บิวท์อินคอนโด 1 ห้องนอน เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ทำให้มีที่เก็บของเยอะขึ้น

        รีวิวตกแต่งคอนโด 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร ตกแต่งคอนโดด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินเน้นที่เก็บของ ไอเดียแต่งคอนโดห้องเล็กของคนที่มีของเยอะ 

         การแต่งคอนโดนอกจากจะเอาความชอบและความสะดวกสบายของตัวเองเป็นที่ตั้งแล้ว ควรจะมองให้ไกลและคิดถึงความเป็นอยู่ในอนาคตด้วย เพราะต้องมีข้าวของเครื่องใช้เพิ่มขึ้นแน่นอน เช่นเดียวกับ คุณ narcolepsy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เขาคนนี้เคยอยากได้คอนโดสไตล์เซน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรู้ว่าหลังจากย้ายเข้ามาอยู่แล้วต้องมีของเพิ่มมากขึ้นแน่ ๆ เลยหันไปเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแทน เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของและจะได้เหลือพื้นที่ไว้ใช้สอยอื่น ๆ เพิ่มขึ้น น่าจะเป็น ไอเดียตกแต่งคอนโด 1 ห้องนอน ที่เหมาะกับคนชอบช้อปปิ้งมาก ๆ เลยล่ะ 

[CR] ***รีวิวการแต่งห้องคอนโด 1 ห้องนอน ย่านเจริญกรุง-สาทร*** โดย คุณ narcolepsy 

         สวัสดีครับ พอดีผมเพิ่งมีโอกาสตกแต่งคอนโดใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้ก็เพิ่งเสร็จหมาด ๆ เลยอยากมารีวิวและแชร์ไอเดียให้เพื่อน ๆ ติชมกันอีกครั้งครับ

       โครงการนี้เปิดขายตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนรวดเดียว 3 ทำเล แต่ด้วยปัญหาหลายอย่างทำให้โครงการนี้เสร็จช้ากว่าเพื่อนร่วม 2 ปี ทำให้มีการคืนห้องเป็นจำนวนมาก แต่โครงการก็ดูจะไม่ได้เสียหายเท่าไร เนื่องจากเอากลับมาแล้วเคาะราคาขายหลังเปิดขายใหม่ ด้วยราคาที่แพงขึ้นมาก ๆ อ่าน ๆ แล้วบางท่านคงจะพอทราบกันนะครับว่าเป็นโครงการของอะไร เนื่องจากชื่อเสียงบริษัทนี้ในห้องนี้ค่อนข้างจะโด่งดัง แต่ผมไม่ได้มาเชียร์หรือตำหนิโครงการใด ๆ นะครับ ขอรีวิวเรื่องการแต่งห้องอย่างเดียวครับ

        ห้องที่ผมได้มาเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาดค่อนข้างใหญ่คือ 55 ตารางเมตร อยู่ชั้น 30+ จุดเด่นมาก ๆ ของห้องนี้คือเป็นห้องมุมที่ยื่นออกไปเดี่ยว ๆ ทำให้ได้วิวเปิดกว้างถึง 3 ด้าน เป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองสาทรด้วย ซึ่งผมว่าน้อยห้องนักที่จะได้วิวแบบนี้ในราคาที่จับต้องได้ เพราะโครงการอื่นอาจจะต้องซื้อห้องเพนท์เฮ้าส์ที่มีราคาเป็นสิบ ๆ ล้าน คิดแบบนี้เลยกัดฟันซื้อมาจนได้ครับ โชคดีได้อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพอดีเลยประหยัดค่าจดจำนองไปได้ส่วนนึง (ค่าโอน ปกติโครงการมีโปรโมชั่นฟรี All อยู่แล้ว โครงการเลยเนียนได้ประโยชน์ไปฟรี ๆ ขอส่วนลดเพิ่มก็ไม่ให้ 555)

 

        อันนี้เป็นแปลนของห้องครับ มีการวางแปลนไว้ค่อนข้างดี แบ่งสัดส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอนที่พอ ๆ กัน แต่ที่ชอบมากคือมีครัวที่แยกเป็นสัดส่วนและตู้เสื้อผ้าเข้ามุมที่มีขนาดใหญ่จุใจมาก ๆ  นอกจากนี้ก็เห็นได้ว่ามีหน้าต่างรอบทิศทางและอากาศถ่ายเทได้ดีด้วยครับ 
 

        สภาพห้องวันแรกที่ไปตรวจครับ จ้างคนมาตรวจเลยเพราะอย่างที่บอกว่าชื่อเสียงของเขาค่อนข้างดัง ต้องเอาให้ละเอียด แต่ถือว่าโชคดีครับ Defect ค่อนข้างน้อยและไม่มี Defect ที่สาหัส ผิดคาดมาก ๆ ครับ สภาพโดยรวมถือว่าโอเค ใช้เวลาแก้ Defect ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็เรียบร้อย

        และแล้วก็ถึงเวลาตกแต่งห้อง ผมเลือกที่จะติดตั้งบิวท์อินเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้คุ้มค่าที่สุด ในพื้นที่ที่จำกัดครับ แน่นอนว่าราคาจะสูงกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่มันเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่ได้เต็มที่มากกว่า

        การหาผู้รับเหมาเป็นสิ่งที่น่าหนักใจครับ ก่อนหน้านี้ตอนทำห้องคราวก่อน มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก จ้างผู้รับเหมาแบบเราไม่มีความรู้ ไม่มีข้อมูลเท่าไหร่ ไปเอาใบปลิวใต้คอนโดมาแล้วก็โทรหาเลย ปรากฏว่าเหนื่อยมากครับ  นัดแล้วมาบ้างไม่มาบ้าง วาดแบบง่าย ๆ ไม่มีลายลักษณ์อักษรชัดเจน งานออกมาไม่ตรงที่ตั้งใจ  เครียดครับ ขนาดทำแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ยังทำเป็นเดือน >_<

        แต่ครั้งนี้โชคดีครับ ได้ผู้รับเหมาที่พี่ชายแนะนำ เคยทำห้องให้เขามาก่อน ดูแล้วงานโอเค ราคาไม่แพง จึงตัดสินใจใช้บริการดูครับ ผรม มาดูหน้างาน มีการทำแบบในคอมพ์ให้ดู ณ ที่หน้างานเลย มีการวัดและลงขนาดของตู้และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ชัดเจน ผมเลือกเองว่าต้องการอะไรแบบไหน ผรม ดีมากครับ บอกว่าอันไหนทำได้ อันไหนทำไม่ได้ ต้องปรับเป็นแบบไหนยังไง

        คอนเซ็ปต์ที่คิดไว้คือห้องรับแขกตั้งใจจะให้เป็นสไตล์เรียบง่ายดูมินิมอลแบบเซน แต่ก่อนหน้านี้ดูกระทู้รีวิวแต่งห้องของสมาชิกท่านนึงแล้วยอมแพ้เพราะอันนั้นเซนมากก ผมเป็นพวกบ้าสมบัติคงทำโล่ง ๆ ขนาดนั้นไม่ไหว เพราะอยู่ ๆ ไปของจะกอง ๆ กันจนดูรกมากแน่นอน เลยเน้นพื้นที่เก็บของมากกว่าครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกแนวอะไรดี >_<
 

     ห้องนอนต้องการแบบคนละอารมณ์กับห้องรับแขกไปเลยครับ ส่วนตัวชอบแนวดิบ ๆ ห้องสีเข้ม ๆ ขรึม ๆ หน่อยครับ

     ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผมเลือกซื้อเองหมดครับตาม SB, Index งานแสดงเฟอร์นิเจอร์ งานบ้านและสวน ของในห้องแทบทุกชิ้น ราคาโปรโมชั่นครับ 555 ซื้อแล้วก็ฝากร้านไว้ก่อนแล้วค่อยนัดวันมาส่งอีกที (แต่พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าฝากได้ไม่นานนะครับ ส่วนใหญ่ได้ไม่เกิน 1-2 เดือน แนะนำใกล้โอนแล้วค่อยซื้อครับ ซื้อตามงานแสดงสินค้า ช่วงนาทีทองจะถูกที่สุดครับ อิอิ) เริ่มจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาลงก่อนครับ จำเป็นต้องให้มาลงก่อนเพราะจะได้ทราบตำแหน่งของโคมไฟต่าง ๆ ให้ชัดเจน
 

        ช่างติดตั้งไฟเข้ามาทำไฟก่อนครับ (แอบเพลียเล็กน้อย) เนื่องจากขนาดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้แล้วก็ยังอุตส่าห์ติดไฟผิดตำแหน่ง ผมเองก็ลำบากตรงที่ต้องทำงานไม่ว่างมาคุมงานติดตั้งเองได้ด้วย เลยต้องมีการแก้ตำแหน่งครับ ฝ้าเป็นรอยเลย T_T
 

        ต่อมางานบิวท์อินเริ่มเข้าแล้วครับ กำหนดการทำ 2 วันแต่เอาเข้าจริงปาไป 5 วัน เนื่องจากคอนโดค่อนข้างยุ่งยากในการขนของเข้าติดตั้งครับ ลิฟต์ขนของก็ไม่เปิดให้ใช้ เพราะปิดซ่อมอยู่ โครงการเอาลิฟต์โดยสารตัวนึงมาทำลิฟต์ขนของแทน (เพลียดอกที่ 2)
 

        ฝุ่นเยอะมากครับ ขนาดคลุมทุกอย่างไว้ก็ยังเลอะเทอะไปหมด เห็นแล้วเครียด ตอนนั้นรู้สึกคิดผิดที่เอาเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเข้ามาก่อนเลยครับ 
 

        ชั้นทีวีอันเดิมเอาออกครับคือก็สวยดี แต่ประโยชน์ใช้สอยน้อยไปนะครับ วางของก็ได้ไม่กี่ชิ้น ติดทีวีใหญ่มากก็ล้นกรอบออกมาไม่สวยแน่นอน เลยให้ทำใหม่เป็นตู้ลอย อันบนให้ชิดไปถึงฝ้าเพดาน อันล่างลอยเหนือพื้นเพื่อให้ไม่เกะกะเวลาเดินและง่ายต่อการทำความสะอาด ติดไฟซ่อนนิดหน่อยเพื่อให้สบายตาเวลาดูทีวี
 

        ในครัวรื้อตู้บนออกครับ ทำเป็นแบบมีบานปิดทั้งหมด เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของและเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและกันฝุ่นครับ ติดกระจกแบ็กสแปลชสีดำและซ่อนไฟใต้ตู้ครัวเพิ่ม เนื่องจากไฟในครัวน้อยมาก
 

        ทำตู้เหนือซิงค์เป็นที่คว่ำจานครับ มีถาดรองน้ำด้านล่าง ดูแบบมาจากคอนโดบางแห่ง ดูเรียบร้อยดีครับ (แต่อันนี้ถาดรองน้ำน่าเกลียดมากเป็นอะลูมิเนียมทำมาลวก ๆ ตอนนี้ให้แก้ไขเป็นสเตนเลสแล้วครับ)
 

        ห้องนอนเตียงเล็กไปครับ ไม่เข้าใจห้องก็ใหญ่แต่ให้เตียง 5 ฟุต นอนกลิ้งไม่สะใจเลยเอาออก หัวเตียงทำใหม่โดยใส่โคมไฟสีดำลงไป ใช้อ่านหนังสือแทนโคมไฟโต๊ะข้างเตียง ผนังใช้ลายปูนขัดมันเพื่อให้มีความดิบ จริง ๆ ตั้งใจจะติดวอลเปเปอร์ที่หัวเตียง แต่มีสายไฟโผล่ออกมาเลยต้องกรุผนัง แล้วติดฟอร์เมก้าลายปูนขัดมันแทน ตรงกลางใส่รูปที่ดูแอ็บสแตรคหน่อย จะได้ดูไม่เบื่อ อิอิ
 

        ผนังด้านข้างโต๊ะเครื่องแป้ง ติดกระจกบานใหญ่ เพื่อเพิ่มมิติและมุมมองของห้อง เนื่องจากโทนห้องสีเข้ม คิดว่าจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
 

        เหนือตู้เสื้อผ้าแค่เอาแผ่นไม้ปิดขึ้นไปให้เต็มไว้เท่านั้นครับ ที่ก็เหลือตั้งเยอะคงประหยัดงบ ก็เลยให้ทำตู้เก็บของเพิ่มขึ้นมา เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้อีกนิดหน่อย
 

        กระจกในห้องน้ำเป็นบานเดียวยาวตลอดแนวครับ สวยดี แต่ประโยชน์ใช้สอยน้อยมาก เลยให้รื้อออกแล้วทำเป็นตู้เก็บของครับ เก็บของได้อีกเยอะเลย แล้วก็ใส่ไฟเข้าไปหลังตู้ด้วย เพื่อความสวยงาม การดีลกับช่างก็มีปัญหาบ้างแต่ถือว่าน้อยมาก เนื่องจากทำงานเลิกเย็นทุกวัน มาถึงคอนโดช่างก็กลับไปหมดแล้ว แต่มีปัญหาผิดแบบอะไร ติดต่อผู้รับเหมาไปก็แก้ไขให้ทุกอย่างครับ ไม่มีอิดออดเลย ตรงนี้ขอชมครับ
 

        และแล้วก็ติดตั้งบิวท์อินเสร็จ เหนื่อยมากครับ ต้องแวะมาดูหลังเลิกงานทุกวัน สุดท้ายก็คือการติดตั้งม่านและวอลเปเปอร์ ตรงนี้เลือกใช้ช่างติดวอลเปเปอร์เจ้าเดิมที่เคยใช้บริการครับ บริการดี ราคาไม่แพง ได้ส่วนลดด้วยเนื่องจากเคยแนะนำลูกค้าให้ร้านเขา อิอิ
 

        ห้องนั่งเล่นเลือกใช้เป็นมู่ลี่ไม้สีโกลเด้น โอ๊กครับ เพื่อความรู้สึกผ่อนคลายสไตล์ญี่ปุ่น (รึเปล่า 555)
 

        ผนังเน้นให้เด่น 1 ด้านโดยเลือกใช้ลายหิน ส่วนอีกด้านเอาเรียบ ๆ แต่มีรายละเอียดเลยเลือกผนังลายอิฐสีขาวตามสมัยนิยมครับและส่วนตัวคือชอบลายอิฐด้วย ติดผนังด้วยรูปเรียบ ๆ รูปนึงเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
 

        ห้องนอนเลือกวอลเปเปอร์ลายปูนขัดมันให้เข้ากับหัวเตียงครับ สีวอลเปเปอร์จะเข้มกว่าฟอร์เมก้านิดหน่อย แต่ให้กรุฟอร์เมก้าทั้งห้อง ไม่ไหวครับ เกินงบไปมาก ๆ ผ้าม่านในห้องนอน จะเน้นการใช้งานเป็นหลักครับ คือต้องมืดสนิทได้แม้เป็นเวลากลางวัน เผื่อต้องการนอนกลางวัน เลยเลือกม่านจีบทึบแสง+ม่านโปร่ง ส่วนตรงโต๊ะริมหน้าต่างเลือกใช้ม่านพับครับ 2 ชั้นเช่นกัน
 

        และแล้วห้องก็เรียบร้อยครับ
 

        ระเบียงไม่ได้ทำอะไรมากครับ ตั้งใจจะปูไม้ระแนงแต่หาช่างทำยากมาก เนื่องจากพื้นที่แค่ 3.5 ตารางเมตร ค่าไม้ประมาณ 5,000 บาท แต่ค่าช่างปาไป 15,000 บาท บ้าไปแล้ว ก็เลยยังไม่ทำละกันครับ แค่เอาชุดโต๊ะเก้าอี้มาตั้งก็พอ เลือกแบบที่เป็นเก้าอี้บาร์ จะได้ไม่มีราวระเบียงมาเกะกะสายตา แต่ก็แอบเสียวนิดนึงครับ 555
 

        จะบอกว่าเก้าอี้บาร์เอาท์ดอร์แบบนี้หายากมากครับ ตระเวนดูหลายที่มาก ที่พอจะมีบ้าง ก็จะเป็นเหล็กทาสี ซึ่งนาน ๆ ไปสนิมขึ้นคงไม่สวยงาม ผมนึกว่าตามคอนโดจะนิยมใช้แบบนี้กันซะอีก 

        สรุปรวมเวลาในการตกแต่งประมาณ 1 เดือนครับ แต่ไม่ได้ทำทุกวันนะครับ ทำเฉพาะวันหยุดของผมสัปดาห์ละ 2 วันกับบิวท์อินโดยที่ผมไม่อยู่อีก 3-4 วัน เหนื่อยครับ แต่พอเห็นผลงานแล้วก็หายเหนื่อยไปได้เยอะเลย ต้องขอบคุณผู้รับเหมา บิวท์อิน ช่างม่าน และช่างติดวอลเปเปอร์มากครับ ที่ทำให้งานออกมาราบรื่นเช่นนี้ เหนื่อยกาย แต่ไม่เหนื่อยใจเลยครับ

ข้อคิดที่ได้จากการตกแต่งในครั้งนี้นะครับ

       1. หากจะให้สร้างตามแบบที่ต้องการ ควรเตรียมตัวให้ดี คุยแบบให้ละเอียดที่สุดตั้งแต่แรก เพราะการมาเพิ่มทีหลังจะสร้างความลำบากใจให้กับช่างและผู้รับเหมา เนื่องจากคิดราคาและวางแผนงานไว้แล้ว และมักจะไม่ได้ตามแบบที่ต้องการเท่ากับคุยกันแต่แรก

       2. ไม่ควรเอาเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเข้ามาก่อนบิวท์อิน เพราะมักจะเลอะเทอะ (มาก) และเกะกะการทำงานของช่างด้วย

       3. หากสละเวลาได้ควรมาคุมการติดตั้งเอง เนื่องจากขนาดมาร์กตำแหน่งไว้ให้แล้ว วางโต๊ะ วางโซฟาไว้ให้แล้ว ก็ยังติดไฟผิดตำแหน่งได้

       4. เตรียมงบเผื่อ ๆ ไว้เลยครับ เพราะส่วนมากบานปลายแน่นอนประมาณ 10-20% นี่ของผมก็ยังเหลือค่าจ้างช่างทาสีฝ้าใหม่อีก >_<

        จบแล้วครับ ท่านใดมีคำแนะนำหรือติชมได้นะครับ แต่ก็คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วครับ 555 ที่สำคัญต้องขอขอบคุณเพื่อนผมที่คอยเป็นธุระมาช่วยเฝ้าให้บางวันที่ผมไม่ว่างมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

        ลาด้วยภาพของเล่นสนองกิเลสเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ ไว้เปลี่ยนบรรยากาศเวลาเบื่อ ๆ ได้ อิอิ
 

        ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ narcolepsy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม