้

 

4. อย่าใส่ปูนขาวมากเกินไป

          ดินในบางพื้นที่มีค่าความเป็นด่างมากอยู่แล้วโดยธรรมชาติ หรือบางพื้นที่อาจจะมีค่าความเป็นกรดสูงนำ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาที่เรารู้กันโดยทั่วไปก็คือ การนำปูนขาวมาปรับค่าความเป็นกรด-ด่างในดิน แต่ก่อนจะทำอย่างนั้นก็อยากแนะนำให้นำดินไปตรวจสอบก่อน เพราะลำพังแค่การสังเกตจากพืชที่โตมา อาจจะทำให้เราไม่ได้คำตอบเรื่องความเป็นกรด-ด่างในดินที่แท้จริง รวมถึงเราก็จะไม่มีทางรู้ได้ว่าในดินมีแร่ธาตุอะไรมากน้อยเท่าไหร่ หรือขาดอะไรที่สำคัญไปบ้างหรือเปล่า อีกทั้งค่าแมกนีเซียมและแคลเซียมในดินที่มีปูนขาว กับดินที่ไม่ปูนขาวก็ต่างกันด้วย โดยในดินปกติ จะมีค่าเฉลี่ยของแมกนีเซียมและแคลเซียมเป็น 7:1 แต่ในดินที่มีปูนขาวผสมอยู่ ค่าของแร่ธาตุทั้งสองจะเปลี่ยนเป็น 3:2 ซึ่งค่าแมกนีเซียมที่สูงกว่าแคลเซียมแบบนี้จะเปิดโอกาสให้เกิดวัชพืชขึ้นได้โดยง่าย ทางที่ดีหากต้องการจะปรับดินให้เป็นกลาง ก็ควรเลือกใช้ปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของหินปูนแคลเซียมสูงมาใส่ในดินแทน


 

5. เลือกปลูกหญ้าพันธุ์ดี

          หญ้าก็มีหลายสายพันธุ์เหมือนกับพืชทั่วไป บางพันธุ์มีต้นยาว บางพันธุ์เป็นชนิดต้นสั้น หรือพันธุ์ที่ทนทาน ตายยากแม้จะถูกเหยียบย่ำ พันธุ์ที่ชอบแดด หรือพันธุ์ที่โตช้า โตเร็วก็มีหมด แต่แนะนำให้เลือกซื้อหญ้าพันธุ์ใหม่ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะแก่การเพาะปลูก เพราะเป็นพันธุ์ที่โตช้า ทนต่อโรคพืช ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งลดความถี่ของการตัดหญ้า ที่เป็นส่วนเพิ่มภาวะโลกร้อนได้ถึง 10% เลยด้วย

6. สังเกตสัญญาณเตือน

          วัชพืชที่ขึ้นแซมมาในสนามหญ้าของเราจริง ๆ แล้วคือสัญญาณเตือนว่าดินกำลังมีปัญหาบางอย่าง และแม้ว่าเราจะกำจัดวัชพืชเหล่านี้ด้วยสารพัดวิธีไปแล้วก็ตาม แต่อีกไม่นานเจ้าวัชพืชทั้งหลายก็จะกลับมาก่อกวนสนามหญ้าของเราอีกครั้ง วิธีสังเกตก็คือ ถ้าวัชพืชขึ้นเยอะผิดปกติ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าดินด้านล่างได้กลายเป็นดินเหนียวที่มีความหนาแน่นนั่นเอง


 

7. ฉีดยาฆ่าแมลงให้ถูก

          มีแมลงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่เป็นตัวการทำร้ายต้นหญ้า และต้นไม้ของเรา แต่คนส่วนใหญ่มักจะพ่นยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดแมลงทุกชนิด เพราะเข้าใจว่าแมลงเหล่านั้นจะทำร้ายให้พืชตาย หรือติดโรคพืช ซึ่งจริง ๆ แล้วแมลงบางชนิดก็เป็นมิตรกับต้นหญ้า ดังนั้นคงดีกว่าหากเราจะรู้วิธีฉีดยาฆ่าแมลงที่ถูกวิธีดังนี้

 

  1. เลี่ยงใช้ยาฆ่าแมลงที่มีไนโตรเจนสูง เพราะไนโตรเจนเปรียบเสมือนอาหารอันโอชะของแมลงทุกชนิด และจะทำให้แมลงยิ่งเติบโตและแพร่พันธุ์มากขึ้น
  2. เลือกใช้ยาฆ่าแมลงชนิดดี ที่มีส่วนประกอบของธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เพราะปลอดภัยต่อต้นพืช คน และสัตว์
  3. ฉีดไส้เดือนฝอย กำจัดปลวก ด้วง และหนอน

8. หมั่นตัดหญ้าบ่อย ๆ

          หากอยากให้สนามหญ้าดูเขียวขจีน่ามอง ก็ต้องขยันตัดเล็มหญ้าบ่อย ๆ จะตัดด้วยเครื่องตัดหญ้าชนิดไหนก็ได้ แต่ควรตัดหญ้าไม่ให้สั้นจนเกินไป เพราะอาจจะกระทบกระเทือนไปถึงรากหญ้า และเป็นเหตุให้ต้นหญ้าตาย และที่เราต้องหมั่นตัดเล็มหญ้าบ่อย ๆ ก็เพราะว่า ทุกครั้งที่ตัดเล็มหญ้า ต้นหญ้าจะผลิยอดอ่อนออกมา ทำให้ต้นสนามหญ้าดูเขียวสดน่ามอง ซึ่งหากเป็นไปได้ก็ควรตัดเล็มหญ้าทุกสัปดาห์ แต่ในช่วงหน้าฝนที่หญ้ามักจะโตเร็ว ก็ต้องตัดหญ้าให้บ่อยขึ้น

 

9. รดน้ำให้พอเพียง

          ต้นหญ้าเป็นพืชที่ชอบน้ำมาก เราจึงต้องรดน้ำต้นหญ้าให้พอเพียงเพื่อให้หญ้าเจริญเติบโตอย่างเต็มที่สมบูรณ์ โดยอาจจะรดน้ำให้ชุ่มทุกเช้า จากนั้นก็เว้นมาเป็นช่วงเย็น แต่ถ้าจะให้ดีอาจจะลงทุนติดตั้งสปริงเกอร์พ่นน้ำชนิดที่ตั้งเวลาได้ เอาไว้เปิดรดน้ำสนามหญ้าระหว่างที่คุณไม่อยู่บ้าน และนาน ๆ ครั้งก็เปิดน้ำรดต้นหญ้าให้ชุ่มสักทีก็ได้ค่ะ

 

10. ปลูกหญ้าถมรอยแหว่ง

          หน้าดินอาจมีการทรุด หรือโดนน้ำเซาะจนเป็นแอ่งได้ แต่ผลกระทบจากกลไกธรรมชาติแบบนี้ก็ทำให้สนามหญ้าของเรามีรอยแหว่ง ไม่เรียบเสมอกัน ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้สักพัก และดูแลสนามหญ้าอย่างดีเป็นปกติ ต้นหญ้าก็จะงอกลามมายังพื้นที่ว่างจนเติมเต็มรอยแหว่งได้ในที่สุด แต่ถ้าใจร้อนก็อาจจะเลือกใช้วิธีโรยเมล็ดหญ้าลงในพื้นที่แหว่ง จานกั้นก็คลุมทับบาง ๆ ด้วยปุ๋ยชีวภาพ และรดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 2 สัปดาห์ต่อมาหญ้าก็จะงอกแซมขึ้นมาเติมเต็มรอยแหว่งให้สมบูรณ์แล้วค่ะ

 

11. ฟื้นฟูสภาพดิน

          ทั้งสารเคมีจากปุ๋ยเคมี น้ำที่กัดเซาะ และอีกสารพัดวิธีดูแลสนามหญ้าที่ทำกันมายาวนาน อาจจะทำให้ดินมีปัญหา หรือต้องการการฟื้นฟูบ้าง ซึ่งวิธีฟื้นฟูก็ทำได้หลายทาง แต่ที่สะดวกที่สุดแนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยออร์แกนิกลงไปบำรุงดิน และเลี้ยงไส้เดือนไว้ใต้ดิน เพราะปุ๋ยจากธรรมชาติเหล่านี้จะมีจุลินทรีย์ ที่จะช่วยพรวนดินให้มีช่องว่างพอที่อากาศ และออกซิเจนจะผ่านเข้าไป รวมถึงไส้เดือนเองก็จะช่วยเปิดทางให้ดินสามารถรับสารอาหารต่าง ๆ ที่เราใส่เพิ่มเติมลงไปได้อย่างสะดวกขึ้น

 

12. พยายามใช้ปุ๋ยออร์แกนิก

          อย่างที่บอกว่าปุ๋ยออร์แกนิก หรือปุ๋ยชีวภาพจะมีจุลินทรีย์อยู่ในนั้นค่อนข้างเยอะ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของดิน ทำให้ดินแข็งแรง อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญต่อพืช และจุลินทรีย์ยังช่วยเปิดโอกาสให้ดินสามารถรับธาตุอาหารที่เราใส่ลงไปได้อย่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ปุ๋ยออร์แกนิกยังช่วยเลี่ยงอันตรายจากสารเคมีไม่ให้เกิดผลกระทบกับแม่น้ำลำคลอง แหล่งน้ำธรรมชาติใต้ดิน ทะเล คน สัตว์ และชั้นบรรยากาศด้วย

 

13. เลือกปูหญ้าแผ่นดีกว่าหว่านเมล็ด

          การปลูกหญ้ามีวิธีให้เลือก 2 แบบ คือ ซื้อหญ้าแผ่นสำเร็จรูปมาปูให้เต็มสนาม หรือจะหว่านเมล็ดพันธุ์หญ้า แล้วรอให้ต้นหญ้าเติบโตขึ้นมา แต่หากคุณกำลังลังเลไม่รู้จะเลือกวิธีไหน แนะนำให้เลือกปูหญ้าสำเร็จรูปจะดีกว่า เพราะประหยัดในเรื่องค่าใช้จ่าย และเวลาในการสร้างสนามหญ้าให้เขียวขจี เนื่องจากหากเลือกปลูกหญ้าด้วยการหว่านเมล็ดพันธุ์ คุณจะต้องวุ่นวายกับขั้นตอนการเพาะบ่มมากมายกว่าต้นหญ้าจะเจริญเติบโตได้ขนาดที่ต้องการ อีกทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายกับการเปิดน้ำเลี้ยงเมล็ดพันธุ์ให้ชุ่ม รวมทั้งยังมีค่าปุ๋ยที่ต้องนำมาเป็นอาหารเสริมให้ต้นหญ้าอีก

 

14. ใส่ใจเรื่องพื้นที่

          เรื่องพื้นที่ก็เป็นเรื่องที่ควรต้องคำนึงเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน เนื่องจากหญ้าบางพันธุ์จำเป็นต้องปลูกในที่ที่แดดส่องถึงอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าหากนำไปปลูกในบริเวณที่มีเงาตึกบดบัง หญ้าก็จะโตไม่เต็มที่ หรือหญ้าบางพันธุ์ก็ไม่แข็งแรงพอที่จะถูกเหยียบย่ำ ดังนั้นหากนำไปปลูกบริเวณทางเท้า หรือทางเดินรถ หญ้าก็อาจจะตายได้ และในเมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรเลือกสถานที่ทำสนามหญ้าให้เหมาะสมกับพันธุ์ของต้นหญ้าด้วยนะคะ

 

15. เลือกใช้ยาฆ่าแมลงสูตรออร์แกนิก

          ขึ้นชื่อว่ายาฆ่าแมลง ยังไงก็ต้องมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม คน และสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว แต่คงจะดีกว่าหากเราจะเลือกใช้ยาฆ่าแมลงที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากกว่าสารเคมี เพราะผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล ก็ชี้ให้เห็นว่า เด็กที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ยาฆ่าแมลงและยากำจัดวัชพืชอยู่เป็นประจำ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคลูคิเมีย โรคมะเร็งสมอง และโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน มากกว่าเด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติถึง 4 เท่า
 

 

16. ตัดหญ้าอย่างมืออาชีพ

          การจะตัดหญ้าให้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่า ควรจะปล่อยให้หญ้าที่ตัดเล็มไป กองตัวรวมกันอยู่บนสนาม เพื่อให้กลายเป็นปุ๋ยชนิดหนึ่ง และที่สำคัญควรตระเตรียมเครื่องตัดหญ้าให้พร้อมดังนี้

  1. เช็กปริมาณน้ำมัน และความคมของใบมีดตัดหญ้า ถ้าใบมีดไม่คม ให้ลับหรือเปลี่ยนมีดใบใหม่
  2. พยายามอย่าตัดหญ้าเกิน 1 ใน 3 ของความยาวต้นหญ้าทั้งหมด และไม่ควรตัดหญ้าสั้นจนติดพื้นดินเกินไป
  3. ช่วงหน้าฝนให้หมั่นตัดหญ้าให้บ่อยขึ้น

     

17. เซย์ โน บริษัทกำจัดศัตรูพืช

          สมัยนี้อาจมีทางเลือกในการกำจัดศัตรูพืชที่สะดวกสบายมากขึ้น อย่างการจ้างบริษัมกำจัดศัตรูพืชให้มาพ่นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าวัชพืชให้หมดไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ทางที่ดีอย่าใช้บริการจากบริษัทเหล่านี้จะดีกว่า เพราะส่วนมากน้ำยาที่เขาใช้มักจะเป็นสารเคมีที่มีฤิทธิ์รุนแรงกว่ายาฆ่าแมลงออร์แกนิก และวิธีการทำงานของเขาที่จะพ่นน้ำยาไปทั่วสนามหญ้า ก็อาจจะทำให้สารเคมีฟุ้งกระจาย เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม เด็ก และสัตว์เลี้ยงได้


          หากเราสามารถดูแลสนามหญ้าด้วยวิธีออร์แกนิกได้มากเท่าไร สนามหญ้าของเราก็จะสวยงามเป็นธรรมชาติและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม คนในบ้าน รวมทั้งสัตว์เลี้ยงได้มากเท่านั้น แถมคุณและครอบครัวยังสามารถใช้สนามหญ้าในบ้านทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกันได้อย่างปลอดภัยด้วยจ้า


ขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม
  • ข้อเปรียบเทียบชนิดของโซฟา มีข้อดี-ข้อเสีย แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
  • ทำความสะอาดด่วน!! 6 จุดสกปรกที่เจออยู่ทุกวัน แต่ไม่ได้ใส่ใจ
  • บ้านมือสอง ตรวจสอบจุดต่างๆก่อนซื้อ เพื่อความชัวร์บอกเลยห้ามพลาด!!
  • 10 วิธีประหยัดไฟฟ้า กับเครื่องใช้ในบ้านง่ายๆ
  • 15 สิ่งของในบ้านควรทิ้ง ยิ่งเสียดาย บ้านยิ่งรก !!
  • กักตัว 14 วันอย่างไร ให้ปลอดภัยกับคนในบ้าน
  • "บัตรแมงมุม" สะดวกสบายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองในยุคปัจจุบัน ประกาศเริ่มใช้ตุลาคม 60 นี้ !!
  • ลองมาดูกันว่า คุณเหมาะกับชีวิตคอนโดหรือไม่?
  • 5 อันดับเว็บไซด์ขายบ้านยอดนิยม ที่มีคนเข้าใช้งานมากที่สุด!!!
  • เลือกอิฐแบบไหน อิฐมอญ อิฐมวลเบา อิฐบล็อก เหมาะกับสร้างบ้าน ประหยัดงบมากที่สุด
  • เช็คสิทธิ ทะเบียนราษฎร "เจ้าของบ้าน" กับ "เจ้าบ้าน" ในทะเบียนบ้าน ใครสิทธิเหนือกว่า หน้าที่ต่างกันอย...
  • เคล็ดไม่ลับ 10 วิธีซักผ้าสีตก คราบสีฝังแน่นอย่าทิ้ง ทำให้เสื้อกลับมาใส่ได้อีกครั้งดีกว่า
  • ข้อควรรู้ ซื้อบ้าน และที่ดินในโครงการจัดสรร เรื่องใดที่ควรทำหลังโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
  • แอร์ยี่ห้อไหนประหยัดไฟ 2567 ลดการใช้พลังงาน ช่วยประหยัดไฟได้ดี
  • วิธีเลือกเครื่องกรองน้ำ ใช้เครื่องกรองระบบไหนดี ตรวจสอบไส้กรองหลังการใช้งานอย่างไร
  • วิธีดูแลสนามหญ้าหน้าบ้าน ให้สวยสะอาดตามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใครๆก็อิจฉา

    สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นส่วนเติมเต็มให้บ้านดูเป็นบ้านมากขึ้นอีกเยอะ ยิ่งถ้าเป็นสนามหญ้าที่เขียวขจีดูสดชื่น ก็จะเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดจุดหนึ่งของบ้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะถ้าตอนเช้า ๆ ได้มีโอกาสมาเดินเล่นที่สนามหญ้า คงจะเป็นเช้าที่ให้ความรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลยเนอะ และถ้าคุณเป็นคนน่าอิจฉาที่มีสนามหญ้าอยู่ในบ้านแล้ว หรือกำลังคิดจะทำสนามหญ้าในบ้าน แต่ยังไม่ค่อยรู้วิธีดูแลสนามหญ้าให้สวยสดชื่นเท่าที่ควร เอาเป็นว่ามาดูทริคดูแลสนามหญ้าต่อไปนี้กันดีกว่า

    © สงวนลิขสิทธิ์ 2567 บริษัท ไทยโฮมทาวน์ จำกัด
    @thaihometown Scroll